หน้าแรก English Corner

เรียนภาษาอังกฤษจากข่าว (30) : All about fighting

ขอสวัสดีและต้อนรับท่านผู้อ่าน fatonionline ทุกท่านสู่คอลัมน์ English Corner เรียนภาษาอังกฤษจากข่าวประจำสัปดาห์นี้ครับ

นับว่าเป็นสัปดาห์แห่งความวุ่นวายเลยทีเดียวกับการเปิดเทอมอย่างเป็นทางการของน้องๆนักเรียนระดับประถมและมัธยมที่มาพร้อมกับฝนฟ้าที่ไม่เป็นใจที่มาตกเวลาประจวบเหมาะกับการออกไปเรียนหรือทำงานและเวลากลับบ้านของพวกเรา และเมื่อฝนฟ้าไม่เป็นใจ การจราจรบนท้องถนนในกรุงเทพก็พลอยซ้ำเติมเราไปด้วยด้วยการมอบเวลาที่เพิ่มขึ้นในการไปถึงที่ทำงานและโรงเรียนนะครับ

นอกจากโรงเรียนเปิดเทอม ฝนฟ้าไ่ม่เป็นใจ และการจราจรที่คับคั่งแล้ว ภายในรัฐสภาของเราก็วุ่นวายไม่แพ้ด้านนอกเลยนะครับ กับข่าวการทะเลาะเบาะแว้งและไม่ลงเอยกันของเหล่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของเรา ผู้เขียนจึงอยากจะขอใช้โอกาสนี้นำผู้อ่านมาเรียนรู้คำศัพท์ สำนวน และวิธีใช้ภาษาอังกฤษต่างๆที่เกี่ยวกับการทะเลาะเบาะแว้งกันนะครับ

ครับ เมื่อพูดถึงการทะเลาะเบาะแว้งแล้ว คำกริยาพระเอกของเราเลยก็คือ to fight (ไฟทฺ) ซึ่งหมายถึงการทะเลาะเบาะแว้ง ลงมือลงไม้กัน โดยคำกริยานี้สามารถใช้เป็นคำนามได้ด้วยเช่นเดียวกันครับ ผู้อ่านอย่าสับสนกับคำนามflight (ไฟลทฺ) ที่หมายถึงเที่ี่ยวบินนะครับ โดย 2 คำนี้จะสะกดและออกเสียงไม่เหมือนกันครับ

การทะเลาะเบาะแว้งกันนั้น หากไม่ได้ลงมือลงไม้กระทบกระทั่งกันแล้ว ก็เป็นเพียงแต่การมีปากเสียงกันเฉยๆ โดยการไม่ลงเอยกันลักษณะนี้นั้นใช้คำกริยา to argue (อ๊ารฺกยู) ครับ โดยคำกริยา fight เป็นได้ทั้งกริยาต้องการกรรมและไม่ต้องการกรรม โดยสามารถบวกกรรมตรงได้เลย เช่น ‘My friend John fought Sammy last night.’ “จอห์นเพื่อนผมทะเลาะ(สู้)กับแซมมี่เมื่อคืนนี้” หรือสามารถใส่บุพบท with ไปด้านหลังได้ครับ เช่น ‘My friend John fought with Sammy last night.’ ขณะที่ argue เป็นกริยาไม่ต้องการกรรม ดังนั้นถ้าเราต้องการมีกรรมตรงจะต้องมีบุพบท with เสมอครับ เช่น ‘I don’t want to argue with you.’ “ฉันไม่อยากเถียงกับเธอ”

ทีนี้เรามาดูสำนวนต่างๆที่เกี่ยวกับคำกริยา fight กันบ้างนะครับ สำนวนแรกเลยคือ to fight back at someone/something หมายถึงการสู้กับใครหรืออะไรเพื่อป้องกันตัวครับ เช่น ‘It was hard to fight back at them last night as there were 3 of them!’ “มันยากที่จะสู้เพื่อป้องกันตัวกับพวกเขาเมื่อคืนนี้ เพราะเขามากันตั้ง 3 คน!”

สำนวนถัดไปคือ to fight fire with fire ซึ่งถ้าแปลตรงตัวคือสู้กับไฟด้วยไฟ ท่านผู้อ่านพอจะเดาความหมายของสำนวนนี้ได้หรือไม่ครับ ใช่แล้วครับสำนวนนี้หมายถึง เกลือจิ้มเกลือ หรือตาต่อตาฟันต่อฟันนั่นเองครับ ตัวอย่างการใช้เช่น ‘In the face of stiff competition, we have to fight fire with fire.’ “ในช่วงของการแข่งขันสูงเช่นนี้ เราต้องสู้อย่างตาต่อตาฟันต่อฟัน”

สำนวนที่ 3 ในวันนี้คือ to fight cats and dogs หรือแปลตรงตัวคือ สู้กันเป็นหมาเป็นแมว ซึ่งหมายถึงทะเลาะเบาะแว้งกันตลอดเวลาครับ เช่น ‘When I was young, my brother and I would fight cats and dogs.’ “ตอนผมเด็กๆ ผมกับน้องชายผมมักจะทะเลาะกันเสมอๆ”

สำนวนถัดไปคือ to fight tooth and nail หรือสู้แลกด้วยฟันและเล็บ ความหมายคือการต่อสู้กับใครหรืออะไรด้วยความยากลำบากครับ เช่น ‘We have fought tooth and nail in order to have that right.’ “พวกเราต่อสู้อย่างสุดความสามารถเพื่อให้ได้มาเพื่อสิทธินั้น”

นอกจากนั้นแล้ว เรายังมีสำนวนภาษาอังกฤษอีก 2-3 สำนวนที่หมายถึงการทะเลาะวิวาทครับ ได้แก่ fists were flying หรือความหมายตรงตัวคือหมัดบินว่อน ซึ่งหมายถึงการต่อสู้ที่ดุเดือดครับ เช่น ‘A couple days ago, we Thais have witnessed the situation where fists were flying everywhere in the parliament.’ “2 วันก่อน เราคนไทยได้ประจักษ์เป็นพยานการทะเลาะกันอันดุเดือดในรัฐสภา”

และสำนวนที่ 2 คือ gloves come off หรือถอดถุงมือ ซึ่งหมายถึงเตรียมพร้อมที่จะสู้ ตัวอย่างการใช้เช่น ‘When she heard that he would leave her for another woman, gloves were coming off.’ “เมื่อเธอได้ยินเขาบอกว่าเขาจะเลิกกับเธอไปหาผู้หญิงคนอื่น เธอก็เงื้อมือเตรียมสู้ทันที”

และสำนวนสุดท้ายที่เกี่ยวกับการต่อสู้ประจำสัปดาห์นี้คือ take it/this outside หรือความหมายตรงตัวคือ เอาออกไปข้างนอก หมายถึงการท้าคนเพื่อทะเลาะหรือต่อสู้กับตนเองครับ เช่น ‘You! You want to take this outside?’ “แก!แกจะต่อยกับฉันหรอ?”

บทเรียนภาษาอังกฤษในวันนี้ผู้เขียนมิได้อยากให้ท่านผู้อ่านนำไปใช้แต่อย่างใดหากแต่เพื่อเป็นความรู้และวิทยาทานเท่านั้นนะครับ จนกว่าจะพบกันใหม่ Until then, keep your gloves in your hands tightly. Don’t let them come off! รักษาถุงมือให้อยู่กับมือของท่านอย่างแน่นหนาและอย่าถอดมันออกนะครับ!