หน้าแรก English Corner

เรียนภาษาอังกฤษจากข่าว (26): Idioms with ‘Moon’

สวัสดีและยินดีต้อนรับท่านผู้อ่านทุกท่านสู่ English Corner ประจำสัปดาห์ต้นเดือนพฤษภาคมครับ สำหรับสัปดาห์นี้ ชาวโลกจะได้มีโอกาสชื่นชมเหตุการณ์ทางดาราศาตร์อีกครั้งหนึ่งนั่นคือปรากฏการณ์ ‘Super Moon’ หรือปรากฏการณ์ที่พระจันทร์เคลื่อนตัวเข้าใกล้โลกมากที่สุดในรอบปี ซึ่งจะทำให้เราสามารถมองเห็นพระจันทร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ โดยคนไทยสามารถชื่นชมกับปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ครั้งนี้ได้ในคืนวันที่ 6พฤษภาคม 2555 นี้ครับ

เหมือนเช่นเคย เมื่อข่าวเด่นของเราประจำสัปดาห์นี้เป็นข่าวเกี่ยวกับดวงจันทร์ English Corner จึงจะขอนำเสนอสำนวนภาษาอังกฤษต่างๆที่เกี่ยวกับดวงจันทร์กันนะครับ

สำนวนภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับพระจันทร์สำนวนแรกเลยคือ to ask for the moon ครับ หรือแปลตรงตัวคือ ขอพระจันทร์หรืออยากได้พระจันทร์ ใช่แล้วครับ สำนวนภาษาอังกฤษสำนวนนี้จะใกล้เคียงกับสำนวนไทยของเรา เวลาที่เราต้องการหรือปรารถนาอยากได้สิ่งใด เราจะอ้อนวอนขอจากพระจันทร์ให้ประทานให้เรา แต่ฝรั่งเขาจะเอาดวงจันทร์ทั้งดวงเลยนะครับ เพราะฉะนั้นสำนวนภาษาอังกฤษสำนวนนี้จึงมีความหมายเชิงเปรียบเทียบหมายถึง ความต้องการหรืออยากได้ในสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้หรือมีมูลค่ามากมายมหาศาลครับ เช่น ‘Don’t ask for the moon here because you are never going to get it. Be reasonable!’ “อย่ามาเรียกร้องในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะว่าเธอไม่มีทางที่่จะได้มันหรอก มีเหตุผลหน่อย!”

สำนวนที่ 2 คือ to moon something away ซึ่งทำหน้าที่เป็นคำกริยามีความหมายว่า เสียเวลาไปกับการคร่ำครวญหรือเสียใจครับ ตัวอย่างเช่น ‘After having broken up with his girlfriend, Amnat mooned the whole year away.’ “หลังจากเลิกกับแฟนสาว อำนาจคร่ำครวญเสียใจไปเป็นปี” อีกสำนวนหนึ่งที่เกี่ยวกับพระจันทร์และมีความหมายใกล้เคียงกันคือ to moon about/over someone or something เป็นกริยามีความหมายถึงการคร่ำครวญเสียใจให้กับใครหรือเรื่องอะไรครับ ตัวอย่างการใช้ เช่น ‘Stop mooning about/over your cat! Cats always come back eventually.’ “เลิกคร่ำครวญเรื่องแมวเธอสักที! แมวมันมีสัญชาตญาณของการกลับบ้านนะ” หรือ ‘Benjaporn is still mooning about/over Palapol.’ “เบญจพรยังคงเศร้าเกี่ยวกับพลพล”

สำนวนถัดมาคือ once in a blue moon หรือแปลตรงตัวคือ หนึ่งครั้งตอนที่พระจันทร์เป็นสีนำ้เงิน โดย blue moon นั้น หลายๆคนมักจะเข้าใจผิดว่าพระจันทร์เปลี่ยนสีจากสีเหลืองนวลเป็นสีนำ้เงิน ซึ่งจริงๆแล้วปรากฏการณ์ blue moon นั้นหมายถึง การที่พระจันทร์เต็มดวงครั้งที่ 2 ในรอบปฏิทิน หรือพูดง่ายๆก็คือถ้าเดือนใดมีพระจันทร์เต็มดวง 2 ครั้ง ครั้งที่ 2 จะเรียกว่า blue moon ครับ โดยปรากฏการณ์ blue moon หรือพระจันทร์เต็มดวงครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือนนั้น เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างยากสักเล็กน้อย เพราะโดยปกติแล้วพระจันทร์เต็มดวงจะเกิดขึ้นแค่เดือนละครั้งเท่านั้น ดังนั้น สำนวนภาษาอังกฤษ once in a blue moon หรือหนึ่งครั้งในปรากฏการณ์ blue moon นั้น จึงมีความหมายหมายถึงนานๆที หรือเป็นไปได้ยากที่จะเกิดขึ้นนั่นเองครับ ตัวอย่างเช่น ‘Once in a blue moon does my husband buy flowers for me.’ “นานๆทีสามีฉันถึงจะซื้อดอกไม่้มาฝากฉันสักที”

สำนวนที่เกี่ยวกับพระจันทร์สำนวนถัดมาคือ to promise the moon to someone หรือ to promise someone the moon โดยสำนวนนี้เป็นคำกริยาหมายความถึง การสัญญาที่ไม่เป็นจริงกับใคร หรือสัญญาที่เกินความเป็นจริงครับ เช่น ‘My boss promised the moon to me/ My boss promised me the moon, but he never gave me a raise.’ “เจ้านายของผมสัญญากับผมลมๆแล้งๆ โดยที่ผมไม่เคยได้เงินเดือนขึ้นเลย”

สำนวนถัดไปนั้นผู้เขียนมั่นใจว่าท่านผู้อ่านหลายท่านคงจะคุ้นเคยกับสำนวนนี้เป็นอย่างดีครับ สำนวนที่ว่านั้นคือ to reach for the moon หรือ to reach for the stars ซึ่งมีความหมายตรงตัวคือ การไขว่ขว้าหาดวงจันทร์ หรือดวงดาวครับ ซึ่งมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบคือ การพยายามให้ได้สิ่งใดสิ่งหนึ่งมาด้วยความยากลำบาก ตัวอย่างการใช้เช่น ‘If you want to succeed, you have to reach for the moon / the stars.’ “ถ้าคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จ คุณต้องพยายามอย่างมากเพื่อให้ได้มันมา”

สำนวน to be over the moon เป็นสำนวนภาษาอังกฤษอีกหนึ่งสำนวนที่มีดวงจันทร์เป็นส่วนเกี่ยวข้องครับ โดยมีความหมายว่ามีความสุขหรือพึงพอใจกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างมาก ตัวอย่างการใช้ เช่น ‘When my son told me about his exam results, I was over the moon.’ “ฉันรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากเมื่อทราบผลการสอบของลูกชายฉัน”

สำหรับสำนวนสุดท้ายประจำสัปดาห์นี้ขอนำเสนอคำกริยา to moonlight หรือแสงจันทร์ โดยมีความหมายคือ การทำงานที่นอกเหนือจากงานประจำของตัวเอง เช่น ‘Somsri has been moonlighting as a waitress in the evening to support her family.’ “สมศรีทำงานเสริมเป็นพนักงานเสริฟช่วงเย็น เพื่อช่วยครอบครัวของเธอ”

พอพูดถึงแสงจันทร์แล้วผู้เขียนก็อดไม่ได้ที่จะแนะนำคำศัพท์ภาษาอังกฤษอีกคำหนึ่งที่เกี่ยวกับแสงจันทร์เหมือนกันนั่นคือคำนาม moonshine หรือมีความหมายโดยตรงคือแสงจันทร์เช่นเดียวกัน โดย moonshine นั้นหมายถึง เหล้าเถื่อนครับ หรือเหล้าที่มีการต้มกันเองโดยผิดกฎหมาย ผู้เขียนสันนิษฐานเอาเองว่าอาจจะเป็นเพราะเมื่อเป็นเหล้าที่ผิดกฎหมายแล้ว การผลิตจึงอาจจะต้องมีการแอบทำช่วงกลางคืนซึ่งจะต้องใช้แสงจันทร์ในการผลิตจึงมีการเรียกเหล้าประเภทนี้ว่า moonshineครับ

English Corner ประจำสัปดาห์นี้คงจะต้องขอลาท่านผู้อ่านที่รักทุกท่านแต่เพียงเท่านี้ หวังเป็นอย่างยิ่งเหมือนเช่นเคยว่าท่านผู้อ่านคงจะได้รับความรู้และความบันเทิงจากคอลัมน์ English Corner ไปไม่มากก็น้อย อย่าลืมติดตามปรากฏการณ์ Super Moon ในคืนวันที่ 6 พฤษภาคม นี้กันนะครับ แล้วมาเล่าให้ผู้เขียนฟังบ้างว่าพระจันทร์ที่บ้านเราดวงโตขึ้นกว่าปกติมากน้อยเท่าใด