หน้าแรก English Corner

เรียนภาษาอังกฤษจากข่าว (23) : Idioms with ‘Water’

สวัสดีปีใหม่ไทยท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน ขอให้ท่านผู้อ่านจงประสบกับความสุขความเจริญและคิดหวังสิ่งใดก็ให้ได้ในสิ่งที่มุ่งมาตรปรารถนาครับ

กลับมาพบกันอีกครั้งกับ English Corner ประจำสัปดาห์วันหยุดยาวของชาวไทยเนื่องในวันเทศกาลสงกรานต์นะครับ สำหรับเทศกาลนี้สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ ‘น้ำ’ ครับ  ก็แวะมาอ่าน English Corner ประจำสัปดาห์นี้กันก่อนนะครับ เพราะ English Corner ประจำสัปดาห์นี้ เราจะมาเรียนรู้สำนวนภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับน้ำกันครับ เพื่อสร้างความชุ่มฉ่ำให้กับท่านผู้อ่าน

สำนวนภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับน้ำ หรือ water (ว๊อเด่อะรฺ) นั้นมีเยอะแยะมากมายทีเดียวครับ วันนี้ ผู้เขียนจะขอยกตัวอย่างสำนวนที่เกี่ยวกับน้ำมาให้ท่านผู้อ่านได้เรียนรู้กันพอหอมปากหอมคอและเพียงพอกับเนื้อที่ของคอลัมน์จะอำนวยครับ สำนวนภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับน้ำสำนวนแรกเลยคือ as a duck takes to water หรือแปลตรงตัวคือ ราวกับเป็ดอยู่ในน้ำ เนื่องจากเป็ดเป็นสัตว์ที่คุ้นเคยกับน้ำดีอยู่แล้ว ดังนั้นสำนวนนี้จึงหมายถึง ทำตัวตามสบาย เป็นธรรมชาติ ไม่มีการประหม่าหรือวิตกจริตครับ เช่น ‘When Malee has to speak on the stage, she speaks as a duck to water.’ “เวลามาลีต้องพูดในที่สาธารณะหรือบนเวที หล่อนพูดโดยไม่มีอาการประหม่าเลย”

สำนวนถัดไปคือ to be like a fish out of water หรือ ถ้าแปลตรงตัวคือปลาที่ไม่ได้อยู่ในน้ำครับ ซึ่งมีความหมายเปรียบเทียบหมายถึงสถานการณ์ที่เรารู้สึกไม่ดีเนื่องจากเราไม่คุ้นเคยหรือแตกต่างไปจากคนที่เราเคยแวดล้อมด้วยครับ เช่น ‘Pim has just moved to the new school, and she feels like a fish out of water because all the other children in the school have rich, middle-class parents.’ “พิมพึ่งจะย้ายไปอยู่โรงเรียนใหม่ได้ไม่นาน และเธอก็เริ่มรู้สึกแปลกแยก เนื่องจากผู้ปกครองของเด็กนักเรียนคนอื่นๆเป็นคนรวยและคนชั้นกลางทั้งสิ้น”

สำนวนที่ 3 ประจำสัปดาห์นี้คือ be water under the bridge หรือ แปลตรงตัวคือเป็นน้ำใต้สะพานครับ ซึ่งมีความหมายเปรียบเทียบคือ ปัญหาหรือสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีที่เกิดขึ้นมานานแล้วจนกระทั่งทุกคนเคยชินและไม่รู้สึกอะไรแล้ว ตัวอย่างการใช้เช่น ‘That our village has no electricity is water under the bridge.’ “การที่หมู่บ้านเราไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นปัญหาที่ทุกคนเคยชินแล้ว”

สำนวนภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับน้ำสำนวนถัดไปคือ blood is thicker than water ซึ่งมีความหมายตรงกับสำนวนภาษาไทยคือ เลือดเข้มข้นกว่าน้ำ หมายความถึง คนในครอบครัวเราย่อมดีกว่าคนนอก เช่น ‘My friend invited me to go camping on Saturday, but I have to go to my cousin’s wedding instead. Blood is thicker than water, after all.’ “เพื่อนผมชวนไปออกแค้มพ์กันวันเสาร์นี้ แต่ผมต้องไปงานแต่งงานลูกพี่ลูกน้อง ท้ายที่สุดแล้วเลือดย่อมเข้มข้นกว่าน้ำอยู่ดี”

สำนวนถัดไปเป็นสำนวนที่ค่อนข้างจะโบราณสักเล็กน้อย แต่มีความหมายใกล้เคียงกับสำนวนในภาษาไทยคือ ผ่านร้อนผ่านหนาว ซึ่งในภาษาอังกฤษสำนวนที่ว่า คือ go through fire and water ซึ่งจะมีความแตกต่างกันสักเล็กน้อยโดยความหมายในภาษาอังกฤษจะหมายถึงต้องผ่านความยากลำบากกับอะไรสักอย่างเพื่อได้มาซึ่งสิ่งที่หวังไว้่ครับ ตัวอย่างการใช้เช่น ‘We went through fire and water to receive this first prize.’ “เราต้องผ่านความยากลำบากมามากเพื่อที่จะคว้ารางวัลที่ 1 นี้มาได้”

สำนวน make someone’s mouth water ซึ่งมีความหมายค่อนข้างตรงตัวก็คือ ทำให้ใครน้ำลายสอครับ เช่น ‘Mom, your Tom Yum Kung always makes my mouth water!’ “แม่ ต้มยำกุ้งของแม่ทำให้ผมน้ำลายสอเสมอเลยนะ”

สำหรับคนที่ใช้จ่ายเงินอย่างสุรุ่ยสุร่าย ให้ใช้สำนวนภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับน้ำสำนวนนี้เลยครับคือ spend money like water หรือใช้เงินราวกับน้ำ เช่น ‘Yupin always spends money like water. No wonder she’s always broke.’ “ยุพินใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายมาก มิน่าล่ะหล่อนถึงได้ถังแตกอยู่เสมอๆ”

ผู้เขียนขอทิ้งท้าย English Corner ประจำสัปดาห์นี้ด้วยสำนวนสุภาษิตภาษาอังกฤษจำนวน 2 สำนวน ก่อนจากไปในสัปดาห์นี้นะครับ สำนวนแรกคือ you can lead a horse to water, but you can’t make it drink โดยแปลตรงตัวคือ คุณสามารถนำม้าไปยังแหล่งน้ำได้ แต่คุณไม่สามารถบังคับให้มันดื่มน้ำได้ครับ ความหมายเชิงเปรียบเทียบก็คือ เราสามารถหยิบยื่นโอกาสให้ใครสักคนหนึ่งได้ แต่เราไม่สามารถบังคับให้เขาคว้ามันได้ครับ ตัวอย่างเช่น ‘You can lead a horse to water, but you can’t make it drink. I’ve told Pongsakorn about these job opportunities, but he didn’t applied for any of them.’ “เรานำม้าไปเจอน้ำได้แต่เราบังคับม้าให้ดื่มน้ำไม่ได้จริงๆนะ ฉันบอกพงศกรเรื่องตำแหน่งงานหลายตำแหน่งให้เขา แต่เขาไม่สมัครเลยสักอันเดียว”

และสำนวนสุภาษิตที่เกี่ยวกับน้ำสำนวนสุดท้ายประจำสัปดาห์นี้ก็คือ you never miss the water till the well runs dry แปลตรงตัวคือ คุณไม่มีวันคิดถึงน้ำจนกระทั่งบ่อน้ำแห้งเหือดไป ความหมายเชิงเปรียบเทียบก็คือ เราจะไม่รู้สึกถึงความสำคัญของอะไรจนกระทั่งเราได้สูญเสียสิ่งนั้นไปแล้วครับ ตัวอย่างเช่น ‘I’ve never realized what a good friend Sunisa was until she moved away. You never miss the water till the well runs dry.’ “ฉันไม่เคยตระหนักเลยว่าสุนิสาเป็นเพื่อนที่ดีขนาดไหนจนกระทั่งวันที่หล่อนย้ายออกไป เราจะไม่คิดถึงน้ำจนกระทั่งบ่อน้ำแห้งเหือดไป”

English Corner ขอสวัสดีปีใหม่ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่านอีกครั้งครับ ขอให้ท่านผู้มีชีวิตที่เย็นชุ่มฉ่ำดั่งสายน้ำที่พัดสาดกันในเทศกาลสงกรานต์นี้นะครับ จนกว่าจะพบกันใหม่ สวัสดีครับ!