หน้าแรก บทความ

ถอดรหัสทฤษฎีลูกตุ้ม “สะเดา –ด่านนอก –หาดใหญ่” การขยายตัวของขบวนการเคลื่อนไหวในจว.ชายแดนใต้ (ตอนจบ)

เมื่อการค้นหาสาเหตุที่แท้จริง ของเหตุการณ์วางระเบิด ในอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เข้าสู่กระบวนการการวิเคราะห์บนแนวคิดตาม ทฤษฎีลูกตุ้ม กับยุทธศาสตร์ของขบวนการบีอาร์เอ็นที่ต้องการช่วงชิงความได้เปรียบในการก้าวสู่การเคลื่อนไหวขยายขบวนการ และมีเป้าหมายสู่การยึดครองภาคใต้ตอนล่างแบบเบ็ดเสร็จ เป็นสิ่งที่กระตุ้นเตือนถึงสถานการณ์ในอนาคต ที่จะกำหนดชะตาของสะเดา ที่ต้องกลางมาเป็นลูกตุ้มตรงกลางในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์บนเหตุความไม่สงบ

และนับเป็นอำเภอใหม่ อำเภอที่ 5 ของจังหวัดสงขลา ที่ถูกขยายพื้นที่ก่อความไม่สงบและเป็นพื้นที่ที่หลายฝ่าย ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง บนจุดแข็งของสะเดา ที่จะต้องวิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและความเชื่อมโยงทั้งหมด เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการป้องกัน ให้สะเดารอดพ้นจากภัยคุกคามในครั้งนี้

000…วิเคราะห์ปฏิบัติการของขบวนการ

เมื่อเป้าหมายใหญ่ทางยุทธศาสตร์ของขบวนการบีอาร์เอ็น มุ่งหน้าสู่สะเดา ที่มีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ และการขยายขบวนการเป็นปัจจัยสำคัญการ การเดินหน้าเข้าหาสะเดาด้วยการก่อเหตุวางระเบิด จึงเป็นสิ่งที่ตามมา โดยมุ่งหวังให้เป็นการข่มขู่ และสร้างศักยภาพของขบวนการ และมีเรื่องของอำนาจต่อรองในเวทีเจรจาสันติภาพเป็นเป้าหมายรอง

ซึ่งในข้อมูลจากหลายฝ่ายยืนยันว่า แท้ที่จริงแล้ว สะเดา เป็นพื้นที่ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับการก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งก่อนหน้านี้

000..เหตุระเบิดที่หาดใหญ่เชื่อมโยงสะเดา

ข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคงที่ระบุถึงกลุ่มที่เคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดสงขลา ที่พุ่งเป้าไปที่การหาคำตอบความเชื่อมโยงจาการก่อเหตุในพื้นที่สงขลาในอดีต นับย้อนไปถึงช่วงต้นปี 2555 กับกรณีเหตุระเบิดที่โรงแรมลีการ์เด้น ในอำเภอหาดใหญ่ ซึ่งพบข้อมูลที่น่าสนใจหลายประการ โดยเฉพาะเส้นทางการก่อเหตุ ที่มีที่มาต้นทางจาก อำเภอสะเดา

และนี่อาจเป็นข้อมูลเชิงลึกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการหาคำตอบสนับสนุนเหตุผลในการขยายพื้นที่เข้าสู่สะเดาของกลุ่มบีอาร์เอ็น ภายใต้ชื่อของกองกำลังอาร์เคเคที่มีแกนนำอย่าง “รุสรัน ใบหมะ” หนึ่งในผู้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิดในหาดใหญ่เมื่อปี 2555 และ เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิดในสะเดาด้วยเช่นเดียวกัน

000… “รุสรัน ใบหมะ” และความเกี่ยวพันกับสะเดา

การก่อเหตุวางระเบิดโรงแรมลีการ์เด้น ที่หาดใหญ่เมื่อปี 2555 กับแนวทางการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด และตามจับกุม “ เจะหมะ วานิ” หรือ มาค่อม หรือ ไคโร แกนนำระดับสูงของบีอาร์เอ็นโดยได้เบาะแสถึงรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุว่าเข้ามาทำการเปลี่ยนทะเบียน ในพื้นที่อำเภอสะเดา ก่อนนำไปก่อเหตุในหาดใหญ่

เหตุการณ์ระเบิดที่หาดใหญ่เกิดขึ้น 1 ปี ก่อนบีอาร์เอ็นจะประกาศให้สะเดาเป็นหนึ่งในเขตเป้าหมายของการเคลื่อนไหว ที่เชื่อกันว่า “รุสรัน ใบหมะ” น่าจะมีข้อมูลเกี่ยวกับสะเดาเป็นอย่างดี เพราะเป็นคนอำเภอจะนะ และเคลื่อนไหวอยู่แถบ 4 อำเภอพื้นที่สีแดงของจังหวัดสงขลา และกลายมาเป็น แนวรุกสำคัญในการขยายพื้นที่เข้ามาที่อำเภอสะเดา

000…เชื่อมโยงเหตุระเบิดที่ภูเก็ต

บนแนวทางการสอบสวนของตำรวจ และหน่วยงานความมั่นคง ยอมรับเกี่ยวกับความเชื่อมโยงของการวางระเบิดในพื้นที่สะเดา แต่ส่วนหนึ่งก็ยังคงให้น้ำหนักไปที่ขบวนการธุรกิจนอกกฏหมาย ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน ที่มีส่วนเชื่อมโยงไปถึงการวางระเบิดในจังหวัดภูเก็ตในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน

ไม่แปลกที่ทั้งสองประเด็นตามแนวทางของตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงจะให้ความสนใจทั้งสองส่วน เพราะแท้ที่จริงแล้วหากมองจากยุทธศาสตร์ในภาพรวมทั้งหมด ทั้งสองส่วนก็คือ “ยุทธศาสตร์เดียวกัน” คือการผูกเอาความความเคลื่อนไหวของขบวนการ เข้าหาเส้นทางทางเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น

000… เสียสะเดาหายนะแห่งยุทธศาสตร์ภาคใต้ตอนล่าง

“กฤษฎา บุญราช” ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยเกี่ยวกับเหตุการลอบวางระเบิดที่สะเดาว่า รถที่ใช้ก่อเหตุ พบว่าเป็นรถที่ก่อเหตุฆ่า 5 ศพ ที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยที่สภาพรถได้มีการเปลี่ยนสีและต่อเติมจากสภาพเดิม และยอมรับว่าเป็นเคลื่อนไหวของกลุ่มอาร์เคเค โดยเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เชื่อมโยงกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ น่าจะเชื่อมโยงกลุ่มอิทธิพลทำธุรกิจผิดกฎหมายในพื้นที่

ขณะที่หน่วยงานความมั่นคงยืนยันถึงความสำคัญของสะเดา ที่จะต้องหาแนวทางป้องกันและแก้ไข ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้น และกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยระบุถึงความสำคัญของสะเดาในเชิงยุทธศาสตร์ คล้ายกับทฤษฎีลูกตุ้มที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ว่า “สะเดา มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจมาก และมีความเชื่อมโยงกับหาดใหญ่ และด่านนอกในทางธุรกิจ เพราะเป็นเส้นทางผ่าน มีมูลค่าการค้าชายแดนกว่าปีละ 5 แสนล้านบาท มากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ (รองจากกทม.)

ปัญหาถ้าเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในสะเดาต่อเนื่อง และไม่สามารถป้องกันแก้ไขได้ นอกจากจะเสียหายในมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้ว ในทางยุทธศาสตร์ จะทำให้ฝ่ายรัฐเสียเปรียบอย่างร้ายแรง เพราะทำขบวนการขยายพื้นที่ ปฏิบัติการ และเข้าหาเส้นทางธุรกิจผิดกฏหมาย ที่มีทั้งเรื่องของการค้ามนุษย์ (โรฮิงญา) และยึดกุมจุดยุทธศาสตร์สำคัญในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งนั่นหมายถึงหายนะของพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างทั้งหมด ตรงนี้จึงอยากให้มองยุทธศาสตร์ในภาพรวม ที่จะยึดโยงทั้งหมดเป็นเรื่องเดียวกัน

000…แนวทางการป้องกันสะเดา

ด้วยบทวิเคราะห์ทั้ง 3 ตอนที่ระบุถึงรายละเอียดเกี่ยวกับทฤษฎีลูกตุ้ม ได้เจาะลึกถึงข้อมูลในแต่ละด้านของสะเดา ที่กำลังตกเป็นเป้าของกลุ่มก่อความไม่สงบ มีแง่มุมหลายประการที่เป็นจุดแข็งที่สำคัญ และด้วยความเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ที่จะต้องมีความแตกต่างจากการแก้ปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะสะเดาไม่เหมาะสำหรับการใช้ยุทธศาสตร์ทางการทหาร

จุดแข็งประการสำคัญของสะเดาคือวัฒนธรรมดั้งเดิม และวิถีชุมชนแบบผสมผสานของสะเดา ที่วันนี้ถูกมองข้ามจากภาครัฐ ต้องไม่ลืมว่าสะเดามีประชากรชาวไทยพุทธ และชาวไทยเชื้อสายจีน ที่รวมกันแล้วมากกว่าชาวมุสลิม และชาวมุสลิมในสะเดาก็ไม่ได้ใช้ภาษามาลายูเป็นภาษาสื่อสาร จึงเป็นการง่ายต่อการสร้างการป้องกันตนเองของชุมชนชาวสะเดา

บวกกับความชำนาญในพื้นที่ และปราการสำคัญเขาน้ำค้าง ที่มีชุมชนเหล่าแนวร่วมอดีต พคม.ซึ่งมีความเข้มแข็งอยู่แต่เดิม เพียงแต่ภาครัฐต้องจริงจังกับนโยบายเชิงยุทธศาสตร์ ลงไปยังพื้นที่อย่างเป็นระบบ สร้างความเข้มแข็งจากจุดแข็งของสะเดา

000…อนาคตของสะเดากับยุทธศาสตร์ภาพรวม

นอกจากนี้ภาครัฐยังควรต้องเร่งจัดการกับปัญหาธุรกิจนอกระบบ ที่เป็นปัจจัยเอื้อต่อเป้าหมายการขยายแนวทางเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการในทางยุทธศาสตร์อย่างจริงจัง ทั้งธุรกิจที่เป็นเม็ดเงินนอกระบบ และธุรกิจเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ปัญหาของกลุ่มโรงฮิงญา เพื่อตัดเส้นทางการขยายกองกำลัง และเม็ดเงินที่จะไปสนับสนุนขบวนการเคลื่อนไหว ซึ่งทั้งหมดจะสำเร็จได้หรือไม่อยู่ที่ควรมจริงจังและจริงใจของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อปกป้องและพิทักษ์สะเดาไม่ให้ตกไปเป็นพื้นแห่งการก่อความไม่สงบ

ที่นั่นจะหมายถึงความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญทางยุทธศาสตร์ของรัฐไทยทั้งในด้านเศรษฐกิจและการทหาร….และอาจร้ายแรงถึงขั้นต้องสูญเสียยุทธศาสตร์พื้นที่ภาคใต้ตอนล่างทั้งหมด ….ที่คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

และย้ำเตือนกันเป็นครั้งสุดท้าย บนทฤษฎีลูกตุ้มที่ว่า “ด่านนอก สะเดา หาดใหญ่” มีความสำคัญเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว ที่จะขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ เพราะถ้าต้องสูญเสียสะเดา ก็เท่ากับกลายเป็นไฟลามทุ่ง ด่านนอกและหาดใหญ่ พื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของภาคใต้ตอนล่าง จะกลายพื้นที่อันตราย …กลายเป็นความหายนะอย่างใหญ่หลวงต่อรัฐไทย

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ถอดรหัสทฤษฎีลูกตุ้ม “สะเดา –ด่านนอก –หาดใหญ่” การขยายตัวของขบวนการเคลื่อนไหวในจว.ชายแดนใต้ (ตอนที่ 1)

ถอดรหัสทฤษฎีลูกตุ้ม “สะเดา –ด่านนอก –หาดใหญ่” การขยายตัวของขบวนการเคลื่อนไหวในจว.ชายแดนใต้ (ตอนที่ 2)

****ฟาตอนีออนไลน์ทำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ