หน้าแรก บทความ

สำนึกแบบไทยๆ กับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน (ตอนจบ)

ความเดิมจากตอนที่แล้ว สำนึกประวัติศาสตร์แบบไทยๆ มีปัญหาค่อนข้างมากในการจะไปปฏิสัมพันธ์กับชาวบ้านชาวช่อง โดยเฉพาะในรูปของการร่วมหัวจมท้ายเป็นประชาคมเดียวกัน ก็ยังจินตนาการภาพไม่ออก

ฝรั่งผู้เล่าเรื่องการโดนคนไทยด่าครั้งแรกได้มันส์หยดหย่าง เนลสัน ฮาวอ์ จะเป็นเหมือนผู้แปลกหน้าชาวต่างชาติ แต่สำนึกในการสัมพันธ์กับสิ่งแปลกต่างของเขากลับเป็นไปในทางเรียนรู้ด้วยจิตใจสนุกสนาน ซึ่งตรงกันข้ามกับความเป็นไทยในกระแสอุษาคเนย์ ‘เรา’ แสดงท่าทีราวกับว่าเราเป็นผู้แปลกหน้ากับเพื่อนบ้านทั้งที่มีประวัติติดต่อคุ้นเคยกันมาช้านาน มิหนำซ้ำ เรายังสัมพันธ์กันกับคนอื่นด้วยสำนึกที่หวาดระแวงความไม่เหมือน หรือความเป็นอื่นไปจากความเป็นไทยที่ปลูกฝังกันมาในแบบเรียน

ซ้ำร้ายยิ่งกว่านั้น ‘ความเป็นไทย’ ยังถูกตอกย้ำผลิตซ้ำในแบบเรียนประวัติศาสตร์มาตลอดว่า เป็นคุณลักษณะที่ดี งดงาม และเป็นเอกลักษณ์ อันไม่มีใครที่ไหนเหมือน

สำนึกแบบนี้ นำมาซึ่งความรู้สึก 2 อย่างเป็นอย่างน้อย หนึ่ง คือ รู้สึกว่าเราสูงส่งกว่าชาวบ้านชาวช่อง กับ สอง คือ รู้สึกหวงของดีของเรา ไม่อยากให้ใครเอาไป หรือลอกเลียนแบบ

สำนึกแบบนี้ นำมาสู่เรื่องที่ 2 ที่ผมจะเล่าให้ฟัง คือ เมื่อเดือนมีนาที่ผ่านมา ข่าวหนึ่งที่สะเทือนใจผมยิ่งนัก คือ ข่าวที่สิงคโปร์จะจัดสงกรานต์ที่ประเทศของเขาเอง ซ้ำยังเชิญนักร้องไทยไปร่วมแจมอีกต่างหาก

ความสะเทือนใจของผมไม่ใช่เรื่องราวข้างต้น หากแต่เป็นเรื่องราวต่อจากนั้น นั่นคือ การที่คนไทย โดยเฉพาะชาวเน็ตจำนวนไม่น้อย ‘ดิ้นพล่าน’ อยู่เฉยกันไม่ไหว บ้างด่าทอไปไกลถึงขั้นว่า สิงคโปร์ ‘ขโมย’ วัฒนธรรมของไทยไปวางขาย

ความหวงแหนความเป็นชาติของเรานั้นก็เป็นสิ่งที่ดีในแง่ของการไม่หลงลืมกำพืดรากเหง้าของตนเอง แต่สำนึกอันเกิดจากประวัติศาสตร์ที่บิดเบือน ตัดต่อ ปรุงแต่ง เล่าไม่หมด ย่อมหล่อหลอมอคติที่เป็นปัญหาในการอยู่ร่วมกับชาวบ้านชาวช่อง กลายเป็นสำนึกที่ไม่ดีนัก

ในกรณีของสงกรานต์นั้นถามว่า เป็นวัฒนธรรมของไทย ที่เราคิดค้นขึ้นเองด้วยตนเองจริงหรือ?

คำตอบ ก็คือ ไม่จริง

สังเกตแค่ชื่อมันก็ไม่ไทยแล้วครับ ‘สงกรานต์’ เป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า ‘ก้าวย่าง’ หรือ ‘การเคลื่อนย้าย’ มีรากฐานกำเนิดมาจากประเพณีโฮลิปูรณิมาของพราหมณ์ฮินดูในอินเดีย ก่อนที่จะเผยแพร่เข้ามาสู่แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านราชสำนักของอาณาจักรต่างๆ

เพราะฉะนั้น กล่าวอย่างสั้น ประเพณีสงกรานต์จึงแพร่กระจายจากอินเดียมาสู่พื้นที่แถบประเทศไทยและเพื่อนบ้าน (หลักๆ คือ พม่า ลาว กัมพูชา) ไม่ใช่แพร่กระจายจากไทยไปยังประเทศรอบๆ

พูดอีกแบบคือ สงกรานต์คือประเพณีอันเป็นสมบัติร่วมกันของชาวอุษาคเนย์ ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ชาติใดชาติหนึ่ง

เป็นจุดร่วมที่เราสามารถเชื่อมต่อเข้าหากันในลักษณะของคนที่อยู่ในประชาคม หรือชุมชนเดียวกัน ไม่ใช่จุดที่จะเอามาเป็นข้อขัดแย้งพิพาท ยกตัวเหนือใครเขาจนไม่เหลือใครคบ!

เพราะฉะนั้นเราจะเห็นว่า ดินแดนอุษาคเนย์นั้นมีการเคลื่อนไหวไหลเวียนเทไปเทมากันทางวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง จนมิอาจระบุได้ชัดเจนชนิดมั่นใจสุดกู่ว่า วัฒนธรรมใดใครคิดก่อนกันกันแน่ ตัวอย่างง่ายๆ ก็อย่างเช่น กีฬาตะกร้อ ซึ่งทั้งไทยและมาเลเซียต่างก็มีชุดของเรื่องเล่า (narrative) ที่แตกต่างกันเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของกีฬาชนิดนี้ ใครเป็นผู้คิดค้นกีฬานี้ และตะกร้อควรเป็นกีฬาประจำชาติของใคร ซึ่งทั้งไทยและมาเลเซียต่างก็ยึดมั่นกันว่าเรื่องเล่าของตนถูกกว่าอีกฝ่าย

ปัญหาของการทำความเข้าใจเรื่องนี้ อยู่ที่ตัวคน ไม่ใช่ตะกร้อ กล่าวคือปัญหามันอยู่ที่เราใช้ความคิดแบบชาตินิยมเป็นกรอบในการศึกษาประวัติศาสตร์ ทำให้เกิดกำแพงอคติโน้มเอียงเข้าข้างชาติตนเองคอยบดบังไม่ให้เห็นความเป็นจริงของเหตุการณ์

ซึ่งถ้าทุกชาติในเอเชียอาคเนย์ทำแบบนี้กันอย่างหน้ามืดตามัว คลั่งชาติแบบไม่ลืมหูลืมตา ไม่สนหลักฐานข้อมูล ข้อเท็จจริงเชิงประวัติศาสตร์ใดใด โดยเฉพาะข้อเท็จจริงที่ว่า ดินแดนอุษาคเนย์นั้นถือว่าเป็น ‘ลุ่มวัฒนธรรม/อารยธรรมเดียวกัน’ ที่ของหลายอย่างทางวัฒนธรรมแลกเปลี่ยน ไหลเวียนกันไปมา

ถ้าไม่เข้าใจข้อเท็จจริงเรื่องนี้ แต่ทะลึ่งไปมโนเอาหรือถูกแบบเรียนตำราชาตินิยมสุดขีดกล่อมประสาทเอาเข้าให้แล้วล่ะก็ การคิดจะไปรวมกันเป็นประชาคมอาเซียนคงยุ่งขึ้นอีกเยอะล่ะครับพี่น้อง

เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น คำราชาศัพท์ทั้งหลายนี่ก็ภาษาเขมรนะครับ ถ้าเขาโวยวายเหมือนที่เราทำ เราจะเอาไงต่อดี?

หรือกรณีอย่างพระแก้วมรกต ไทยก็ไปตีเอามาจากลาว หนำซ้ำยังหล่อหลอมสำนึกประวัติศาสตร์ให้คนไทยในปัจจุบันว่าเราเป็นบ้านพี่ ลาวเป็นเมืองน้องเสียด้วย (เออ เอาเข้าไป) เช่นนี้แล้วจะไม่ให้เกิดอาการหมั่นไส้พี่ไทยได้อย่างไรล่ะครับคุณพี่เจ้าขา

ครับ!!

ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ นำมาสู่ข้อสรุปในทางโหราศาสตร์ที่ว่า ประเทศไทยพร้อมแล้ว กับการก้าวไปสู่ความเป็นประชาคมอาเซียน

ปรี๊ดดดดด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ !!!!!