ผู้สื่อข่าวบีบีซี เจมส์ ลองแมนในปารีสได้ออกไปพูดคุยกับผู้คนบางส่วนที่มีประสบการณ์ตรงจากการก่อเหตุร้ายหลายจุดในเมืองหลวงของฝรั่งเศสเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา
หนึ่งในบรรดาผู้คนที่เขาได้คุยด้วยเป็นคนทำงานในร้าน Casa Nostra เขาชื่อ เซฟเฟอร์
“ผมกำลังยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์ เราได้ยินเสียงระเบิด ดังมาก ผู้คนเริ่มส่งเสียงร้อง แก้วแตกหล่นลงใส่พวกเรา มันแย่จริงๆ เศษแก้วเต็มไปหมด หล่นลงมาโดนหน้าด้วย”
“ผมเห็นผู้หญิงสองคนที่ด้านนอกร้าน พวกเขาบาดเจ็บ คนหนึ่งที่ข้อมือ อีกคนที่ไหล่ ทั้งสองคนเลือดไหลอย่างหนัก”
แม้ว่าจะมีอันตรายแต่เซฟเฟอร์รู้สึกว่าเขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยคนทั้งสอง
เขารอจนเสียงยิงซาลง แล้วจึงวิ่งไปข้างนอกร้าน
“ผมพาพวกเขาเข้ามาข้างในร้าน แล้วพาลงบันไดไปห้องใต้ดิน นั่งลงกับพวกเขาแล้วพยายามห้ามเลือดให้”
“ระหว่างนั้นเรายังได้ยินเสียงปืนดังอยู่ข้างบน มันน่ากลัวจริงๆ”
แต่ก็ถือว่าพวกเขาหลบรอดสิ่งที่เลวร้ายที่สุดไปได้
“หลังจากนั้นพอเราออกมาก็เห็นว่ามีแต่ศพอยู่บนถนน มีคนอีกหลายคนบาดเจ็บ”
ชอง-พอล ลูกอนวัย 54 อยู่ไม่ไกล เขาบอกว่าเขาอยู่ในครัวในขณะที่มีเสียงปืน
“เสียงมันดังเหมือนกับจะไม่มีวันหยุด ผมวิ่งไปถึงก็เจอสามศพอยู่บนพื้น” เขาบอกว่าไม่อยากจะเข้าไปดูใกล้มากไป กลัวว่าจะมีภาพหลอนติดตา และเล่าว่า ลูกสาววัย 11 ขวบของเขาตอนนี้ไม่กล้าออกนอกบ้านเพราะความกลัว
“ผมรู้สึกโกรธมาก” เขาว่า “โกรธอย่างเดียวจริงๆ คนพวกนี้เป็นพลเรือน พวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้”
Casa Nostra อยู่ในเขต 11 มันเป็นพื้นที่ที่คนหลากหลายกลุ่มอยู่ร่วมกัน มีทั้งมุสลิมและคนเชื้อสายอาหรับ ลูกอนบอกว่า เขาตกใจที่พื้นที่ของเขาเป็นเป้าหมาย “พวกเขาไม่ไปเขต 16 หรือ 7 หรือเขตอื่นๆที่มีคนรวย หรือที่ที่เห็นตัวผู้อพยพชัดเจน ทำไมต้องมาที่นี่”
ในเขต 18 ทางตอนเหนือซึ่งเป็นย่านมุสลิมในปารีส คนที่นั่นก็โกรธเช่นเดียวกัน
“เราไม่ใช่พวกนั้น” จามาล อายุ 44 บอก “พวกเราไม่เกี่ยวกับพวกนั้นเลย และเรารู้สึกว่ามันน่ารังเกียจมาก”
จามาลเป็นห่วงว่าผลกระทบของการโจมตีว่าจะมีในระยะยาวต่อชุมชนมุสลิม
“พวกฝรั่งเศสไม่ยอมรับเรา” เขาบอก
บทบาทของอิสลามกลายเป็นสิ่งที่สังคมฝรั่งเศสถกเถียงกันมาโดยตลอด เมื่อครั้งที่มีข้อมูลว่าชาวฝรั่งเศสนั่นเองเป็นคนโจมตีสำนักงานของนิตยสาร ชาร์ลี เอบโดเมื่อต้นปี หลายคนมีคำถามถึงอนาคตของมุสลิมรุ่นใหม่ในฝรั่งเศส
ทำไมคนเหล่านั้นต้องการก่อเหตุที่ร้ายแรงเพียงนี้ในนามของพระเจ้า เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของพวกเขา ฝรั่งเศสมีปัญหาที่ไม่เหมือนใครหรือไม่
เซฟเฟอร์ไม่มีคำตอบให้กับคำถามเหล่านี้ เขาอยู่ในเขต 11 และเขาเป็นมุสลิมเชื้อสายอัลจีเรีย
เรื่องราวของเซฟเฟอร์ก็คล้ายๆเรื่องราวของลาสซานนา บาทิลี ผู้อพยพจากมาลีที่ช่วยให้ที่หลบซ่อนแก่กลุ่มลูกค้าที่กำลังหวาดกลัวใน ระหว่างที่มีการโจมตีซูเปอร์มาเก็ตโคเชอร์เมื่อเดือนม.ค.
พวกเขาทั้งคู่เป็นมุสลิม ทั้งคู่ต่างเสี่ยงภัยเพื่อช่วยชีวิตคนอื่น ในขณะที่คนที่นับถือศาสนาเดียวกันเป็นผู้ก่อเหตุ มันเป็นความแตกต่างที่อาจจะเรียกได้ว่า สะท้อนถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์ของมุสลิมในฝรั่งเศสก็อาจจะได้
ผู้สื่อข่าวบีบีซีเจมส์ ลองแมนถามเขาว่า เขาคิดอย่างไรกับการที่ผู้ตายอ้างการกระทำของตัวเองในนามของอิสลาม
“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับศาสนา”
“มุสลิมที่แท้ไม่ได้อยู่เพื่อฆ่าใคร” เขาว่า “คนพวกนี้เป็นอาชญากร”
—
ขอบคุณที่มา เพจบีบีซีไทย