ฮาบีบ มูฮัมหมัด อับดุลเลาะห์ อินดูรูส นักการศาสนาผู้สืบเชื้อสายจากศาสดามูฮัมหมัดจากประเทศเยเมน เข้าพบแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมชื่นชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
วานนี้ (4 พ.ย.58) เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ฮาบีบ มูฮัมหมัด อับดุลเลาะห์ อินดูรูส นักการศาสนาผู้สืบเชื้อสายศาสดามูฮัมหมัดชาวเยเมน และคณะ ได้เดินเข้าพบพลโทวิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะ ในโอกาสเดินทางมาพบปะผู้นำศาสนาและประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในระหว่างวันที่ 3-4 พฤศจิกายน2558
พลโทวิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวขอบคุณท่านฮาบีบฯ ที่เดินทามาเยือนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งการเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้ทำให้ท่านฮาบีบฯ ได้เห็นข้อเท็จจริง ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่รัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ โดยทาง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้มุ่งแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการยุติความรุนแรง ควบคู่กับการแก้ปัญหาด้านยาเสพติด โดยการน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา ด้วยแนวทาง สันติวิธี ยึดหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งได้เร่งรัดการแก้ปัญหาเกิดผลเป็นรูปธรรมในทุกๆ ด้าน เพื่อประชาชนในพื้นที่สามารถอยู่ร่วมกันได้ภายใต้มิติของความหลากหลาย มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ทางด้าน ฮาบีบ มูฮัมหมัด อับดุลเลาะห์ อินดูรูสกล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้เข้าพบแม่ทัพภาคที่ 4 และ คณะในครั้งนี้ จากการที่ได้มารับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ตนรู้สึกพอใจ ต่อแนวทางดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการดำเนินการตามหลักของศาสนาอิสลามนั้นคือการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมี ความสุข และขอขอบคุณที่เจ้าหน้าที่ได้ให้การต้อนรับที่อบอุ่นซึ่งถือเป็นความดีงาม
การเดินทางมาครั้งนี้เป็นความตั้งใจและเจาะจงที่ต้องการนำหลักการ แนวทาง คำสั่งสอนอันบริสุทธิ์ของอิสลามบอกกล่าวแก่พี่น้องมุสลิม และรู้สึกดีใจที่พบว่าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีนัการศาสนาที่เป็นรู้หลายท่านได้ช่วยกันเผยแพร่หลักคำสอนทางศาสนาที่เป็นสายกลาง ซึ่งหลักการของอิสลามนั้นหมายถึงความสันติสุข ที่เกิดจากการอยู่ร่วมในสังคมแห่งความหลากหลาย ด้วยการให้เกียรติ เคารพซึ่งกันและกัน ตามที่ศาสดาได้ปฏิบัติไว้เป็นแบบอย่าง ดังนี้อิสลามจะให้ความสำคัญต่อทุกศาสนา เพราะแต่ละศาสนาต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือ การนำสังคมไปสู่สันติ
ทั้งนี้กำหนดการ เดิม ฮาบีบอุมัร มูฮัมหมัด ซาเล็ม บินฮาฟิซ นัการศาสนาชื่อดัง จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยในจังหวัดภาคใต้ด้วยตนเอง แต่เนื่องจากมีความจำเป็น จึงได้มอบหมายให้ ฮาบีบทั้ง 2 เป็นผู้แทน โดยได้เดินทางมาที่มัรกัสตาเซะ ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน มีประชาชนร่วมให้การต้อนรับนับหมื่นคน