อิสราเอลได้มีมติลดความสัมพันธ์ลงกับบรรดาประเทศสมาชิกความมั่นคงที่สนับสนุนมติของสหประชาชาติ
มติดังกล่าวที่ได้เรียกร้องให้อิสราเอลยุติการก่อสร้างนิคมชาวยิวในบริเวณของชาวอาหรับที่มีการครอบครองตั้งแต่ปี1967
อย่างไรก็ตามทางด้านโฆษกประจำกระทรวงต่างประเทศของอิสราเอลออกมาปฏิเสธเกี่ยวกับการตัด “ความสัมพันธ์ทางการทูต” กับ 12 ประเทศสมาชิกดังกล่าว
ทางด้านนายกรัฐมนตรีของอิสราเอลเบนจามินเนทันยาฮู ที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาเปิดเผยว่า จะมีการดำเนินมาตรการตอบโต้ทางการทูตและทางเศรษฐกิจกับประเทศสมาชิกความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ได้มีมติในเรื่องดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในบรรดาประเทศสมาชิก12 ประเทศดังกล่าว มีทั้งประเทศจีนประเทศญี่ปุ่นประเทศอังกฤษประเทศฝรั่งเศสประเทศรัสเซียและประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เป็นพันธมิตรที่ดีอิสราเอล ที่ได้เห็นชอบในการยุติการสร้างนิคมชาวยิว
ก่อนหน้านี้ทางการอิสราเอลได้มีการเรียกทูตกลับประเทศจำนวน10 ประเทศ จากจำนวน12 ประเทศที่เกี่ยวข้อง สำหรับมาตรการที่ได้ดำเนินการล่าสุดของอิสราเอล และทั้งนี้อิสราเอลจะทยอยปรับกำหนดการเยือนประเทศและลดความร่วมมือกับประเทศดังกล่าวลง
ซึ่งในประเทศที่ให้การสนับสนุนดังกล่าวเห็นว่า การก่อสร่างนิคมชาวยิวในดินแดนปาเลสไตน์ เช่นในฉนวนกาซ่า และเวสต์แบงค์ จะเป็นอุปสรรคต่อกระบวนการสันติภาพกับปาเลสไตน์