หน้าแรก ข่าวต่างประเทศ

เมื่อสองคู่อริ “อันวาร์ อิบราฮีม-มหาเดร์ โมฮัมหมัด” โคจรมาพบกันในรอบ 18 ปี !

ภาพ ดาโต๊ะ ศรี อันวาร์ อิบราเฮม จับมือกับ ตน ดร.มาหาเดร์ เป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี ภาพ PKR/Facebook)

berita – แกนนำของพรรคอัมโนมาเลเซีย ได้กล่าวถึงความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการพบปะกันระหว่างนายอันวาร์ อิบราฮีม กับ ดร.มหาเดร์ โมฮัมหมัด ที่บังเอิญมาพบกันโดยไม่ได้มีการนัดหมายนั้น ไม่ได้เกิดจากความจริงใจเต็มใจต่อกันแต่อย่างใด

รองนายกรัฐมนตรี ดาโต๊ะศรี ดร.อัฮหมัด ซาฮีด ได้กล่าวถึงเรื่องการพบกันของทั้งสองดังกล่าวว่า ถือเป็นเกมทางการเมืองที่ถูกวางแผนเตรียมการโดยอดีตนายกรัฐมนตรีมหาเดร์ เพื่อที่จะหาทางหลอมรวมบรรดาพรรคฝ่ายค้านที่กำลังเผชิญกับอุปสรรคที่มีความแยกแตกแยก ภายหลังจากที่ความพยายามในการถอดถอนนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค ก่อนหน้านี้ ไม่ประสบผลสำเร็จ

“นี่คือการพบปะกันที่มีนัยยะทางการเมืองแอบแฝง ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากวิกฤติการณ์ทางการเมือง ที่ (นายมหาเดร์) อยากให้พรรคฝ่ายค้านกลุ่มต่างๆ นั้น หันมาสนับสนุนแนวการทำงานของตน” เขากล่าว

กว่าสองทศวรรษ ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่าง ดร.มาหาเดร์ โมฮัมหมัด กับ อดีตรองนายกของเขา ดาโต๊ะ ศรี อันวาร์ อิบราฮีม ที่ถูกถอดถอนจากตำแหน่ง อันเนื่องมาจากการที่ถูกตัดสินลงโทษจำคุกในความผิดทางเพศ ที่สุดท้ายได้ครอบงำบรรยากาศทางการเมืองของมาเลเซีย

“เริ่มด้วยความเคลื่อนไหวที่ไม่มีใครคาดคิด”

ด้วยเหตุนี้ การพบปะกันยื่นมืออย่างชื่นมื่นให้แก่กันนั้น ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งแปลกใจที่ธรรมดาไม่ ที่เกิดขึ้นในรอบ 18 ปี

“บุคคลทั้งสองย่อมมีบุคลิกภาพตัวตนของตนเองอย่างชัดเจน ที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่างทั้งสอง ที่มีอิทธิพล ที่ส่งผลกระทบต่อคนส่วนมากในประเทศ ไม่เพียงแต่ในกลุ่มแก๊งค์การเมืองอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงในด้าน การค้าการลงทุน และตลอดจนในด้านอื่นๆ” อิบราเฮม ซูเฟียน กล่าว

“การเห็นภาพที่ทั้งสองได้จับมือกันนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจ มันหมายถึงความเคลื่อนไหวที่อยู่นอกเหนือความคาดการณ์ในด้านการเมืองได้เริ่มขึ้นแล้ว” เขากล่าว

เก็ท ลุง หัวหน้าศุนย์ศึกษา กรากรุ๊ป ได้กล่าวด้วยว่า “ในด้านการเมืองมลายู วัฒนธรรมมลายู คุณไม่สามารถที่จะเจ็บแค้นใครได้เลย (มหาเดร์) ที่ตอนนี้อายุ 91 ปีแล้ว ซึ่งนี่อาจเป็นวิธีการใหม่เท่านั้น ที่เชาจะคืนดีเสียใหม่ ถึงแม้ว่าเขาเองไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรก็ตาม”

ดร.มหาเดร์ ที่ผ่านมาได้เป็นผู้นำในการดำเนินการรณรงค์เพื่อการถอดถอนนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค บนความผิดการฉ้อฉลที่ตกเป็นข่าวใหญ่โตก่อนหน้านี้

เขาได้ดำเนินการเคลื่อนไหวกับภาคประชาชนและกับองค์กรภาคประชาสังคมและองค์กรภาคประชาชนหรือเอ็นจีโอ พร้อมกับบรรดาแกนนำของพรรคฝ่ายค้าน และขณะเดียวกันยังมีความพยายามที่จะก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ที่อาจร่วมมือกับอดีตรองนายกรัฐมนตรี ตันศรี มุฮยิดดีน ยัซซีน ในความพยายามที่จะก่อตั้งสมาคมความร่วมมือของพรรคฝ่ายค้าน

นักสังเกตการณ์ ยังคงแคลงใจกับแผนการณ์ของมหาเดร์

อย่างไรก็ตามทางด้านผู้สังเกตการณ์ได้ออกมากล่าวว่า ดร.มหาเดร์ ไม่มีความน่าเชื่อในสายตอของคนทั่วไป และคนส่วนใหญ่ยังคงสงสัยในแผนการที่มหาเดร์กำลังวางหมากเกมส์ในการปฏิรูปตามรูปแบบของเขา

“การพบปะกันดังกล่าว ได้แสดงให้เห็นว่า การยอมรับการปฏิรูปดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ คนส่วนใหญ่กำลังเฝ้าคอยในวันดังกล่าวที่จะมาถึงวันแล้ววันเล่า สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า ที่หวังว่าสักวันหนึ่งจะสามารถเชยชมการปฏิรูปดังกล่าวที่จะจะออกมาในรูปแบบใด” อิบราเฮม กล่าว

เขายังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค เอง ไม่ได้มีความกังวลกับการพบกันของทั้งสองที่ไม่ได้อยู่ในแผนการครั้งนี้แต่อย่างใด เพราะว่าเขายังคงสนับสนุนพรรคอัมโนอย่างเข้มแข็งเช่นเดิม

“เป็นที่รู้ตัวกันดีว่าทางแกนนำพรรคอัมโนจะต้องออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม อย่าได้มองข้ามกับการเดินเกมส์ของดร.มาหาเดร์ ครั้งนี้ หากว่าเขากับอันวาร์สามารถลงเอยในการตกลงกันในครั้งนี้ อัมโนและพรรคแห่งชาติมาเลเซียจะต้องเผชิญกับปัญหาทางการเมืองอย่างแน่นอน” ราซาลี กัซซิม กล่าว

และการเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซียที่จะมีขึ้นในปี 2017 ข้างหน้านี้ ทั้งหมดล้วนจ้องตาไปที่การเคลื่อนไหวของมาหาเดร์ ที่หลังจากนี้ที่เขามีความพยายามในการก่อตั้งองค์กรความร่วมมือของพรรคฝ่ายค้านที่มีความเข้มแข็งที่มีประสิทธิภาพ