ผู้หญิงมุสลีมะฮ์ในประเทศอังกฤษ ถือเป็นคนกลุ่มหนึ่งที่มีคุณภาพชีวิตทางเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ซึ่งถูกอภิปรายนำเสนอโดยสมาชิกรัฐสภาท่านหนึ่ง
กลุ่มคนผู้หญิงและความเท่าเทียมกันในประเทศอังกฤษได้เปดเผยว่า ผู้หญิงมุสลีมะฮ์มีความยากลำบากในการหางานทำเป็นสามเท่าตัวเมื่อเทียบกับผู้หญิงทั่วไป และกลุ่มที่มีคุณภาพชีวิตที่ตกต่ำทางเศรษฐกิจคิดเป็นจำนวนสองเท่าตัว
ทางรัฐสภาสมควรที่จะนำเสนอแผนเหล่านี้เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมกันนี้ให้คลี่คลายก่อนถึงสิ้นปี 2016 นี้ สมาชิกรัฐสภาอังกฤษท่านหนึ่งเรียกร้อง ทั้งนี้ทางรัฐบาลอังกฤษได้กล่าวว่าทางรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะทำให้อังกฤษนี้เป็นสถานที่สำหรับทุกคน
“เรากำลังดำเนินการพัฒนา อย่างเช่น ณ ตอนนี้มีจำนวนมุสลิม 45 % ที่สามารถมีงานทำ เมื่อเทียบกับจำนวนเมื่อปี 2011 แต่เราก็ทราบกันดีว่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราจำเป็นจะต้องดำเนินการ” โฆษกรัฐสภากล่าว
ในการอภิปรายดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ยังมีมุสลิมในประเทศอังกฤษเป็นจำนวนสามเท่าตัวที่ต้องประสบกับปัญหาหารหางานทำ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้หญิงมุสลิม จนสิ่งเหล่านี้สามารถเห็นได้ชัดเจนจากการหางานทำของพวกเขา
การเลือกปฏิบัติ
หลักฐานที่บ่งชี้อย่างชัดเจนถึงการเลือกปฏิบัติก็คือ สิ่งที่ได้ประสบเจอโดยมุสลีมะฮ์เอง อาจเป็นเพราะความเชื่อ(ศาสนา)ของพวกเขา “เสมือนว่ากระแสอิสลาโมโฟเบีย ยังคงเป็นปัญหาสำคัญสำหรับพวกเขา”
“ผู้หญิงมุสลีมะฮ์ 71 % ไม่มีงานทำ เมื่อเทียบกับจำนวนของผู้หญิงคริสต์ที่มาจากคนผิวขาว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีการศึกษาที่สูงและการสื่อสารในภาษาเดียวกันก็ตาม”
พวกเขาต้องเผชิญกับปัญหาที่เกี่ยวโยงกับการเลือกปฏิบัติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงที่พวกเขาหางานทำ เพราะด้วยการแต่งกายแบบมุสลีมะฮ์หรืออาจเป็นเพราะวัฒนธรรมของพวกเขา สมาชิกรัฐสภาท่านหนึ่งกล่าว
อย่างเช่นมีมุสลีมะฮ์คนหนึ่งที่จบจากมหาวิทยาลัยแมนแชสเตอร์ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวบีบีซีเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า ที่เขาเองเชื่อว่าเข้าข่ายการถูกเลือกปฏิบัติเช่นกัน ในช่วงที่เขาไปสมัครหางานทำในฐานะพนักงานขายสินค้าที่แห่งหนึ่ง
เขากล่าวว่า “มีอยู่สองสายที่โทรมาสัมภาษณ์งาน และฉันเองได้รับการคอมเมนท์อย่างเต็มที่ เขากล่าวว่าตัวดิฉันมีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับงานในตำแหน่งนี้ และเขายังกล่าวอีกว่าดิฉันมีความชัดเจนมากในการสื่อสาร”
อย่างไรก็ตามผู้หญิงมุสลีมะฮ์ท่านนี้ยังไม่ได้เปิดเผยใบหน้าที่อยู่ในชุดสวมฮิญาบ แต่เหมือนรู้สึกว่าน้ำเสียงมีความเปลี่ยนแปลงจากเดิมเพียงเล็กน้อย
“ซึ่งฉันรู้สึกว่าการปฏิบัติของพวกเขาช่างมีความแปลกพิลึกดี บรรยากาศได้เปลี่ยนเป็นอื่นและไม่เขาปกติเท่าไหร่สำหรับเธอ” เธอกล่าว
ในที่สุดเขาไม่ได้รับงานเช่นเคย
ความมั่นใจได้ลดลง
“สถานการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ความมั่นใจของเขาต้องฮวบลงเมื่อเขาได้ไปสัมภาษณ์งานแบบเปิดหน้า ทั้งๆ ที่ฉันเองค่อนข้างมั่นใจตัวเองค่อนข้างสูง(ในช่วงที่ให้สัมภาษณ์)ผ่านโทรศัพทร์” เธอเสริม
ทางด้านสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรได้เรียกร้อง เพื่อให้เงื่อนไขการเปิดรับสมัครงานของผู้ประกอบการทั้งหลาย เพื่อให้ทางผู้ประกอบการอย่าได้มุ่งไปที่ชื่อนามสกุลของผู้มาสมัครงาน ที่มีการพิจารณาแต่คนผิวขาวเท่านั้นที่มีโอกาสจะถูกเรียกมาทำงานได้มากกว่า
“ทางรัฐบาลและองค์กรสิทธิมนุษยชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำเป็นที่จะต้องดำเนินมาตรการเพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการทั้งหลาย ได้ตระหนักรู้ถึงความรับผิดชอบของสภาแรงงานและผู้ประกอบการ เพื่อช่วยกันต่อต้านการเลือกปฏิบัติดังกล่าวนี้”
ในจำนวน 69 % ของมุสลีมะฮ์ชาวอังกฤษ ที่อยู่ในวัยทำงานที่กำลังทำงานคิดเป็นร้อยละของมุสลีมะฮ์ที่มีงานทำจำนวน 35 % เท่านั้น
ในระดับชาติมีจำนวน 5 % ของผู้หญิงที่ไม่มีงานทำและที่กำลังหางานทำ ในจำนวนนี้มีจำนวนผู้หญิงมุสลีมะฮ์ถึง 16 %
และเมื่อปีที่แล้วในระดับชาติทั้งหมดมีจำนวน 27 % ผู้หญิงที่ไม่มีความสามารถในด้านการเงิน แต่สำหรับในกลุ่มของมุสลีมะฮ์แล้วมีจำนวนถึง 58 % ที่ไม่มีงานทำ
มีจำนวนมุสลีมะฮ์ 44 % ที่ไม่มีงานทำ เพราะคนเหล่านี้เป็นแม่บ้านส่วนใหญ่ เมื่อเทียบกับผู้หญิงทั่วไปที่ไม่มีงานทำจำนวน 16 % ที่เกิดจากสาเหตุดังกล่าว
http://www.bbc.com/indonesia/dunia/2016/08/160811_dunia_inggris_muslimah?ocid=socialflow_facebook