เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรกัมพูชา ได้ทำการจับกุมยึดงาช้างกว่า 600 กิโลกรัม ซึ่งงาช้างดังกล่าวมีการข่นส่งมากับตู้คอนเทนเนอร์โดยมีการลักลอบอำพรางกับข้าวโพดจากประเทศแอฟริกา ณ ท่าเรือแห่งหนึ่งที่ถูกทอดทิ้งนานกว่าสองปี
การยึดของกลางในครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ตัดสินใจเปิดตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวที่ถูกทิ้งไว้ในช่วงที่มีการกวาดล้างผู้ที่ลักลอบค้างาช้างอย่างเข้มงวดเมื่อปี 2014 มานาน ทางตอนใต้ของท่าเรือสีหนุวิลล์เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน
“ถึงแม้การข่นส่งดังกล่าวน่าจะเข้าเทียบท่าไม่น้อยกว่าสองปีที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามไม่ได้มีใครสงสัยแต่อย่างใด ซึ่งงาช้างดังกล่าวถูกแอบซ่อนไว้อยู่ใต้กระสอบข้าวโพด” นายกิน ลี กล่าว หัวหน้าด่านศุลกากรประจำท่าเรือดังกล่าว และอาจส่งกลับไปยังแอฟริกาต่อไปเพื่อส่งไปยังประเทศที่สามตามลำดับ
เขาเองไม่สามารถที่จะยืนยันได้ว่ามาจากประเทศใดหรือมูลค่าทั้งหมดของงาดังกล่าว
ซึ่งเมื่อปี 2014 ทางการกัมพูชาได้มีการกวาดล้างจับกุมงาช้างได้ไม่ต่ำกว่าสามตัน ที่ถือเป็นการกวาดล้างที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในหน้าประวัติศาสตร์ ที่ถูกลักลอบเก็บไว้ในตู้คอนเทนเนอร์สินค้า
และในปีเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจของกัมพูชาได้จับกุมชาวต่างชาติสัญชาติเวียดนามจำนวนสองคน ในข้อหามีความพยายามในการลักลอบข่นงาช้างโดยผิดกฏหมายจากแอฟริกา จำนวน 80 อัน
กิน ลี ยังกล่าวด้วยว่า อาจเป็นเพราะว่าตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวไม่มีใครสงสัยแต่อย่างใดที่อาจมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มลักลอบผู้ค้าที่ผิดกฏหมาย
อย่างไรก็ตามทางด้านกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า เขามีความกังวลที่ว่าประเทศกัมพูชาอาจกลายเป็นประเทศหลักในการเป็นทางผ่านของการลักลอบข่นส่งงาช้างแอฟริกา สำหรับขายให้กับผู้ซื้อที่เป็นเศรษฐีจากเวียดนามและจีน
มากกว่า 35,000 เชือก ช้างที่ถูกฆ่าตายในทุกๆ ปีในทวีปแอฟริกาจากทั้งหมดที่มีประมาณ 450,000 เชือก ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในป่าก่อนหน้านี้
http://www.bharian.com.my/node/180302