ดาโต๊ะศรีนาจิบ ตนราซัค เปิดเผยว่า โลกมุสลิมจะต้องปฏิเสธการเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของต่างชาติ เพราะว่าปรากฏการณ์ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า ได้นำมาซึ่งความหายนะอันใหญ่หลวงที่ได้เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ อันเนื่องมาจากการเข้ามาดำเนินการของกลุ่มดังกล่าว
นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้กล่าวอีกว่า โลกมุสลิมจำเป็นที่จะต้องออกมาแถลงอย่างชัดแจ้ง ในการปฏิเสธการต่อต้านการเข้ามาแทรกแซงของคนภายนอก ซึ่งโดยปกติแล้วจะแอบอ้างในข้อมูลที่ไม่มีความชัดเจนมาเป็นเหตุผล มีความผิดพลาดหรือการคาดเดาไปเอง
“เราจำเป็นที่จะต้องปฏิเสธพวกที่มีเป้าประสงค์ในด้านการเมือง โดยชักใยให้คนต่างชาติเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศของตน เราในฐานะประชาชาติ จำเป็นที่จะต้องร่วมรับผิดชอบต่อตนเองและเราร่วมกันขอพรเพื่อให้ความพยายามของเราได้รับการชี้นำในการดำเนินการ” เขากล่าวในการเปิดประชุมสุดยอดโลกเศษฐกิจอิสลามครั้งที่ 12 (WIEF Ke-12)
ก่อนหน้านั้นทางด้านประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโกวี วีโดโด ได้กล่าวปฐกถาในการเปิดการประชุมดังกล่าวที่จะสิ้นสุดลงในวันพฤหัสนี้
โดยที่มีนายตนมูซา ฮีตัม ผู้อำนวยการมูลนิธิการประชุมฌศษฐกิจโลกอิสลาม ได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย
จากนั้นนายนาจิบ ได้ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า การแทรกแซงของต่างชาติที่มีต่อประเทศมุสลิม ได้ก่อให้เกิดผลกระทบที่สามารถคาดการณ์ได้และที่ไม่สามารถคาดเดาได้ จนกระทั่งปัจจุบันที่ยังคงดำเนินอยู่ถึงวันนี้
“นี่คือสาเหตุที่บรรดาท่านผู้นำที่มีอยู่ ณ ที่แห่งนี้ทั้งหลาย จำเป็นที่จะต้องหาทางร่วมมือในการช่วยกันคลี่คลายปัญหาดังกล่าวด้วยกัน”
“ผมพร้อมให้การสนับสนุนนโยบายอย่างเปิดเผยต่อโลกและพร้อมให้ความร่วมมือ แต่เราจำเป็นที่จะต้องเน้นย้ำเพื่อที่ว่าอธิปไตย กฏหมาย และรัฐบาลของเรา ที่ได้รับการคัดเลือกมาโดยระบอบประชาธิปไตย เราจะต้องให้ความเคารพ” เขากล่าว
นาจิบยังกล่าวด้วยว่า นับตั้งแต่หลายปีให้หลังนี้ มีความวุ่นวายเกิดขึ้นอย่างมากมายที่เกิดขึ้นในประเทศมุสลิมและไม่มีความเสถียรภาพในด้านการเมือง การพัฒนา เศษฐกิจ ที่ไม่อาจบรรลุเป้าหมายได้
นายกรัฐมนตรีนาจิบ ตนราซัค ขณะจับมือกับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโกวี วีโดโด ในการเข้าร่วมประชุมสุดยอดเศษฐกิจโลกมุสลิมตรั้งที่ 12 (WIEF Ke-12) ณ กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย ภาพ Aizuddin Saad
http://www.bharian.com.my/node/179175
