– “ออเรนจ์” ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของฝรั่งเศส ได้ประกาศการตัดสินใจที่จะสิ้นสุดข้อตกลงการออกใบอนุญาตตราสินค้าของตนกับบริษัทพาร์ตเนอร์ คอมมิวนิเคชั่น (Partner Communication) ของอิสราเอล และเลิกการปฏิบัติงานของตนในประเทศนั้นด้วย
ตามรายงานของ PNN การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่สเตฟาน ริชาร์ด ประธานของออเรนจ์ ได้กล่าวในไคโรว่า เขาต้องการที่จะยุติข้อตกลงดังกล่าว ถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกลงโทษทางการเงินจากการทำเช่นนั้น และการตัดสินใจนี้ส่วนหนึ่งเนื่องจากความสัมพันธ์ของบริษัทกับประเทศอาหรับหลายประเทศ
ในแถลงการณ์ของเขา ประธานบริษัทได้กล่าวว่า “ผมจะยกเลิกสัญญากับอิสราเอลพรุ่งนี้ ถ้าสามารถทำได้…
“เราไม่ได้ทำสัญญาขึ้นใหม่ เราต้องการที่จะเปลี่ยนระยะเวลาของสัญญา และกำหนดวันสิ้นสุดสัญญา เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีกำหนดวันสิ้นสุดสัญญา และทำให้เป็นไปไม่ได้ที่เราจะเลิกข้อตกลงนั้น”
คำอธิบายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง :
คำอธิบายอย่างเป็นทางการของออเรนจ์ต่อการดำเนินการนี้ ได้ปฏิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องทางการเมืองใดๆ ดังที่แถลงการณ์อย่างเป็นทางการบนเว็บไซต์ของบริษัทได้กล่าวว่า “ตนไม่มีเจตนาที่จะมีส่วนร่วมในการโต้แย้งทางการเมืองในรูปแบบใดๆ”
คำอธิบายอย่างเป็นทางการกล่าวว่า การตัดสินใจนี้เกี่ยวกับการออกใบอนุญาตตราสินค้าเท่านั้น
“ออเรนจ์กรุ๊ป ไม่ใช่ผู้ดำเนินกิจการในอิสราเอล แต่มีข้อตกลงการออกใบอนุญาตตราสินค้ากับผู้ดำเนินกิจการ ซึ่งก็คือบริษัทพาร์ตเนอร์ คอมมิวนิเคชั่น ออเรนจ์กรุ๊ปไม่ใช่ผู้ถือหุ้นในพาร์ตเนอร์ ดังนั้น จึงไม่มีอิทธิพลต่อยุทธศาสตร์หรือการพัฒนาการดำเนินงานของฝ่ายหลัง”
แถลงการณ์นี้ยังกล่าวอีกว่า “ข้อตกลง ซึ่งได้มีการลงนามก่อนการเข้าถือครองออเรนจ์ โดย ฟรานซ์ เทเลคอม (France Telecom) ในปี 2000 เป็นเพียงข้อตกลงการออกใบอนุญาตตราสินค้ากับกรุ๊ป ตามนโยบายการตราสินค้า ออเรนจ์ไม่ปรารถนาที่จะให้มีปรากฏตราสินค้าในประเทศต่างๆ ที่กรุ๊ปไม่ได้เป็นผู้ดำเนินกิจการหรือไม่เป็นผู้ดำเนินกิจการอีกต่อไป ในบริบทนี้ ขณะที่ยังคงเคารพต่อข้อตำลงที่มีอยู่อย่างเคร่งครัด ออเรนจ์ปรารถนาที่จะสิ้นสุดระยะเวลาการออกใบอนุญาตตราสินค้านี้ลง”
ความโกรธของอิสราเอล
บรรดาผู้นำอิสราเอลส่งเสียงแสดงความโกรธต่อการกระทำดังกล่าว นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลอธิบายว่ามันเป็น “ละครตลก ซึ่งการที่ระบอบประชาธิปไตยของอิสราเอลป้องกันตนเองจากการโจมตีด้วยจรวดและอุโมงค์ก่อการร้ายแล้วได้รับการประณามและการคว่ำบาตรในทันทีนั้นจะไม่ได้รับการให้อภัย” หนังสือพิมพ์ Ynet ของอิสราเอลรายงาน
เนทันยาฮูเรียกร้องรัฐบาลฝรั่งเศสให้ “ประกาศต่อสาธารณชนว่าไม่เกี่ยวข้องกับคำพูดและการกระทำอัปมงคลของบริษัทที่รัฐบาลฝรั่งเศสเป็นเจ้าของอยู่บางส่วน” และให้มิตรของอิสราเอล “กล่าวออกมาดังๆ ว่าพวกเขาคัดค้านการคว่ำบาตรต่อรัฐยิวทุกรูปแบบ”
เฮม โรมาโน ประธานพาร์ตเนอร์เตือนว่า ออเรนจ์จะต้องจ่ายค่าปรับถ้าหากยกเลิกสัญญา “เรายังไม่ได้รับสิ่งใดๆ ที่เป็นทางการ” เขากล่าว “สำหรับตอนนี้เราจะเรียกร้องคำขอโทษและความกระจ่างเกี่ยวกับสิ่งที่ประธานบริษัทได้กล่าวไป” Ynet รายงาน
ผู้นำอิสราเอลบางคนโกรธมากกับการตัดสินใจครั้งนี้ ดังที่นางมิรี เรเกฟ รัฐมนตรีวัฒนธรรมอิสราเอลเรียกร้องประธานาธิบดีฟร็องซัวต์ ออล็องด์ ของฝรั่งเศสให้ไล่นายริชาร์ดออก และแสดงให้เขาเห็น “ความอดทนเป็นศูนย์”
บริษัทพาร์ตเนอร์ได้ออกจดหมายอย่างรวดเร็วถึงพนักงานของตนภายหลังเหตุการณ์ล่าสุด โดยเรียกมันว่าเป็นการละเมิดสิทธิของตน และเรียกร้องค่าชดเชยด้วยการจ่ายเงินหลายร้อยล้านยูโรที่(พาร์ตเนอร์) ได้ลงทุนไปด้วยความพยายามอย่างยิ่งมาตลอดหลายปี”