หน้าแรก ข่าวต่างประเทศ

ชาวพุทธพม่ากว่า 200 คน ก่อเหตุทำลายมัสยิดในพม่า

มัสยิดที่ถูกทำลายที่หมู่บ้านบาโกของพม่าเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่าน (ภาพ YE AUNG THU / AFP)

ทางการพม่าเปิดเผยเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายร้อยนายถูกส่งไปรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศพม่า หลังจากที่มีกลุ่มชาวพุทธได้ก่อการจลาจลเข้าไปทำลายศาสนสถานมัสยิดของชาวมุสลิม

นี่ถือเป็นโศกนาฏกรรมการต่อต้านชาวมุสลิมครั้งใหม่ล่าสุดที่เกิดขึ้นในประเทศพม่า นับตั้งแต่การปะทะกันของทั้งสองกลุ่มได้ปะทุขึ้นมาอันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางศาสนานับตั้งแต่ปี 2012

หนำซ้ำยังเป็นความท้าทายครั้งใหม่ของปัญหาที่เกิดจากชาวพุทธสุดโต่งสำหรับผู้นำรัฐบาลคนใหม่ของนาง ออง ซาน ซูจี

ความวุ่นวายทางอาชญากรรมครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ เกิดขึ้นเมื่อมีกลุ่มชาวพุทธประมาณ 200 คน ได้เข้าไปทำลายหมู่บ้านของชาวมุสลิมแห่งหนึ่งที่เมืองบาโก สืบเนื่องมาจากความขัดแย้งระหว่างประชาชนในละแวกบริเวณที่จะมีการก่อสร้างโรงเรียนศาสนาแห่งหนึ่ง

Religious papers lie on the floor inside the destroyed mosque at Thuye Tha Mein village in Bago province on June 24, 2016, after violence erupted on June 23 when a mob of around 200 Buddhists rampaged through the area following an argument between neighbours over the building of a Muslim school. Scores of Buddhists ransacked a mosque in central Myanmar forcing Muslims to seek refuge overnight in a police station after a dispute between neighbours spilled into religious violence, officials and residents said on June 24. / AFP PHOTO / YE AUNG THU

นายออน ลีวิน หัวหน้าตำรวจคนหนึ่งกล่าวว่า จนถึงตอนนี้สถานการณ์ในหมู่บ้านดังกล่าว ได้มีเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดประมาณ 100 นาย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในหมู่บ้านดังกล่าว

“เมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 50 นาย ได้เข้าไปตรึงกำลังในพื้นที่ดังกล่าว ภายหลังจากที่ได้มีข่าวว่า อาจเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายอีกครั้ง จนถึงตอนนี้เราได้ตรึงกำลังไว้แล้วประมาณ 100 นาย” เขาเปิดเผยกับ สำนักข่าวเอเอฟพี

MYANMAR-RELIGION-RIGHTS-UNREST

นายวิน ฉวี หนึ่งในผู้ดูแลมัสยิดดังกล่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ชาวมุสลิมรู้สึกมีความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของพวกเขา และได้มีการเตรียมการที่จะอพยพไปยังเมืองที่อยู่ใกล้เคียงจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ

“สถานการณ์ของพวกเรายังไม่มีความปลอดภัยในตอนนี้ และเรามีแผนที่จะจะเตรียมอพยพไปยังหมู่บ้านใกล้เคียง เรายังคงรู้สึกหวาดกลัว” เขากล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี

MYANMAR-RELIGION-RIGHTS-UNREST

มัสยิดที่ถูกทำลายที่หมู่บ้านบาโกของพม่าเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่าน (ภาพ YE AUNG THU / AFP)

ปรากฏการณ์การต่อต้านชาวมุสลิมในประเทศพม่าในครั้งนี้ โดยการใช้วิธีการที่รุนแรงที่ได้ปะทุขึ้นมาเสมือนเป็นความท้าทายครั้งใหม่ให้กับกระบวนการประชาธิปไตยที่พม่าเพิ่งได้รับมาเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่ทางรัฐบาลเผด็จการได้ถอยลงจากอำนาจเมื่อปี 2011

ความรุนแรงทางศาสนาครั้งรุนแรงในครั้งนี้เกิดขึ้นกลางเมืองของประเทศพม่าและในรัฐยะไข่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่ของชาวมุสลิมโรฮิงญา ที่ไม่ถูกรับรองสภานะความเป็นประชากรของประเทศ ชาวมุสลิมโรงฮิงญายับหมื่นคนต้อง

ประสบกับความยากลำบากที่ต้องอาศัยชีวิตอยู่ในค่ายผู้อพยพ หลังจากที่พวกเขาต้องสูญเสียที่อยู่อาศัยอันเนื่องมาจากการความขัดแย้ง

ในขณะที่พระที่มีความคิดแบบพุทธสุดโต่ง ได้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านอย่างรุนแรงในเรื่องการให้สิทธิรับรองในความเป็นพลเมืองของชนกลุ่มน้อยอย่างเป็นทางการ และยังคงเน้นย้ำที่จะเรียกพวกเขาเหลานั้นว่าเป็นคน เบงกาลี ที่หมายถึงเป็นคนผู้อพยพที่มาจากบังคลาเทศ

นาย จิด ซู จี ที่ได้ต่อสู้ในด้านสิทธิมนุษยชน ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ภายหลังจากที่ไม่ได้มีท่าทีใดๆ ในอันที่จะเคลื่อนไหวดำเนินการเพื่อปกป้องชาวมุสลิมโรงฮิงญาหรือความโหดร้ายที่พวกเขาเหล่านั้นต้องประสบ

ในเดือนนี้ทางสหประชาชาติได้ส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับการคุกคามต่อชีวิตชาวโรฮิงญาอาจเข้าข่าย “การก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ”

ที่มา http://berita.mediacorp.sg/mobilem/world/200-penganut-buddha/2904284.html