นับตั้งแต่การปะทุขึ้นของสงครามในประเทศซีเรียตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดการโจมตีตามสถานที่ต่างๆ หลายแห่ง ที่ถูกสงสัยว่าอาจเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มติดอาวุธ ไม่เว้นแม้แต่สถานที่โรงพยาบาล ที่ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ต้องสังเวยชีวิตลงไปอย่างน้อย 700 คน ซึ่งส่วนใหญ่พวกเขาเหล่านั้นจะเสียชีวิตจากเหตุโจมตีทางอากาศ เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติคนหนึ่งได้กล่าวไว้เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา
หน่วยงานให้ความช่วยเหลือแห่งสหประชาชาติประจำประเทศซีเรีย (UN Commission of Inquiry on Syria) ได้กล่าวประนามการโจมตีและปฏิบัติการของกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ในประเทศซีเรีย ที่อาจเป็นไปได้ว่าจะเป็นกลุ่มที่ฝักใฝ่ต่อแนวคิดอัลกออีดะฮ์ ที่ได้นำลูกหลานของพวกเขาให้เข้าร่วมในการทำสงคราม ตามรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี
หัวหน้าให้การช่วยเหลือดังกล่าว นายเปาโล เปนเฮโร กล่าวกับสำนักงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติว่า เหตุโจมตีทางอากาศที่ได้สร้างความเสียหายต่อโรงพยาบาลและร้านคลีนิกทั่วเมืองซีเรียนั้น ได้ส่งผลให้ประชาชนพลเรือนต้องสังเวยชีวิตและแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่กาชาดเอง
“กว่า 700 คน ที่เจ้าหน้าทีทางการแพทย์ต้องเสียชีวิตลง ในเหตุโจมตีทางอากาศ และโรงพยาบาล นับตั้งแต่ที่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงที่นี่” เปาโล กล่าว
ในโอกาสที่ได้มีการเปิดเผยแถลงการณ์ฉบับใหม่นี้ เปาโล เองยังได้กล่าวประณามต่อเหตุโจมตีดังกล่าวที่บ่อยครั้งมาก ที่เกิดขึ้นกับหน่วยงานที่มีความสำคัญต่อชีวิตของประชาชน อย่างเช่น ตลาด โรงเรียน และร้านอาหาร
นับตั้งแต่ปี 2011 ความขัดแย้งทางอาวุธที่เกิดขึ้นในประเทศซีเรีย ได้คร่าชีวิตของผู้คนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 200,000 คน และได้ทำให้ผู้คนอีกมากมายนับล้านต้องอพยพหนีตายไปยังที่อื่นๆ ทั้งในประเทศเองและต่างประเทศ
ความขัดแย้งนี้เกิดขึ้นจากการที่ผู้นำบัชชาร์ อัลอัซซาด ได้ใช้วิธีการที่รุนแรงต่อกลุ่มคนที่เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในประเทศดังกล่าว
ตามที่เปาโลได้ทำการตรวจสอบติดตามสถานการณ์พบว่า พวกเขาได้มีการนำเอาบรรดาลูกหลานของพวกเขา ให้เข้ามาร่วมสมทบในการทำสงครามในครั้งนี้
