ทางการซาอุดิอาระเบียออกมาปฏิเสธกรณีที่อิรักกล่าวหาว่า ทางการซาอุดีได้ขัดขวางการเดินทางของผู้แสวงบุญในพิธีฮัจย์ของชาวอิหร่านที่นครเมกกะในปีนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของซาอุดีอาระเบีย นายอาเดลอัล อัลญูบูรีย์ ได้ออกมาย้ำถึงความต้องการของทางการอิหร่านที่ได้เรียกร้องที่จะจัดการคณะของผู้แสวงบุญเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่มิอาจยอมรับได้
“ตามที่อิหร่านได้มีการเรียกร้องสิทธิในการจัดการบริหารด้วยตัวเอง ด้วยการเดินขบวนประท้วงเพื่อต้องการที่จะได้รับสิทธิพิเศษ ซึ่งอาจทำให้เกิดความวุ่นวายได้ในระหว่างการประกอบพิธีฮัจย์นี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบียอาเดลอัล กล่าว เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา
ซึ่งก่อนหน้านี้ทางการอิหร่านได้ออกมากล่าวหาว่า ทางเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียได้ปิดกั้นการเดินทางของผู้แสวงบุญชาวอิหร่าน จนทำให้ทางการอิหร่านได้มีการยับยั้งยุติเพื่อไม่ให้ประชาชนของเขาได้เดินทางจาริกแสวงบุญในปีนี้

“หลังจากที่การเจรจากันระหว่างทั้งสองฝ่ายไม่ได้บรรลุผลใด ๆ อันเนื่องมาจากทางการซาอุดีอาระเบียเป็นต้นเหตุ ทำให้ผู้แสวงบุญชาวอิหร่านไม่สามารถที่จะเข้าร่วมในการแสวงบุญได้ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายนศกนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของอิหร่านนายอาลี ญันนาตี กล่าว
แต่ทางการซาอุดีอาระเบียได้ออกมาปกป้องตัวเองโดยกล่าวว่า ทุกๆ ปีที่พวกเขาจะต้องลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกันกับ 70 กว่าประเทศ เพื่อให้รับรองความมั่นคงและความปลอดภัยของผู้แสวงบุญ

“ในปีนี้ทางการอิหร่านได้ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการลงนามในบันทึกความเข้าใจดังกล่าว” อัลยูบูรีย์ กล่าว
ยิ่งไปกว่านั้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศได้เสื่อมถอยลงอย่างรุนแรง หลังจากที่เมื่อช่วงต้นปีนี้ ทางการซาอุดิอารเบียได้ดำเนินการตัดสินผู้นำศาสนาที่มีชื่อเสียงของอิหร่าน ที่เป็นให้มีการตอบโต้อย่างรุนแรงในประเทศอิหร่าน ด้วยการโจมตีสถานทูตของซาอุดิอารเบียในกรุงเตหะราน ซึ่งเป็นจุดเดือดที่นำไปสู่การขาดความสัมพันธ์ทางการทูตของซาอุดีอารเบียในที่สุด
และในพิธีแสวงบุญเมื่อปีที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้นอย่างโกลาหล ที่ทำให้ผู้แสวงบุญชาวอิหร่านได้เสียชีวิตหลายร้อยคนในอุบัติการณ์การผลักกันไปมาที่เมืองมินา
ที่มา http://www.bbc.com/indonesia/dunia/2016/05/160529_dunia_haji_iran?ocid=socialflow_facebook



