องค์การความร่วมมืออิสลามโลก (OIC) ได้เรียกร้องให้รัฐบาลอาร์เมเนียถอนกำลังทหารออกจากเขตปกครองนากอร์โน-คาราบัค (Nagorny Karabakh)โดยไม่มีเงื่อนไข’ หลังจากเกิดการปะทะกันกับกองกำลังทหารอาเซอร์ไบจานที่เข้าสู่วันที่สามและมีผู้เสียชีวิตไปแล้วสามคนสำหรับเหตุตึงเครียดในครั้งนี้
องค์การความร่วมมืออิสลามโลกได้กล่าวประณามต่อการโจมตีของทหารอาร์เมเนียในบริเวณชายแดนติดกับอาเซอร์ไบจานที่กล่าวหาว่าทางเยเรวานไม่ได้ให้ความเคารพในกติกาของการหยุดยิงของอีกฝ่ายที่ประกาศก่อนหน้านี้
เลขาธิการองค์การความร่วมมืออิสลามโลกนายอียัด มาดานี ได้เรียกร้องให้กองทัพอาร์เมเนียให้ถอนกำลังออกจากดินแดนของอาเซอร์ไบจานโดยเร็วที่สุดโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ
“ผมกังวลอย่างยิ่งที่ความขัดแย้งนี้จะมีความเลวร้ายขึ้นไปอีก” เลขาธิการองค์การความร่วมมืออิสลามโลกอียัด มาดานี ได้กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (2016/04/04) จากเอเอฟพี
เขายังได้เรียกร้องให้มีความพยายามจากนานาประเทศมีการยกระดับให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มมินสค์ที่จะช่วยในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองนี้ได้และให้ความคุ้มครองกับดินแดนอธิปไตยของอาเซอร์ไบจาน
กลุ่มมินสค์ที่นำโดยประเทศฝรั่งเศส รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา ขอให้ดำเนินการนำพาองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) เพื่อหาทางออกให้กับความขัดแย้งนี้
อย่างที่รู้กันดีการปะทะกันของสองขั้วมหาอำนาจระหว่างสาธารณรัฐโซเวียต อาร์เมเนียและอาเซอไบจานในอดีต เกิดขึ้นเพราะการแย่งชิงบริเวณดินแดนนากอร์โน-คาราบัค ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวถูกอ้างว่าได้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของอาร์เมเนียไปแล้ว
แต่เดิมนั้นพื้นที่แห่งนี้อยู่ภายใต้อธิปไตยของอาเซอร์ไบจาน แต่ประชากรของอาร์เมนียอาศัยอยู่มากกว่า ทำให้ความขัดแย้งในการแย่งชิงพื้นที่กลับคืนได้อุบัติขึ้นบ่อยครั้งสลับกับข้อตกลงหยุดยิงมาตั้งแต่ปี 1994 แต่ยังมีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอยู่บ่อยครั้งเช่นกัน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ที่เป็นเหตุของความตึงเครียดระหว่างทั้งสองประเทศครั้งใหม่ ซึ่งตามรายงานข่าวบางแหล่งข่าวได้กล่าวว่า มีทหารหลายนายและพลเรือนหลายคนของทั้งสองฝ่ายได้เสียชีวิตจากเหตุปะทะกันระหว่างกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ดังกล่าว
กองทัพอาเซอร์ไบจานได้ยิงเครื่องบินทหารอาร์เมเนียตก
ประธานาธิบดีแซร์ช ซาร์กเซียนของอาร์เซอไบจานกล่าวว่า มีทหารเสียชีวิตอย่างน้อย 18 คนและได้รับบาดเจ็บอีก 35 คน ใน”สงครามครั้งใหญ่นี้” ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ได้มีข้อตกลงหยุดยิงเมื่อปี 1994 ที่ต้องลงเอยด้วยการทำสงครามในการแย่งพื้นที่ของกองกำลังอาร์เมเนียกลับคืนจากอาเซอร์ไบจานอีกครั้ง
ตามการรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี ประธานาธิบดีแซร์ช ซาร์กเซียนของอาร์เซอไบจาน ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าทหารดังกล่าวมาจากคาราบาคห์ – หรือจากภูมิภาคที่ต้องการอิสระที่ได้รับการสนับสนุนจากเยเรวาน – หรืออาจเป็นทหารอาร์เมเนียทั้งหมด
ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมอาเซอร์ไบจันออกมาเปิดเผยว่า มีทหารเสียชีวิตในการสู้รบและจากเฮลิคอปเตอร์ถูกยิงตกจำนวน 12 นาย
ในขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซอร์ไบจานกล่าวว่า ทหารฝ่ายเราเสียชีวิตไปสามนายในเหตุที่ถูกทหารอาร์เมเนียโจมตีหน่วยที่ตั้งของพวกเขาด้วยอาวุธหนักและระเบิด
เมื่อวานนี้ได้เกิดการปะทะกันอย่างหนักระหว่างทั้งสองฝ่ายในเรื่องพิพาทที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้มีพลเรือนอาร์เมเนีบเสียชีวิตจำนวน 18 คน และทหารอาเซอร์ไบจานเสียชีวิตทั้งหมด 12 นาย ซึ่งต่างกล่าวหากันในการปะทะกันในแนวตะเข็บชายแดนของทั้งสองประเทศ
กลุ่มชาติพันธุ์อาร์เมเนียที่สนับสนุนโดยเยเรวานต้องการแย่งชิงเพื่อควบคุมพื้นที่ภูเขานากอร์โน-คาราบัค ในสงครามเมื่อช่วงปี 1990 ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากถึง 30,000 คน
ซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่เคยผูกมิตรสันติภาพสักครั้งเดียวนับตั้งแต่เกิดความขัดแย้ง นอกจากการลงนามข้อตกลงหยุดยิงเมื่อปี 1994 เท่านั้น
ภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัค ยังคงถูกอ้างว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของอาเซอร์ไบจานจากประชาคมระหว่างประเทศ และทั้งสองฝ่ายมีการปะทะกันประปรายอยู่บ่อยครั้ง แต่เหตุการณ์ปะทะกันครั้งล่าสุดแสดงให้เห็นว่าความขัดแย้งเริ่มทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และได้เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศเข้าไปแทรกแซงเพื่อเรียกความสงบกลับคืนมา
