BBC – ต้นกัญชาหลายไร่ประมาณ 189 ไร่ ที่ปลูกอยู่อย่างกระจัดกระจายมากกว่า 20 จุดในอาเจะห์ ถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินการทำลายทิ้งทั้งหมด ซึ่งทั้งหมดอยู่ในบริเวณที่ยากจะตรวจพบและมีความลำบากในการเข้าถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งเปิดเผย
การปฏิบัติการทำลายในครั้งนี้ได้ดำเนินการในพื้นที่ลัมติวบา อาเจะห์บือซัร และในพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก ตามที่อัฮหมัด ยานิ ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวบีบีซีอินโดนีเซีย
ปฏิบัติการทำลายในครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการตรวจพบบริเวณดังกล่าวทางอากาศด้วยเฮลิคอปเตอร์
ซึ่งมาตรการเช่นนี้เราได้ปฏิบัติครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พวกเขากลับมาดำเนินการเพาะปลูกทำมาหากินหารายได้เช่นเคย อัฮหมัดยานิ เปิดเผย
ตามรายงานจากบางแหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทางหัวหน้าสำนักงานตำรวจบัดรอดีนได้กล่าวว่า “ยาเสพติดถือเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อเยาวชนของอาเจะห์” และเขาหวังว่าทางรัฐบาลและประชาชนจะช่วยดูแลเป็นหูเป็นตาขบวนการค้ายาเสพดังกล่าว
นายตำรวจบัดรอดีนกล่าวอีกว่า ต้นกัญชาที่ตรวจพบอยู่ที่ประมาณ 765,000 ต้น บนเนื้อที่ที่ดินจำนวน 189 ไร่ หรือเท่ากับ 570 ตัน
นอกจากนี้เขายังกล่าวว่าผลผลิตในพื้นที่กว่า 189 ไร่ในสามเมือง คือ อาเจะห์บือซัร กาโยลุยซ์ และนากันรายา สามารถบริโภคได้กว่า 100 ล้านคน ด้วยสมมติฐานที่ว่าหากใช้กัญชาคนละแค่ห้ากรัมเท่านั้น
แหล่งเพาะปลูก
บริเวณที่ตั้งของเขตไร่กัญชาเหล่านี้จะตั้งอยู่กลางภูเขาและบริเวณหน้าผาที่สูงชัน
“เพื่อที่จะเข้าไปยังที่ตั้งของเขตการปลูกกัญชาดังกล่าว เราต้องเดินเท้าไม่น้อยกว่าสองชั่วโมงบวกกับภูมิประเทศที่ค่อนข้างมีความยากลำบาก และมีความลาดเอียงสูงและมีหุบเหวจำนวนมาก ซึ่งความกว้างของสวนกัญชาในลัมเตบานี้ค่อนข้างมีความกว้างเหลือเกิน เราได้รับทราบการใช้พื้นที่ปลูกที่นี่ด้วยการตรวจสอบทางอากาศด้วยเฮลิคอปเตอร์ แต่มันเป็นเรื่องยากมากที่จะเดินเข้าไปในทางภาคพื้นดิน “อัฮหมัด ยานิ เปิดเผยกับบีบีซีอินโดนีเซียโอกิ
“ไร่กัญชาที่นี่เปรียบเสมือนได้กลายเป็นที่ทำกินหารายได้ไปแล้ว เพราะว่าเขาตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เงียบสงบคนเข้าไปไม่ถึงยากในการตรวจสอบ และผู้กระทำความผิดที่ยังไม่ถูกจับกุมก็จะหวนกลับมาปลูกซ้ำอีกครั้งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่
การดำเนินการทำลายพื้นที่ปลูกกัญชาจะทำเป็นประจำทุกๆ เดือน
การดำเนินการทำลายกัญชาดังกล่าวนี้ ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมไปต่างๆ นานา หนึ่งในนั้นคือได้ส่งเสียงถามว่า เหตุใดถึงพบกัญชาในจังหวัดที่มีการบังคับใช้กฎหมายชารีอะฮ์
“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 2 และการใช้กฎหมายอิสลาม. แต่เป็นพื้นที่ที่มีการเพาะปลูกกัญชาที่ใหญ่ที่สุดของโลก” ความคิดเห็นของผู้ใช้บัญชีเฟสบุ๊คที่ชื่อ Qiber Gea และที่ชื่อ Galang Rambu Anarchye ที่เขียนว่า “ว่ากันว่าเป็นดินแดนระเบียงมักกะฮ์ แต่เต็มไปด้วยไร่สวนไชตอน”
ส่วนความคิดเห็นอื่นๆ ผู้ใช้ชื่อ Mark Fauzi กล่าวว่า “ไม่ใช่ทุกๆ อำเภอในจังหวัดอาเจะฮ์จะมีพื้นที่ปลูกกัญชาเสมอไป รวมทั้งอำเภอของฉันในอาเจะห์กลาง … จำไว้ว่าผู้กระทำผิดไม่ใช่เพียงจากประชาชนในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในจังหวัดและบริเวณหมู่เกาะ..”
