หน้าแรก ข่าวต่างประเทศ

ตุรกีประกาศ พร้อมเปิดรับผู้อพยพชาวซีเรียต่อไปอีก

Cumhurbaşkanı Recep Tayyip Erdoğan, Türkiye Diyanet Vakfı tarafından Haliç Kongre Merkezi'nde düzenlenen "Uluslararası İyilik Ödülleri" törenine katılarak konuşma yaptı. ( Bülent Doruk - Anadolu Ajansı )

middleeastupdate – นายกรัฐมนตรีตุรกี รอยั๊บ ฏอยยิบ อัรดูฆอน เปิดเผยว่านโยบายเปิดประตูเมืองอังการาเพื่อรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียจะยังคงขยายต่อไปอีก เพราะความรับผิดชอบนี้มีมาพร้อมกับอารยธรรมอิสลามมาแล้ว ซึ่งช่างตรงกันข้ามกับความเจ้าเล่ห์ของโลกตะวันตก

การกล่าวในที่ประชุมคณะกรรมธิการกรมการศาสนามูลนิธิ นายกรัฐมนตรีอัรดูฆอน ได้กล่าวว่า ตุรกีได้กลายเป็นที่มาของแรงบันดาลใจ และรัฐบาลควรที่จะยืนหยัดอย่างมั่นคงในสภาวะที่จริยธรรมทางการเมือง สังคม และวัฒนธรรมกำลังจะสูญหาย

เขายังเน้นย้ำด้วยว่า รัฐบาลตุรกีไม่ได้ถ่วงถามถึงจำนวนผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่จะเข้ามามีจำนวนเท่าใด และไม่ประพฤติเหมือนเจ้าเลห์เช่นพวกตะวันตก นายกรัฐมนตรีอัรดูฆอน กล่าวว่า “ตอนนี้มีผู้ลี้ภัยจำนวน 3 ล้านคนที่อยู่ที่นี่ เราจำเป็นต้องเปิดรับคนที่หนีเอาตัวรอดจากระเบิด ด้วยนโยบายการเปิดประตูต้อนรับจนถึงขณะนี้”

“การที่เราได้เปิดพรมแดน นั่นก็คือเพราะความรับผิดชอบของอารยธรรมของเรา ที่ได้ดำเนินการโดยทหารของเรา”

เขายังกล่าวอีกว่า จะทำการต่อสู้กับผู้ที่พยายามจะใส่ร้ายมุสลิมเป็นผู้ก่อการร้าย และเป็นสาเหตุของการฆ่ากัน

นายกรัฐมนตรีอัรดูฆอนกล่าวว่า “รัฐบาลมิอาจที่จะทำหูหนวกกับการล้างสมองเยาวชนในอนาคตอีกต่อไป ที่ได้ปลูกฝังแห่งความเกลียดชัง” ระหว่างผู้ปกครองและบุตรหลานของพวกเขา

ในฐานะที่เป็นเจ้าบ้าน เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ลี้ภัยชาวซีเรียจำนวน 4.2 ล้านคน ตลอดระยะเวลากว่าสามปีที่รัฐบาลตุรกีได้แบกรับภาระที่ยิ่งใหญ่สุดสำหรับวิกฤตผู้อพยพในครั้งนี้

การสนับสนุนเกือบ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตลอดช่วงที่เกิดวิกฤติในซีเรียที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียของตุรกีมีมากถึง 20 เท่า เมื่อเทียบกับจำนวนความช่วยเหลือทั้งหมดที่ได้รับจากองค์กรระหว่างประเทศ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงภัยพิบัติและการจัดการในสภาวะฉุกเฉิน (AFAD) ได้รายงาน

จำนวนของผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในตุรกีทั้งหมดขณะนี้มีจำนวนสูงกว่าประชากรในทุกจังหวัด ยกเว้นกรุงอิสตันบูล อังการา อิซมิร และ บุรซา บางส่วนของผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในตุรกีที่อาศัยอยู่ในค่ายผู้อพยพชั่วคราวจำนวน 2,450,000 จากจำนวนวนที่อาศัยอยู่ในเมือง

ในฐานะที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านทางตอนเหนือของซีเรีย ตุรกีเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้ลี้ภัยกว่า 2 ล้านคนในช่วงห้าปีที่ผ่านมา บ้านมากกว่า 2.5 ล้านเรื่อน และที่ยังคงอพยพเข้ามาอย่างต่อเนื่องอันเนื่องมาจากการกวาดล้างของรัฐบาลเผด็จการที่หนุนหลังโดยรัฐบาลรัสเซียทางตอนเหนือของซีเรีย ที่อังการายังคงต้องทำหน้าที่จัดการกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมในซีเรียต่อไป

เจ้าหน้าที่ประจำสถาบันวิจัยนโยบายการต่างประเทศและยุทธศาสตร์(CSIS) ในกรุงวอชิงตันบางคน ได้กล่าวรายงานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ระดับการช่วยเหลือในการบรรเทาภาระของรัฐบาลตุรกีและประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ มีไม่เพียงพอ และอังการายังต้องการความช่วยเหลืออย่างมากมาย เพื่อตอบสนองความจำเป็นของผู้ลี้ภัยที่ยังอาศัยอยู่ที่ชายแดนในขณะนี้ ที่มีจำนวนถึง 2.9 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด

รายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า จำนวนเงินที่ทางอังการาได้รับจากกองทุนเหตุฉุกเฉิน (CERF) ระหว่างปี 2011 และปี 2015 น้อยกว่าเงินที่ได้ให้กับอิรัก จอร์แดน และเลบานอน ถึงแม้จะรองรับผู้ลี้ภัยมากขึ้นก็ตาม

รายงานกล่าวว่าการจัดสรรงบประมาณจำนวน 212.4 ล้านดอลล่าร์ ได้รับการเบิกจ่ายในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาโดย CERF ที่อำนวยโดยคณะกรรมการประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรม (OCHA) และได้รับการบริจาคจากจิตอาสาจากรัฐสมาชิกสหประชาชาติตลอดทั้งปี และผู้สังเกตการณ์รัฐบาลภูมิภาค ภาคเอกชน มูลนิธิและบุคคล ขณะที่ประเทศเลบานอนได้รับ 39.5 ล้านดอลล่าร์ จอร์แดน 27.2 ล้านดอลลาร์ และอิรัก 20.6 ล้านดอลล่าร์ ขณะที่ตุรกีได้รับเพียง 11,100,000 ดอลล่าร์เท่านั้น

นอกจากนี้ในรายงานยังระบุอีกว่าทางรัฐบาลตุรกี ไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากกองทุนผู้ลี้ภัยแห่งภูมิภาคและการวางแผน (3RP) เมื่อปี 2015 3RP มีงบประมาณ 4.5 พันล้านดอลล่าร์ เพื่อผู้ลี้ภัยจากประเทศเพื่อนบ้านซีเรียจำนวน 4,390,000 คน และผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ 1.3 ล้าน(IDPs) ที่อยู่ในความต้องการ ในขณะที่รัฐบาลตุรกีได้รับเพียงร้อยละ 37 เปอร์เซ็นต์ ของกองทุนความช่วยเหลือ และต้องแบกรับความขาดแคลนถึง 624 ล้านดอลล่าร์