หน้าแรก ข่าวต่างประเทศ

แอมเนสตี้ฯ เปิดรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชน พบ 113 ประเทศ จาก 160 ทั่วโลก รวมไทย – จำกัดสิทธิ คุกคามสื่อ

(ภาพจากเว็บไซต์ Amnesty International Thailand)

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนทั่วโลก ปี 58-59 พบ 113 ประเทศจาก 160 ประเทศทั่วโลก จำกัดสิทธิด้านการแสดงออก คุกคามสื่อ ขณะที่ภาพรวมไทยยังน่ากังวล หวัง รบ.สร้างมาตรการผ่อนคลาย ยุติการจับกุมคุมตัวโดยพลการ-ใช้ศาลทหารตัดสินคดีของพลเรือน ปฏิบัติตามพันธกรณีสากลให้สิทธิขั้นพื้นฐาน

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จัดแถลงข่าวพร้อมกันทั่วโลก โดยได้มีการเปิดตัวรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนทั่วโลก ประจำปี 2558-59 ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ณ ห้องกมลทิพย์ โรงแรมเดอะสุโกศล กรุงเทพฯ โดยนายชำนาญ จันทร์เรือง ประธานกรรมการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แอมเนสตี้ฯ ได้รวบรวมและตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนจาก 160 ประเทศ ในปี 2558 พบว่า ในบางพื้นที่สถานการณ์ดีขึ้น แต่ในหลายพื้นที่กลับแย่ลง โดยมีอย่างน้อย 113 ประเทศทั่วโลก ยังคงจำกัดสิทธิในการแสดงออกและคุกคามสื่อมวลชน

นอกจากนี้ แอมเนสตี้ฯ ยังระบุว่า ปัจจุบันมีผู้พลัดถิ่นจากบ้านเกิดมากกว่า 60 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งผู้คนเหล่านั้น ยังคงพลัดถิ่นเป็นเวลาหลายปี หรืออาจจะนานกว่านั้น และรัฐบาลมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ยังบังคับให้ผู้ลี้ภัยกลับไปยังประเทศที่มีความเสี่ยงและเป็นอันตรายต่อชีวิต ซึ่งการกระทำดังกล่าวขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ อีกทั้ง ไม่น้อยกว่า 36 ประเทศทั่วโลก ยังคงมีความรุนแรงจากกลุ่มติดอาวุธ

ประธานกรรมการ แอมเนสตี้ฯ กล่าวต่อว่า สำหรับนักปกป้องสิทธิมนุษยชน พบไม่น้อยกว่า 156 คน ถูกฆาตกรรมและเสียชีวิตขณะถูกคุมขัง โดยมากกว่า 61 ประเทศ จับกุมคุมขังนักโทษทางความคิด เพียงเพราะการใช้สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก และมากกว่า 122 ประเทศ มีการทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายต่อพลเรือน ขณะที่อาชญากรรมสงครามหรือการละเมิดกฎหมายสงครามที่เกิดขึ้นมีไม่น้อยกว่า 19 ประเทศทั่วโลก

“4 ประเทศ ผ่านกฎหมายที่กำหนดให้คู่รักเพศเดียวกัน สามารถแต่งงานกันได้หรือยอมรับในความสัมพันธ์ของคู่รักเพศเดียวกัน ปี 2558 รวมแล้วปัจจุบันมีอย่างน้อย 20 ประเทศทั่วโลกที่ผ่านกฎหมายนี้” นายชำนาญ กล่าว และว่า ไม่น้อยกว่าร้อยละ 55 ของประเทศทั่วโลก มีการพิจารณาคดีที่ไม่เป็นธรรม โดยผู้ถูกกล่าวหา ผู้เสียหายจากคดีอาชญากรรม หรือสาธารณชนไม่ได้รับความยุติธรรม

เมื่อถามเพิ่มเติมถึงการแก้ปัญหาของรัฐบาลไทยเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนเป็นอย่างไร นายชำนาญ กล่าวว่า รัฐบาลมีความพยายามอย่างดีที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาหลายปี ประเทศไทยไม่เคยติดอันดับโลก แต่ครั้งนี้ติดอันดับแทบทุกสำนัก ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับประเด็นสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมหรือการแสดงออก ดังนั้น จำเป็นต้องผ่อนคลาย ปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศรับรองสิทธิขั้นต่ำที่ได้ลงนามสัตยาบันไว้

ขณะเดียวกัน ประธานกรรมการ แอมเนสตี้ฯ กล่าวถึงการที่ประเทศไทยติดอันดับในการละเลยสิทธิและการคุกคาม เพราะมีบุคคลสูญหายจำนวนมาก นอกจากนายพอละจี รักจงเจริญ (บิลลี่) และทนายสมชาย นีละไพจิตร แล้ว ยังมีบุคคลอื่นที่ไม่รู้จักอีกมาก โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพียงแต่เราไม่ทราบเรื่อง

สำหรับกลไกหลังจากวันนี้ จะมีการยื่นหนังสือต่อรัฐบาล ซึ่งข้อเรียกร้องส่วนใหญ่ไม่เกินความสามารถที่รัฐบาลจะกระทำได้ เช่น การเปิดสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมอย่างสงบ การเปิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ยุติการจับกุมหรือควบคุมตัวโดยพลการ ยุติการใช้ศาลทหารไต่สวนคดีของพลเรือน ทั้งนี้ เข้าใจว่าสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยแย่ลง เหตุผลหนึ่งมาจากรัฐบาลพยายามควบคุมให้ประเทศมีความสงบ โดยมองความมั่นคงเป็นหลัก ขณะที่ นายชำนาญ ได้มอบรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนทั่วโลก ประจำปี 2558-59 ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ต่อรัฐบาล โดยมีนายอภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ผู้อำนวยการกองการสังคม กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนรับมอบ

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์