เกิดเหตุระเบิดหลายระลอกในกรุงดามัสกัส และเมืองฮอมส์ทางตะวันตกของซีเรีย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตรวมมากถึง 140 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก…
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุระเบิด 4 ลูกในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศซีเรีย และระเบิดรถยนต์อีก 2 ลูกที่เมืองฮอมส์ ทางตะวันตก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 83 ราย และ 57 รายตามลำดับ โดยส่วนใหญ่เป็นพลเรือนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก
การโจมตีในเมืองฮอมส์เกิดขึ้นในเขตที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามนิกายอาลาวิต เช่นเดียวกับประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด กลุ่มสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนในซีเรีย (เอสโอเอชอาร์) ระบุว่า เหตุระเบิดทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากซึ่งอาจทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น
ส่วนการโจมตีในกรุงดามัสกัสเกิดขึ้นในเมือง เซย์ยิดาห์ เซย์นาบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหารชื่อเดียวกันและเป็นสถานวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในซีเรียสำหรับชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ โดยเอสโอเอชอาร์ระบุว่า เกิดระเบิดขึ้น 4 ครั้ง และอย่างน้อย 1 ครั้งเป็นระเบิดรถยนต์
ในเบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างตัวว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของเหตุระเบิดทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ แต่ในอดีตกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอซิส) เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันที่เมืองทั้ง 2 แห่งมาก่อน
เอสโอเอชอาร์ ยังรายงานสถานการณ์การต่อสู้ที่เมืองอเลปโป ทางเหนือของซีเรียด้วยว่า กองทัพรัฐบาลซีเรียรุกคืบโจมตีในภาคตะวันออกของเมืองแห่งนี้อย่างหนัก โดยได้รับการสนับสนุนทางอากาศจากเครื่องบินรบของรัสเซีย และสามารถสังหารนักรบติดอาวุธของกลุ่มไอซิส ได้อย่างน้อย 50 ราย
อีกด้านหนึ่ง นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ออกมากล่าวหลังจากหารือกับนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ ว่า วันนี้โลกกำลังเข้าใกล้การหยุดยิงในซีเรียมากกว่าที่เคยเป็น โดยรมว.ทั้งสองคนได้เห็นชอบข้อสัญญาของข้อตกลงยุติความเป็นศัตรูที่ชาติมหาอำนาจตกลงกันเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาแล้ว แต่ย้ำว่ายังมีรายละเอียดที่ยังต้องได้รับการแก้ไข
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์