สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติของมาเลเซียออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี เรื่องการจับกุมผู้ต้องสงสัย 7 คน เป็นพลเมืองมาเลเซีย 4 คน หนึ่งในนั้นเป็นหญิง และพลเมืองอินโดนีเซีย 3 คน ฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมนิยมกลุ่มหัวรุนแรง โดยปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 12-17 ก.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ต้องสงสัยชาวมาเลเซียนั้น รวมถึงชายว่างงานวัย 34 ปี จากรัฐยะโฮร์ ตั้งอยู่ทางใต้สุดของประเทศ โพสต์ข้อความหลายครั้งบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเตรียมการเพื่อลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมหมัดที่ 5 และการลอบสังหาร ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรี และนายมูจาฮิด ยูซอฟ ราวา รัฐมตนตรีกิจการศาสนา โดยข้อมูลจากพนักงานสืบสวนระบุด้วยว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้มีความเชื่อในการใช้กฎหมายชารีอะห์
ขณะที่ผู้ต้องสงสัยชาวมาเลเซียคนต่อมาเป็นชายวัย 42 ปี ประกอบอาชีพช่างเทคนิค ซึ่งตำรวจพบเบาะแสว่าเป็นผู้ข่มขู่และอยู่ระหว่างตระเตรียมการวางระเบิดโจมตีสถานที่สำคัญหลายแห่งทั้งในมาเลเซีย อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ หลังผ่านพ้นเดือนรอมฎอน และผู้ต้องสงสัยหญิงชาวมาเลเซียนั้นอายุเพียง 20 ปี ซึ่งพนักงานสืบสวนมีหลักฐานว่าเป็นตัวกลางมอบความสนับสนุนทางการเงินให้แก่สมาชิกกลุ่มไอเอสชาวมาเลเซีย ซึ่งกบดานอยู่ในซีเรีย โดยเธอแต่งงานกับชายชาวมาเลเซียวัย 26 ปี ซึ่งถูกจับกุมพร้อมกัน และเจ้าหน้าที่มีเบาะแสว่าทั้งสองคนวางแผนหลบหนีไปยังซีเรีย
ตลอดระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานด้านความมั่นคงของมาเลเซียปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน ในการติดตามจับกุมพลเมืองหลายร้อยคนทั้งชาวมาเลเซียและชาวต่างชาติซึ่งเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศ ซึ่งต้องสงสัยมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรีย
ที่มา: dailynews