หน้าแรก ข่าวต่างประเทศ

ส.ส. ตรังกานูเตือน ศูนย์ซาอุฯ “อาจลากมาเลเซียเข้าสู่ความขัดแย้ง” ตะวันออกกลาง!

กัวลาลัมเปอร์: ประธานพรรค Terengganu Amanah เตือน – การตัดสินใจของ Putrajaya เพื่อให้มีการสร้างศูนย์สันติภาพระหว่างประเทศคิงซัลมาน (KSCIP) อาจทำให้มาเลเซียมีความเสี่ยงที่จะถูกลากเข้าไปในความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในประเทศตะวันออกกลาง

Raja Bahrin Shah กล่าวว่ามาเลเซีย ควรจะวางตัวเป็นกลาง และโยนคำถามว่า “ทำไมเราต้อง ปฏิบัติกับซาอุดิอาระเบียเป็นพิเศษ ในการอนุมัติให้พวกเขาจัดตั้งศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายในภูมิภาคนี้? เรามีหน่วยงานเพียงพอที่จะจัดการกับการก่อการร้าย…

“ทำไมเราเชื้อเชิญซาอุดีอาระเบีย (มาที่นี่) ประเทศซึ่งมีศัตรูจำนวนมากในตะวันออกกลาง?” เขาถามในงานแถลงข่าว ณ รัฐสภาเมื่อกลางเดือนนี้

การสร้างศูนย์ KSCIP เป็นข้อตกลงร่วมกัน ในระหว่างการมาเยือนของกษัตริย์ซัลมาน อับดุลอาซิซ ราชอณาจักรซาอุดิอาระเบีย ยังประเทศมาเลเซีย เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในฐานะความพยายามเพื่อต่อสู้กับอิทธิพลของรัฐอิสลาม (IS)

โดยรัฐบาลมาเลเซียได้จัดสรรพื้นที่ในจัตุรัสปุตราจายา กว่า 16 hectares เพื่อสร้างศูนย์ดังกล่าว ขณะที่รายละเอียดของการปฏิบัติงาน รวมทั้งเจ้าหน้าที่สำหรับปฏิบัติงานยังไม่ได้ถูกเปิดเผย

Raja Bahrin กลัวว่า กองกำลังก่อการร้าย IS จะพุ่งเข้าหามาเลเซีย เพราะความสัมพันธ์ที่ประเทศตนมีกับริยาด

“เราไม่ต้องการ ที่จะกลายเป็นเป้าหมายของกลุ่มก่อการร้าย IS มากไปกว่านี้ เพียงเพราะการมีส่วนร่วมของเรากับซาอุดิอาระเบีย”

สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรแห่งรัฐกัวลาตรังกานูชี้ว่า นักการศาสนา นาย Zamihan Mat Zin ผู้ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้อธิบายว่า เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการฟื้นฟูอดีตผู้ก่อการร้าย ก็ได้วิพากษ์วิจารณ์โครงการจัดตั้งศูนย์ KSCIP นี้ด้วยเช่นกัน

“ไม่อยากเชื่อเลย (เพราะแม้แต่) เจ้าหน้าที่ประจำกรมพัฒนาอิสลามมาเลเซีย (Jakim) ยังเคยถูกอ้างถึง เมื่อเขากล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์ KSCIP ในประเทศมาเลเซีย เป็นเรื่องที่ ‘ไม่ฉลาด’

และ “ทันที หลังจากที่เขากล่าวคำพูดนั้น เขาก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้ออกแถลงการณ์ใดๆ”

Zamihan ประธานนิกายอะฮ์ลิซซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์มาเลเซีย (Aswaja) ในวิดีโอที่ถูกโพสต์ในสื่อโซเชียว เมื่อไม่นานมานี้ ได้วิจารณ์ว่า การตัดสินใจอนุญาตให้มีการจัดตั้ง ศูนย์ KSCIP โดยนายกรัฐมนตรีเป็นการกระทำที่ “ไม่ฉลาด”

ตามที่มีรายงาน เขากล่าวว่า ความร่วมมือของมาเลเซียที่มีกับซาอุดีอาระเบีย เพื่อต่อสู้กับ IS ไม่ใช่เหตุผลที่สมจริง เนื่องจากประเทศในตะวันออกกลางได้สร้างผู้ก่อการร้ายจำนวนมาก และมาเลเซียเอง ก็มีหน่วยงานที่เพียงพอสำหรับทำหน้าที่นี้

“มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถึงแม้ซาอุดีอาระเบียจะไม่เดินทางมายังประเทศของเรา เพื่อสู้กับการก่อการร้าย อย่างไรก็ดี เราเองก็มีกระทรวงภายในประเทศของเรา มีเรือนจำ และสถาบันรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ

“ทำไมเราต้องพึ่งพิงไปยังซาอุดิอาระเบียในการต่อสู้กับ IS? ซาอุดีอาระเบียเอง เป็นผู้ผลิตกองกำลัง IS พวกเขาล้มเหลวในการฟื้นฟูนักรบ IS ในประเทศของตนเอง ฉะนี้แล้ว พวกเขาจะสามารถฟื้นฟู IS ผู้ถูกควบคุมตัวในประเทศของเราได้อย่างไร” – Zamihan กล่าว

ทั้งนี้ เว็ปไซต์ข่าวมาเลเซีย FMT ได้เคยรายงานเมื่อต้นเดือนว่า รายละเอียดเกี่ยวกับ KSCIP ยังคงไม่เป็นที่ชัดเจน แม้การประกาศจัดตั้งศูนย์จะผ่านไปแล้วถึง 4 เดือนก็ตาม

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดตั้งศูนย์ KSCIP คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระดับอุดมศึกษา ผ่านทางมหาวิทยาลัย Universiti Sains Islam Malaysia (Usim) ซึ่งจะร่วมมือกับสถาบันที่อยู่ภายใต้กระทรวงกลาโหมของ ซาอุดีอาระเบีย ชื่อ Markaz Harb Fikriah (ศูนย์ Centre for Ideological Warfare)

อีกหนึ่งองค์กรสำคัญที่มีส่วนร่วมในโครงการนี้คือ Rabitah Alam Al-Islami (Muslim World League – สันนิบาตมุสลิมโลก) ซึ่งเป็นองค์กรที่ได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากริยาดเป็นเวลาหลายสิบปี และดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของอิสลามและเผยแพร่อุดมการณ์ศาสนาตามแบบซาอุดีอาระเบียในต่างประเทศ อาจกล่าวได้ว่า องค์กรนี้มีประวัติยาวนานเกี่ยวกับการส่งเสริมและส่งออกสำนักคิดวะฮาบี

จากการสนับสนุนด้วยปิโตรดอลลาร์ของซาอุดิอาระเบียกว่ายาวนานกว่าหลายทศวรรษ Muslim World League – สันนิบาตมุสลิมโลก (MWL) ได้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงของริยาด โดยได้จัดสรรงบประมาณ สำหรับการสร้างศูนย์อิสลามอย่างมากมาย ในเมืองต่างๆของยุโรป และส่งเสริมกิจกรรมการเผยแพร่ศาสนาอิสลามในทวีปเอเชียและแอฟริกา

รวมถึงการเผยแพร่นิตยสารอิสลาม การจัดหลักสูตรอิสลาม และแจกจ่ายสำเนาอัลกุรอานนับล้านเล่ม ซึ่งเป็นฉบับแปลเป็นภาษาท้องถิ่น ที่ได้รับการรับรองโดยนักวิชาการซาอุดีอาระเบีย