กลุ่มติดอาวุธโรฮิงญาตอบโต้การกดขี่จากกองทัพที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้านอองซานซูจีชี้ว่า เป็นการก่อการร้าย

กลุ่มติดอาวุธโรงฮิงญาประกาศทำสงครามเต็มรูปแบบกับกองทัพเมียนมา เพื่อตอบโต้การกดขี่จากกองทัพที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้านอองซาน ซูจีชี้ว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการก่อการร้าย

นายอับดุลลาห์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพกู้ชาติโรฮิงญาอาระกัน หรือ ARSA ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวเอเชีย ไทม์สว่า การโจมตีป้อมตำรวจ 30 จุดในเมืองหม่องดอว์ รัฐยะไข่ของเมียนมาเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่าน เป็นการป้องกันตัวเองจากเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของเมียนมาที่พยายามยก ระดับความรุนแรงในการปราบปรามชาวโรฮิงญา เนื่องจากเมื่อวันที่ 10 – 11 สิงหาคมที่ผ่านมา กองทัพเมียนมาได้นำทหารไปประจำการในรัฐยะไข่เพิ่มอีก 400 นาย

นายอับดุลลาห์อธิบายว่า การกดขี่จากกองทัพเมียนมาและการโต้กลับของ ARSA ได้ผลักให้รัฐยะไข่อยู่ในสงครามเต็มรูปแบบ อีกทั้งยังประกาศว่า พวกเขาจะต่อต้านกองทัพเมียนมาต่อไป จนกว่าข้อเรียกร้องของชาวโรฮิงญาในการได้รับสิทธิพลเมืองกลับคืนมา นอกจากนี้ เขายังอธิบายว่า กลุ่มติดอาวุธไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตอบโต้กลับ เพื่อไม่ให้ชาวโรฮิงญาถูกเข่นฆ่าและกดขี่จากกองทัพเมียนมาอีกต่อไป

การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ที่กลุ่มติดอาวุธโจมตีเจ้าหน้าที่เมียนมาครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคมปี 2016 ซึ่งรัฐบาลเมียนมาภายใต้การนำของนางอองซาน ซูจี มุขมนตรีแห่งรัฐเมียนมาระบุว่า เหตุปะทะกันครั้งนี้เป็นการก่อการร้าย และเธอยังตำหนิเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติว่า ให้ความช่วยเหลือกลุ่มก่อการร้าย พร้อมทั้งสั่งให้มีการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของยูเอ็นด้วย ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ยูเอ็นออกมาตอบโต้ว่า นางซูจีไม่มีความรักผิดชอบ ทั้งที่เธอควรทำทุกทางเท่าที่จะทำได้ ในการยุติความรุนแรงครั้งนี้

รายงานจากทาง การเมียนมาระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะกันรอบล่าสุดมากกว่า 100 รายแล้ว และคาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ ยังทำให้ชาวโรฮิงญาหลายพันคนอพยพออกนอกพื้นที่ เพื่อหนีความรุนแรงครั้งล่าสุดนี้ ขณะที่รัฐบาลบังกลาเทศได้ส่งชาวโรฮิงญากลับไปที่เมียนมาแล้ว 90 คน ส่วนรัฐบาลอินเดียก็มีแผนจะส่งชาวโรฮิงญากลับประเทศอีก 40,000 คน ซึ่งหลายฝ่ายก็วิพากษ์วิจารณ์ว่า การส่งผู้ลี้ภัยกลับไปยังประเทศที่พวกเขาต้องเสี่ยงอันตราย เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้

เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขสูงสุดแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกทรงเทศน์ให้กับประชาชนบริเวณจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน ในระหว่างพิธีทางศาสนา โดยเรียกร้องให้ยุติการกดขี่ชาวโรฮิงญาในเมียนมา โดยพระองค์ทรงอธิษฐานให้พระเจ้าช่วยปกป้องชาวโรฮิงญา ขอให้มีผู้จิตใจดีช่วยเหลือและให้สิทธิทั้งหมดที่พวกเขาควรได้รับ

ที่มา: https://news.voicetv.co.th/