หลังชาวเน็ตฮือฮาในการใช้บริการฝากของที่นำขึ้นเครื่องบินไม่ได้ ไปกับตู้ฝากพัสดุกับเครื่องอัตโนมัติที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ล่าสุด ผู้บริหาร ไปรษณีย์ไทย เล็งไปวางที่ท่าอากาศยานดอนเมืองด้วย เชื่ออำนวยความสะดวกคนเสียดายของ
จากการแชร์บอกต่อกันบนโลกสังคมออนไลน์ ถึงบริการตู้แดงรับฝากของที่นำขึ้นเครื่องบินไม่ได้ ส่งกลับบ้านหรือประเทศปลายทาง ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จนเป็นที่ฮือฮาในทางเลือกใหม่ของคนเดินทางที่ไม่ต้องทิ้ง น้ำหอม กระป๋องสเปรย์ โลชั่นทาผิว หรือของแหลม ของมีคมต่างๆ ไว้ที่สนามบินอีกต่อไป ดังเช่น รูปบนเฟซบุ๊กที่แชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊ก ที่ใช้นามว่า “Phubase Tang” อธิบายว่า ระหว่างแพ็กสิ่งของลงในกระเป๋าเดินทาง พบว่า ลืมไขควง ซึ่งเป็นสิ่งของต้องห้ามของสายการบินไว้ในเป้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ตอนไปติดตั้งระบบงานแล้วหิ้วเป้ขึ้นเครื่อง เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้ใช้บริการฝากพัสดุกับเครื่องอัตโนมัติ
ตู้ส่งไปรษณีย์อัตโนมัติที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า ตู้ดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า เครื่องบริการฝากส่งไปรษณีย์อัตโนมัติ หรือ APM ขณะนี้ ทางไปรษณีย์ไทยนำมาติดตั้งใช้งานจำนวน 2 ตู้ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อใช้สำหรับให้ผู้โดยสารที่มีสิ่งของที่ติดตัวมาแต่ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ เช่น ของเหลว เจล น้ำหอม กระป๋องสเปรย์ โลชั่นทาผิว หรือของมีคม เช่น ไขควง คัตเตอร์ กรรไกรตัดเล็บ หากเสียดายไม่อยากทิ้งก็เอาใส่ซองส่งกลับบ้านได้
สำหรับขั้นตอนการใช้งานก็ไม่ยุ่งมากนัก ทำตามขั้นตอนที่หน้าตู้อยู่เริ่มจาก เลือกประเทศปลายทาง ใส่รหัสไปรษณีย์ นำพัสดุชั่งน้ำหนักเพื่อคิดค่าบริการ จากนั้นก็ใส่เงินเข้าไป จากนั้นก็รับแสตมป์กับสลิป นำแสตมป์ไปแปะในซองจดหมายที่ออกมา เอาของใส่เขียนจ่ายหน้าซอง ตามที่อยู่ที่ต้องการ นำซองกับบัตรประชาชนไปสแกน ชั่งน้ำหนักอีกครั้ง กดยืนยัน นำพัสดุใส่ช่องรับ ก็เสร็จขั้นตอน ผู้ใช้งานสามารถส่งได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยใช้ระยะเวลาในการส่งประมาณ 3 วันทำการ เพราะพัสดุเดินทางด้วยรถยนต์ และพัสดุสิ่งของที่ฝากนี้ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 500 กรัม
ทาง ปณท อยากจะทดสอบระบบให้แน่ใจว่าทุกอย่างใช้งานได้จริง เลยลองนำร่องดูที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยกำลังหารือกันว่าที่ ท่าอากาศยานดอนเมืองก็เป็นอีกจุดที่ผู้โดยสารมีจำนวนมาก ก็กำลังพิจารณานำไปติดตั้งเช่นกัน ถือเป็นการนำเอาตู้ APM มาเพื่ออำนวยความสะดวก และรู้สึกยินดี ที่มีผู้ใช้งานแล้วประทับใจ โพสต์บอกต่อกันทางสังคมออนไลน์
จริงๆ แล้ว ปณท มีแผนนำบริการใหม่ มาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าอยู่แล้ว ตู้ APM ก็คิดมานาน ตอนแรกก็กลัวว่าคนไทยจะยังรับไม่ได้ แต่เมื่อเทคโนโลยีมันเปลี่ยนไปทำให้เห็นว่าเทคโนโลยีมาแล้ว และคนต้องการบริการที่ทำด้วยตัวเองได้มากขึ้น ก็เป็นโอกาสดีที่ได้นำเสนอ โดยในอนาคต ก็จะขยายตู้รับฝากไปรษณีย์และพัสดุ เพื่อให้เป็นที่ทำการไปรษณีย์ 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ เครื่องดังกล่าวอาจจะไม่ตอบความต้องการบรรดาแม่ค้าพ่อค้าออนไลน์ ที่ส่งของทีละมากๆ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ส่งของเยอะ ตู้นี้จะมาช่วยให้ไม่ต้องรอคิวอีกต่อไป
ที่มา: https://www.thairath.co.th/