หน้าแรก ข่าวในประเทศ ข่าวชายแดนใต้

“เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้” ร่อนแถลงการณ์จี้ คสช.-รัฐบาลทอปบูตหยุดผูกขาดความรู้ ยุติการดำเนินคดี เปิดพื้นที่เสรีภาพ

“เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้” ร่อนแถลงการณ์จี้ คสช.และรัฐบาลจากการรัฐประหาร หยุดผูกขาดความรู้ ยุติการดำเนินคดี เปิดพื้นที่เสรีภาพ หลังมีนายทหารแจ้งความดำเนินคดีต่อนักวิชาการ นักศึกษา มช.และนักแปลชื่อดังรวม 5 คน กรณีถือป้าย “เวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหาร” ในงานประชุมวิชาการนานาชาติ ไทยศึกษา

วันนี้ (17 ส.ค.) เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ ได้ออกแถลงการณ์และเปิดเผยต่อสาธารณชนเรื่อง “หยุดผูกขาดความรู้ ยุติการดำเนินคดี เปิดพื้นที่เสรีภาพ” ความว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก (สภ.) จ.เชียงใหม่ ได้ออกหมายเรียกนักวิชาการ และนักศึกษา จำนวน 5 คน ในข้อหามั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย อันเนื่องมาจากการประชุมวิชาการนานาชาติ ไทยศึกษา ครั้งที่ 13 “Globalized Thailand? Connectivity, Conflict and Conundrums of Thai Studies” ระหว่างวันที่ 15-18 ก.ค.2560 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ นั้น

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของนักวิชาการในมหาวิทยาลัยต่างๆ ในภาคใต้ มีความเห็นว่า การจัดประชุมวิชาการระดับนานาชาติดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดย “เปิดเผย” เพื่อสร้าง รวบรวม ทบทวน องค์ความรู้ด้านไทยศึกษาของนักวิชาการทั้งใน และต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อทำความเข้าใจ “ความเป็นไทย” ในมิติต่างๆ อันจะนำไปใช้ในการวางแผนพัฒนาประเทศ และการเปลี่ยนผ่านสังคมไทยไปสู่ความยั่งยืน ซึ่งต้องอาศัยองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่เกิดจากการถกเถียง แลกเปลี่ยน พูดคุยอย่างสร้างสรรค์ และมีเสรีภาพทางวิชาการอย่างแท้จริง

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ จึงขอเรียกร้อง ดังนี้
1.ขอให้ยุติการดำเนินคดีใดๆ ต่อนักวิชาการ และนักศึกษา เพราะเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่ระบุไว้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปี พ.ศ.2560 และสิทธิมนุษยชนสากล
2.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดพื้นที่เสรีภาพ และการมีส่วนร่วมในทุกมิติ เพราะการเปลี่ยนผ่านสังคมไทยไปสู่ความสมานฉันท์ ต้องอาศัยการผนึกพลังปัญญาของทุกภาคส่วนในสังคม มิใช่การผูกขาดชุดความรู้โดยคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเป็นการเฉพาะ
3.ขอเรียกร้องให้ทุกมหาวิทยาลัยแสดงความกล้าหาญทางจริยธรรม ในการปกป้องพื้นที่ เสรีภาพ และการแสดงออกทางวิชาการ รวมถึงการส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากรแสดงบทบาทการเป็นปัญญาชนสาธารณะอย่างต่อเนื่อง

อนึ่ง เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ จะได้ประสานกับมหาวิทยาลัย และภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ในการรณรงค์เพื่อให้การดำเนินคดียุติลง และร่วมกันผลักดันให้เกิด “พื้นที่เปิด” สำหรับการสร้างสรรค์สังคมไทยร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในเรื่องนี้ว่า ช่วงเช้าวันนี้ (17 ส.ค.) ปรากฏว่า มีหมายเรียกจาก สภ.ช้างเผือก ส่งถึงผู้ต้องหาเป็นหมายที่ 2 ทั้งที่ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน พร้อมด้วยทนายความประสานจะเดินทางไปพบตำรวจ สภ.ช้างเผือก แล้วในวันที่ 21 ส.ค.นี้ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดตามหมายเรียกถึง 2 วัน ประกอบด้วย
1.ดร.ชยันต์ วรรธนะภูติ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิภาคด้านสังคมศาสตร์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน (RCSD) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.)
2.นายนลธวัช มะชัย นักศึกษาปริญญาตรีปีที่ 3 สาขาการสื่อสารมวลชน มช.
3.นายธีรมล บัวงาม นักศึกษาปริญญาโท สาขาการสื่อสารศึกษา มช.
4.นายชัยพงษ์ สำเนียง นักศึกษาปริญญาเอก สาขาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มช.
และ 5.นางภัควดี วีระภาสพงษ์ นักแปลชื่อดัง

สำหรับคดีดังกล่าวเป็นผลจาก พ.อ.สืบสกุล บัวระวงศ์ รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ ได้ไปแจ้งความกล่าวหาว่า ดร.ชยันต์ และพวกรวม 5 คน กระทำการมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า คสช.หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ระหว่างการประชุมนานาชาติ ไทยศึกษา ครั้งที่ 13 เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา

โดยหลังปรากฏเป็นข่าวก็ได้มีความเคลื่อนไหวของทั้งภาคเอกชน และประชาชน รวมถึงองค์กรต่างๆ ทั้งใน และต่างประเทศได้แสดงออก และออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ถอนการแจ้งความข้อหามั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากทั้ง 5 คน เช่น กลุ่มองค์กรเอกชนชนและเครือข่ายประชาชน 28 องค์กร และฮิวแมนไรท์วอทช์ ที่มีสำนักงานตั้งอยู่ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รวมถึงล่าสุด คือ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ เป็นต้น

ที่มา: www.manager.co.th