หน้าแรก ข่าวในประเทศ ข่าวชายแดนใต้

ผบช.ศชต.แถลงข่าวความคืบหน้า 3 คดีสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

“พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ” ผบช.ศชต.แถลงข่าวความคืบหน้า 3 คดีสำคัญ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมได้บูรณาการกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เร่งรัดตามจับกุมคดีที่เกิดขึ้นทุกคดีอย่างต่อเนื่อง

วันนี้ (10 ส.ค.) ที่ห้องแถลงข่าวศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายราชิต สุดพุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าคดีสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 3 คดี ต่อสื่อมวลชน

พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า กรณีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะเข้าแถวเคารพธงชาติ บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอระแงะ จ.นราธิวาส เหตุเกิดหน้าสถานีตำรวจภูธรระแงะ ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 เวลาประมาณ 08.35 น. ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 4 นาย โดยคนร้ายได้ปล้นรถกระบะที่ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุมาจาก นายลีเป็ง มะแอ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 ที่บ้านลูโบ๊ะลาเซ๊าะ ต.ร่มไทร อ.สุคิริน จ.นราธิวาส หลังจากคนร้ายก่อเหตุได้นำรถยนต์จอดทิ้งไว้ที่บ้านลูโบ๊ะดีแย หมู่ 6 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส

จากการตรวจที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาดจุด .223 จำนวน 78 ปลอก ผลการตรวจสอบกระสุนพบว่า ใช้ยิงมาจากอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 3 กระบอก ซึ่งมีประวัติใช้ก่อเหตุมาแล้ว 7 คดี จากการตรวจสอบภายในรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ ผลการตรวจสอบพบพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เชื่อมโยงกับ นายอับดุลเลาะ ดอเล๊าะ และนายอับดุลฮาดี อาบูดาโอ๊ะ และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า นายอัมรัน สะมะแอ เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ทำหน้าที่ดูต้นทาง จึงได้ทำการควบคุมตัว นายอัมรัน เข้าสู่กระบวนการซักถาม และได้ให้การถึงผู้ร่วมก่อเหตุคดีนี้

ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจากการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ภาพจากกล้องวงจรปิด และผลจากการซักถามผู้ถูกควบคุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สามารถออกหมายจับ ป.วิอาญา 14 หมาย จับกุมแล้ว 10 หมาย หลบหนี 4 หมาย ซึ่งคดีนี้ได้สอบสวนเสร็จสิ้นส่งพนักงานอัยการแล้ว ในส่วนของสถานที่สถานีตำรวจภูธรระแงะ ขณะนี้ได้สร้างหอสูงเพื่อสังเกตการณ์ และติดตั้งตาข่ายป้องกันลูกระเบิดไว้แล้ว

“ส่วนเหตุคนร้ายโจมตีจุดตรวจร่วม 3 ฝ่าย อ.กรงปินัง เหตุเกิดพื้นที่หมู่ 7 อ.กรงปินัง จ.ยะลา เมื่อ 3 เมษายน 2560 เวลาประมาณ 01.15 น. ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ ได้มีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบไม่ต่ำกว่า 50 นาย แบ่งหน้าที่กันทำ โดยส่วนหนึ่งได้บุกโจมตีจุดตรวจ 3 ฝ่ายกรงปินัง ตั้งอยู่หมู่ 7 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา ซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียว ด้วยการใช้อาวุธปืนสงครามยิง ปาวัตถุระเบิด และใช้น้ำมันเบนซินบรรจุขวดติดไฟปาเข้าไปภายในจุดตรวจดังกล่าว จึงเกิดเพลิงไหม้เผาจุดตรวจดังกล่าว เป็นเหตุทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ และบาดเจ็บสาหัสรวม 12 นาย และอีกส่วนหนึ่งได้ทำการระเบิดเสาไฟฟ้าจนหักโค่น ตัดต้นไม้ วางตะปูเรือใบ วางระเบิดบรรจุถังแก๊สหุงต้มขวางถนนสาย 410 ยะลา-เบตง จำนวน 2 จุด และถนนสาย 3015 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา จำนวน 2 จุด นอกจากนี้ ยังใช้อาวุธปืนสงครามยิงเข้าไปในฐานหน่วยปฏิบัติการพิเศษกรงปินัง ตั้งอยู่หมู่ 8 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา และฐานปฏิบัติการทหารพราน 3303 บ้านรานอ ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อบันนังสตา จ.ยะลา รวมทั้งสิ้น 6 จุด ซึ่งความคืบหน้าทางคดีเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารร่วมกันพิสูจน์ทราบเป้าหมายต้องสงสัยมีส่วนร่วมก่อเหตุ จำนวน 14 เป้าหมาย ควบคุมบุคคลต้องสงสัยตามกฎอัยการศึก จำนวน 13 คน ต่อมา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2560 รวมกันพิสูจน์ทราบเป้าหมายเพิ่มเติม จำนวน 11 เป้าหมาย ควบคุมตัว 9 คน ออกหมาย พ.ร.ก. จำนวน 23 คน จับกุม 12 คน อยู่ระหว่างควบคุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2 คน หลบหนี 11 คน พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และได้ขอศาลจังหวัดยะลา ออกหมายจับ ป.วิอาญา 25 หมาย จับกุมแล้ว 9 ราย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามจับกุม และจากผลการซักถามผู้ถูกควบคุมตัว ทราบว่า คนร้ายที่เข้าโจมตีจุดตรวจกรงปินัง และเกิดการปะทะกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และได้หลบหนีไปรักษาตัวที่ประเทศมาเลเซีย ส่วนบริเวณสถานที่จุดตรวจร่วม 3 ฝ่ายกรงปินัง ขณะนี้อยู่ระหว่างทำการปรับปรุง โดยได้รับการสนับสนุนตู้อุปกรณ์จากแม่ทัพภาคที่ 4” พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าว

ผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารร้อย ร.1534 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 เหตุเกิดบริเวณถนนลูกรังกลางทุ่งนา สายบ้านบือแนยามู-บ้านพรุชะเมา หมู่ 5 ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2560 เวลาประมาณ 11.45 น. เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต จำนวน 6 นาย และได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 นาย จากการตรวจที่เกิดเหตุพบว่า คนร้ายใช้ระเบิดบรรจุถังแก๊สน้ำหนักประมาณ 80-90 กิโลกรัม โดยใช้การจุดระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร และลากสายไฟ โดยมีสะเก็ดระเบิดเป็นเหล็กเส้นตัดท่อน และพบไฟฉายคาดศีรษะสีเขียวของคนร้ายอยู่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ จึงได้ส่งตรวจผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอที่ไฟฉายดังกล่าว ตรงกับดีเอ็นเอของ นายมาหะมะ สะอิ (โดยตรวจความสัมพันธ์ในรูปแบบบิดามารดา) และมีข้อมูลตรงกับฐานข้อมูลในเหตุการณ์อื่นอีก 4 เหตุการณ์ คือ เหตุพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยบริเวณป่าพรุ หมู่ 3 ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2560 ส่งตรวจสอบโดยสถานีตำรวจภูธรทุ่งยางแดง ซึ่งรถคันดังกล่าวถูกคนร้ายชิงทรัพย์จาก อ.หนองจิก เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2560 เหตุเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนบริเวณป่าละเมาะหมู่ 2 ต.ตาแกะ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี พบชายวัยรุ่น 2 คน นอนอยู่บริเวณโคนต้นไม้ จึงได้ปลุก และใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปไว้ เมื่อบุคคลทั้ง 2 ตื่น จึงได้วิ่งหลบหนี และใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2560 เหตุตรวจยึดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีแดงดำ ป้ายทะเบียน ข 2140 พร้อมของกลางหลายรายการ บริเวณขนำภายในทุ่งนา หมู่ 2 ต.ถนน อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2559 เวลาประมาณ 16.00 น. และเหตุพบศพ นายอับดุลการีม มะลา อายุ 22 ปี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2557 เวลา 07.00 น. ที่บริเวณถนนสายกะดุนง-กะพ้อ บ้านโต๊ะบาลา หมู่ 5 ต.กะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี

“คดีนี้ได้ควบคุมผู้ต้องสงสัยตาม พ.ร.ก. จำนวน 2 คน ยอมรับมีส่วนเกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์ในคดีนี้ และเหตุการณ์ก่อความไม่สงบอีกจำนวนหลายเหตุการณ์ พนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับ ป.วิอาญา 1 หมาย คือ นายมาหามะ สะอิ อยู่ระหว่างหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองจัดชุดปฏิบัติการออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้อย่างต่อเนื่องแล้ว ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้บูรณาการกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เร่งรัดตามจับกุมคดีที่เกิดขึ้นทุกคดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อพิสูจน์ทราบผู้ร่วมกระทำความผิด สาเหตุของการก่อเหตุ และสามารถตอบสังคมได้ว่า คดีไหนเป็นคดีความมั่นคง หรือเกิดจากสาเหตุอื่น นอกจากนี้ ได้จัดกำลังเฝ้าระวังป้องกันเหตุอย่างเต็มที่ ขอให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน” พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าว

ที่มา: www.manager.co.th