หน้าแรก ข่าวในประเทศ ข่าวชายแดนใต้

รองโฆษก กอ.รมน.เปิดเผยกรณีเหตุคนร้ายปล้นรถยนต์ และก่อเหตุยิงใส่ฐานทหารที่ปัตตานี

รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยถึงกรณีเหตุคนร้ายปล้นรถยนต์ และก่อเหตุใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่ฐานปฏิบัติการ จนท.ทหาร ร้อย ร.2533 ฉก.ปน.24 และบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ใกล้เคียงกับฐานปฏิบัติการ

วันนี้ (24 ก.ค.) ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่ฐานปฏิบัติการ ร้อย ร.2533 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 และบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ใกล้เคียงกับฐานปฏิบัติการ เหตุเกิดบริเวณพื้นที่หมู่ 2 บ้านท่าด่าน ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2560 เวลาประมาณ 19.45 น.นั้น โดยพฤติกรรมคนร้ายไม่ทราบจำนวน ขับรถยนต์กระบะไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ โดยขับผ่านหน้าฐานหมวดปืนเล็กที่ 2 ร้อย ร.2533 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 จากนั้นคนร้ายได้ขว้างระเบิดแสวงเครื่อง และใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาดยิงใส่จำนวนหลายนัด ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จึงเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ และคาดว่าคนร้ายได้รับบาดเจ็บ

“หลังก่อเหตุคนร้ายขับรถหลบหนีผ่านบ้านเรือนราษฎรที่อยู่บริเวณใกล้เคียง พร้อมใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้านเลขที่ 13 ซึ่งเป็นบ้านของ นางมณฑี พรหมสะอาด กระสุนปืนถูกผนังบ้านได้รับความเสียหายเล็กน้อย บ้านเลขที่ 53/3 ซึ่งเป็นบ้านของ นายประจักษ์ นิมมานรัตน์ กระสุนปืนถูกผนังบ้านได้รับความเสียหายเล็กน้อย และบ้านเลขที่ 53/4 ซึ่งเป็นบ้านของ นางจิต ธนูสังข์ กระสุนปืนถูกกระจกรถยนต์กระบะที่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้านได้รับความเสียหาย ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ซึ่งต่อมา เมื่อเวลา 21.30 น. ได้รับแจ้งว่า พบรถยนต์กระบะคันที่ใช้ก่อเหตุจอดทิ้งไว้ในคลองส่งน้ำบ้านปะกาจินอ หมู่ที่ 6 ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ห่างจากฐานปฏิบัติการหมวดปืนเล็กที่ 2 ร้อย ร.2533 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 ประมาณ 3 กิโลเมตร

จากการตรวจสอบพบเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ แบบ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน ขค 7214 สงขลา รถยนต์กระบะคันดังกล่าวถูกคนร้าย จำนวน 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาดยิงขึ้นฟ้า 4-5 นัด และบังคับให้ นายสาแม มีนา ขึ้นรถ และจับเป็นตัวประกันไปด้วย และขับหลบหนีไป เหตุเกิดหน้าบ้านเลขที่ 70/2 บ้านค่าย หมู่ที่ 7 ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2560 เวลา 19.45 น. จนกระทั่งคนร้ายนำมาใช้ก่อเหตุดังกล่าว ภายในรถพบศพ นายสาแม มีนา อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ที่ 1 ต.ปะกาฮะรัง อ.เมือง จ.ปัตตานี สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาดบริเวณศีรษะ ซึ่งการสังหารดังกล่าวเป็นการกระทำของคนร้ายเพื่อเป็นการทำลายพยานหลักฐาน เพราะตัวประกันได้เห็นหน้าคนร้าย คาดว่ากลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเป็นกลุ่มเดียวที่เชื่อมโยงในการปล้นรถกระบะแล้วฆ่าเจ้าทรัพย์ ก่อนจะนำระเบิดไปซุกในรถแล้วขับไปก่อเหตุคาร์บอมบ์ที่ห้างบิ๊กซี ปัตตานี เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา” พ.อ.ยุทธนาม กล่าว

รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังกล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสีย การกระทำซึ่งใช้พี่น้องประชาชน และยานพาหนะของพี่น้องประชาชนเป็นเกราะกำบัง และการยิง และขว้างระเบิดดังกล่าวยังโดนบ้านเรือนราษฎรผู้บริสุทธิ์ ในการก่อเหตุถือเป็นการกระทำที่โหดร้าย ป่าเถื่อน รวมถึงการสังหารเจ้าของรถ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดต่อหลักศาสนา บุคคลเหล่านี้จะไม่ได้รับแม้แต่กลิ่นอายของสวรรค์ โดยรถคันดังกล่าวหากหลุดรอดออกไปคาดว่าจะนำไปประกอบระเบิด แต่เจ้าหน้าที่ได้ติดตามได้เสียก่อน การกระทำที่เหี้ยมโหดนี้สมควรที่ทุกส่วนจะร่วมกันประณาม จากเหตุการณ์ดังกล่าว พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้รวบรวมพยานหลักฐาน ตลอดจนกล้องวงจรปิด หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาบังคับใช้กฎหมาย และสั่งให้หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ได้ไล่ติดตามคนร้ายต่อไป สำหรับคนร้ายที่บาดเจ็บหากผู้ใดพบเห็นให้แจ้งมาที่หมายเลข 1341 ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หรือหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ และการให้ที่พักพิงต่อผู้ก่อเหตุรุนแรงถือเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา

ที่มา: http://www.manager.co.th/