ศอ.บต.แจงเร่งแก้ไขสนามฟุตซอล 3 จังหวัดในส่วนที่เสียหายแลเว พร้อมเผยรายละเอียด ศอ.บต.เป็นผู้ให้งบประมาณการก่อสร้าง แต่ อปท.เป็นผู้ก่อสร้างทั้งหมด
วันนี้ (4 ก.ค.) นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้กล่าวถึงปัญหาของสนามฟุตซอล จำนวน 189 แห่ง ที่สร้างในพื้นที่ 3 จังหวัด ตามโครงการ หนึ่งตำบล 1 สนาม โดย ศอ.บต. เป็นผู้ จัดสรรงบประมาณให้สนามละ 1,160,000 บาท ยกเว้นสนามฟุตซอลที่ ต.เกาะสะบ้า อ.เทพา ที่มีการใช้งบประมาณมากกว่านั้น ซึ่ง ศอ.บต. เป็นผู้จัดสรรงบประมาณ โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้กำหนดสนามที่ก่อสร้าง และเป็นผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างตามสเปคที่ ศอ.บต.เป็นผู้กำหนด
การที่ ศอ.บต. จัดสรรงบประมาณ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือ เทศบาล และ อบต. ในพื้นที่มีสนามฟุตซอล เพื่อให้เยาวชนได้ใช้เป็นสนามในการเล่นกีฬาฟุตซอล เป็นเพราะเยาวชนในพื้นที่นิยมการเล่นกีฬาฟุตบอลและฟุตซอล แต่สนามกีฬาฟุตซอลนั้นมีน้อย ไม่เหมือนกับสนามฟุตบอล รวมทั้งต้องการใช้การเล่นกีฬาเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดที่ระบาดหนักในพื้นที่ รวมทั้งเชื่อว่าการเล่นกีฬาเป็นการเชื่อมความสามัคคีให้เกิดขึ้น
โครงการ สนามฟุตซอล 1 ตำบล 1 สนาม เป็นโครงการต่อเนื่องครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด จำนวน 238 สนาม โดยกำหนดให้มีการก่อสร้างปีละ 5 สนาม ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยในปีงบประมาณ 2557 ได้จัดสรรงบประมาณ จำนวน 50 สนามๆ ละ 1,158,000 บาท รวมเป็นเงิน 57,900,000 บาท แบ่งเป็น จ.ปัตตานี 19 สนาม จ.ยะลา 13 สนาม จ.นราธิวาส 18 สนาม ปีงบประมาณ 2558 ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 50 สนามๆ ละ 1,160,000 บาท รวมเป็นเงิน 58,000,000 บาท แบ่งเป็น จ.ปัตตานี 20 สนาม จ.ยะลา 12 สนาม จ.นราธิวาส 18 สนาม ปีงบประมาณ 2559 ได้รับจัดสรรงบประมาณ 48 สนาม ๆละ 1,16,000 บาท รวมเป็นเงิน 55,680,000 บาท แบ่งเป็น จ.ปัตตานี 19 สนาม จ.ยะลา 12 จ.นราธิวาส 17 สนาม ปีงบประมาณ 2560 ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 50 สนามๆ ละ 11,160,000 บาท รวมเป็นเงิน 58,000,000 บาท แบ่งเป็น จ.ปัตตานี 17 สนาม จ.ยะลา 14 สนาม จ.นราธิวาส 19 สนาม และปี งบประมาณ 2561 ได้รับจัดสรรงบประมาณ 38 สนามๆ ละ 1,160,000 บาท รวมเป็นเงิน 44,080,000 บาท
นายศุภณัฐ ยังกล่าวว่า ในส่วนของการจัดจ้างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในการก่อสร้างเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ตามระเบียบทางราชการ โดยมีการเชิญผู้นำท้องถิ่นมาซักซ้อมความเข้าใจและชี้แจงแนวทางในการดำเนินการ มีการทำบันทึกข้อตกลงระหว่าง ศอ.บต.กับท้องถิ่นที่ได้รับเงินอุดหนุน ซึ่งมีเอกสารยืนยันทุกขั้นตอน สรุปให้เห็นชัดว่า ศอ.บต. เป็นผู้จัดสรรงบประมาณ ส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รับผิดชอบในเรื่องการก่อสร้างทั้งหมด
หลังจากที่พบว่า สนามจำนวนหนึ่งเกิดการชำรุดใช้การไม่ได้ และบางสนามสร้างในที่รกร้างไม่มีการใช้งาน และหลายแห่งมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้น โดยมีสื่อมวลชนนำเสนอถึงสภาพของสนามที่เสียหายและได้รับการแจ้งข้อมูลจากประชาชน จึงได้สั่งให้มีการสำรวจจนได้ข้อเท็จจริงว่า มีสนามที่ใช้การได้สมบูรณ์ ร้อยละ 89 สนามที่ใช้การได้แต่ไม่สมบูรณ์ ร้อยละ 11 และ สนามที่ชำรุด ที่ทิ้งร้างรวม 20 สนาม
ซึ่งได้สรุปความเสียหายเกิดจากที่ตั้งของสนามอยู่ในที่โล่งแจ้ง ไม่มีหลังคากันความร้อน เมื่อถูกแดดถูกฝนเป็นเวลานาน ถูกน้ำท่วมขังจึงชำรุดไปตามกาลเวลา ประกอบกับผู้รับจ้างขาดความชำนาญในการปูพื้นยาง และบางท้องถิ่นใช้สนามฟุตซอลผิดประเภท เช่น มีการจัดงานบนสนาม และจอดรถบนสนาม และที่สำคัญพบว่าท้องถิ่นขาดการดูแลซ่อมแซม ซึ่งสนามที่ชำรุดส่วนใหญ่จะเป็นสนามที่สร้างในปี 2557 และ 2558 ซึ่งในปี 2559 ศอ.บต. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการ 3 คณะ แยกเป็นรายจังหวัดลงไปตรวจสอบ จึงมีความเห็นว่าให้เพิ่มแผ่นยางที่กว้างขึ้น เพื่อลดรอยต่อและลดการโค้งงอของแผ่นยาง และได้ขอความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ให้มีการต่อยอด จัดงบประมาณในการทำหลังคาคลุม รั้ว และติดตั้งไฟส่องสว่าง และอย่าใช้สนามผิดวัตถุประสงค์ รวมทั้งให้มีการดูแลรักษาสนามเพื่อให้มีอายุการใช้งานให้นานขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ศอ.บต.ไม่ได้ปล่อยละเลยอย่างที่เป็นข่าว
สำหรับในส่วนที่ดีของสนามฟุตซอลที่เกิดขึ้น แต่ไม่มีการกล่าวถึงคือ จากผลของการมีสนามฟุตซอลตามโครงการ 1 ตำบล 1 สนาม ทำให้วันนี้เรามีเยาวชนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ นายศุภชัย ใจเด็ด ชาว อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเติบโตมาจากการเป็นนักกีฬาฟุตซอลของจังหวัด ได้เป็นตัวแทนทีมชาติ และเป็นนักกีฬาอาชีพ และนายบูรฮานุดดีน ลอแม ชาว อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เป็นนักกีฬาฟุตซอลทีมชาติไทย นี่คือสิ่งดีที่เกิดจากการส่งเสริมกีฬาแบบครอบวงจรของ ศอ.บต.
ในส่วนของสนามฟุตซอลของเทศบาลโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งมีการนำเสนอภาพข่าว ถึงการชำรุดและสถานที่ก่อสร้างไม่มีทางเข้า-ออก ไม่มีคูระบายน้ำ ทำให้น้ำท่วมขังเสียหายนั้น ขณะนี้ได้สั่งการให้ทางคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุความผิดปกติที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะได้ดำเนินการแก้ไข และสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดคือบทเรียนที่จะต้องนำมาปรับปรุง เพื่อมิให้เกิดขึ้นกับสนามอื่นๆ อีกต่อไป
ที่มา: http://manager.co.th/