สมาพันธ์อุลามาอ์อะห์ลิลซุนนะห์ ในกรุงอิสตันบูล ออกแถลงการณ์ : การปิดล้อมกาตาร์ เป็นสิ่งฮะราม (ต้องห้าม) และย้ำว่า การที่ซาอุฯและบางชาติกระทำในสิ่งดังกล่าวต่อกาตาร์นั้นถือเป็นการกดขี่และไร้ความชอบธรรม
ทางด้านรัฐบาลตุรกีแสดงท่าทีสนับสนุนรัฐบาลโดฮาอย่างชัดเจนมากขึ้น ด้วยการปกป้องว่ากาตาร์ไม่ได้สนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย และยืนยันการมอบความช่วยเหลือทั้งทางมนุษยธรรมและทางทหารให้แก่อีกฝ่าย
ขณะเดียวกันทางสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน กล่าวเมื่อวันศุกร์ เรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียแสดงวุฒิภาวะของความเป็นผู้นำในตะวันออกกลาง ด้วยการยกเลิกมาตรการปิดล้อมทางการทูตและเศรษฐกิจต่อกาตาร์ พร้อมทั้งวิจารณ์การที่รัฐบาลริยาดและพันธมิตรซึ่งรวมถึงบาห์เรนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ) ขึ้นบัญชีดำรายชื่อองค์กรและบุคคลที่มีถิ่นฐานอยู่ในกาตาร์ว่ามีความเชื่อมโยงกับ “กิจกรรมก่อการร้าย” โดยในจำนวนดังกล่าวรวมถึงสมาชิกในราชวงศ์กาตาร์ด้วย ว่าตุรกียังไม่เคยพบเบาะแสว่ากาตาร์สนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย
ถ้อยแถลงดังกล่าวของเออร์โดกันมีขึ้นหลังการลงนามให้ร่างกฎหมายที่สภาผู้แทนราษฎรของตุรกีอนุมัติเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ให้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ว่าด้วยการส่งกำลังพลและสรรพาวุธเข้าไปประจำการในกาตาร์ และการฝึกซ้อมรบร่วมกันระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ผู้นำตุรกียังยืนยันการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่กาตาร์ ที่รวมถึงการส่งออกอาหารและยารักษาโรคให้อีกฝ่าย หลังซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรตัดความสัมพันธ์และปิดพรมแดนทุกทางกับกาตาร์ นับตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. เป็นต้นมา เพื่อตอบโต้ที่รัฐบาลโดฮาสนับสนุน “กลุ่มก่อการร้าย
ขณะที่ชีค โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล-ธานี รมว.กระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ มีกำหนดพบหารือกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ที่กรุงมอสโก ในวันเสาร์นี้ตามเวลาท้องถิ่น หลังหารือทางโทรศัพท์กับนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ทั้งนี้ กาตาร์เป็นสถานที่ตั้งของฐานทัพ อัล-ยูเดอิด ซึ่งเป็นฐานทัพอากาศขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐในตะวันออกกลาง และยังถือเป็นประเทศผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลวรายใหญ่ที่สุดของโลกด้วย
คลิปประกอบ : Al Jazeera English
ที่มา: https://www.dailynews.co.th
