ระเบิดรถยนต์ หรือ คาร์บอมของไอซิส ณ กรุงแบกแดด เมื่อคืนวานนี้ ปลิดชีพผู้คนในเดือนรอมฎอน ขณะนี้เสียชีวิตกว่า 27 คน บาดเจ็บอีกกว่าหลายสิบราย
เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยรักษาพยาบาล รายงานว่า คาร์บอร์มคันแรก ถูกจอดทิ้งไว้ภายนอกร้านขายไอศกรีมยอดนิยม หลังจากเวลาเที่ยงคืนเพียงเล็กน้อย ซึ่งระเบิดลูกดังกล่าว ได้ปลิดชีพผู้คนในย่านการค้า แขวงกัรราดา ไปแล้ว อย่างน้อยกว่า 15 ชีวิต และยังมีที่ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 27 ราย
โดยไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น ระเบิดคาร์บอร์มลูกที่สอง ก็ประทุขึ้นตามมา ระหว่างชั่วโมงเร่งด่วน แถวสำนักงานบำเหน็จบำนาญข้าราชการตำรวจ ใกล้กับสะพาน อัล-ชาฮาดา ณ บริเวณเขตชุมชนพลุกพล่านชาวากา ระเบิดลูกที่สองนี้ สังหารผู้คนไปอย่างน้อย 12 ชีวิต และทำให้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่าจำนวน 23 ราย
เหตุการณ์โจมตี เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากเริ่มต้นเดือนรอมฎอน เดือนแห่งการถือศีลอดในช่วงเวลากลางวันของชาวมุสลิม ซึ่งมีความสำคัญ และศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก ซึ่งภายหลังจากพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ครอบครัว และผู้คนจะทำการละศีลอด ส่งผลให้ร้านขายอาหาร และเครื่องดื่มในกรุงแบกแดด มีจำนวนลูกค้าที่พุ่งสูงขึ้น เพื่อเข้ารับประทานอาหารละศีลอด และจำนวนลูกค้าก็จะวนเวียนอยู่เช่นนี้ เพื่อเตรียมตัวสำหรับการอดอาหารในวันต่อไป หลังช่วงเวลารุ่งสาง
ไอซิส อ้างตนเป็นผู้ก่อเหตุวินาศกรรมทั้งสอง ซึ่งเป็นเขตที่อยู่อาศัยของพลเมืองชาวชีอะฮ์ ผ่านสำนักข่าว Amaq
วิดีโอซึ่งบันทึกนาทีระทึกขวัญ ที่ได้จากกล้องวงจรปิดบริเวณภายนอกร้านขายไอศกรีม เผยให้เห็นภาพเขตเมืองที่ชุลมุน มีรถยนต์สัญจรไปมาระหว่างถนน ในช่วงเกิดเหตุ รถหลายคันได้เคลื่อนตัวออกอย่างรวดเร็วหลังจากระเบิดประทุขึ้น นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายๆคลิปวิดิโอ ตามที่โพสต์กัน ในแหล่งสื่อ โซเชียวมีเดีย ที่ได้บันทึกภาพเหตุการณ์สะเทือนขวัญ และสภาพความเจ็บปวดของผู้ได้รับผลกระทบ และบาดเจ็บ ณ บริเวณ ภายนอกร้านขายไอศกรีม ที่เป็นจุดเกิดเหตุ ดังกล่าว
กัรราดา เคยถูกโจมตีโดยกองกำลังไอซิซมาก่อนหน้านี้ ในเหตุระเบิดรถบรรทุกเมื่อเดือนกรกฎาคม ปีที่แล้ว (2016) ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้ปลิดชีพผู้คนไปอย่างน้อยที่สุดกว่า 324 ชีวิต เป็นเหตุโจมตีที่สะเทือนขวัญเป็นอย่างมากเท่าที่เคยมีมา ตั้งแต่สหรัฐฯเข้ายึดครอง และตั้งฐานทัพในประเทศอิรัก เมื่อปี 2003
ทั้งนี้ไอซิส ได้ให้การยืนยันว่า กองกำลังของตนคือผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดในบริเวณเขตชุมชนของชาวชีอะฮดังกล่าว ผ่านทางสำนักข่าว Amaq
นอกจากนี้ กลุ่มก่อการร้ายยังได้เรียกร้องให้สมาชิก และผู้สนับสนุน เตรียมตัวทำ “สงครามอย่างเต็มพิกัด” ในช่วงเดือนรอมฎอนนี้อีกด้วย
ที่มา: http://www.independent.co.uk
