“กองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” จัดโครงการพิเศษมุ่งช่วยเหลือเด็กและเยาวชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ หวังแบ่งเบาความเดือดร้อนและภาระของแต่ละครอบครัว
เมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุม 5001 ชั้น 5 กรมการพัฒนาชุมชน มีการแถลงข่าว “โครงการกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีช่วยเหลือเด็กประสบภัยน้ำท่วม” ขึ้น
โดยจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดในพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาเกือบ 2 เดือน ส่งผลกระทบให้พื้นที่ใน 12 จังหวัด 124 อำเภอ 755 ตำบล 5,814 หมู่บ้าน 563,616 ครัวเรือน ประชาชนกว่า 1.7 ล้านคน (1,725,714 คน) และพื้นที่ทางการเกษตรถึง 938,473 ไร่ ได้รับความเสียหายอย่างหนักนั้น นอกจากความเดือดร้อนของประชาชนทั่วไปแล้ว “เด็ก” ยังเป็นอีกกลุ่มบุคคลที่ประสบภัยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กก่อนวัยเรียน คือเด็กแรกเกิดถึงหกขวบ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จึงเป็นภาระหนักของพ่อแม่ผู้ปกครองในครัวเรือนที่ผู้ประสบภัย
กรมการพัฒนาชุมชนซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบบริหารจัดการ “กองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” โดยมีอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเด็กชนบทส่วนกลาง ได้ตระหนักถึงความสำคัญของเด็ก และความเดือดร้อนของครอบครัวในสถานการณ์นี้ และถือเป็นหน้าที่ของกองทุนพัฒนาเด็กชนบทฯ ที่จะต้องเข้ามาดูแลให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น
นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ประธานกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเด็กชนบทส่วนกลางกล่าวว่า “กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในทุกภาคส่วนเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ตั้งแต่แรกเริ่ม โดยในส่วนของสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือประชาชนในการเก็บข้าวของอพยพหนีน้ำ ขณะที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดได้ประสานงานร่วมกับมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จัดตั้งโรงครัวประทานเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ประกอบอาหารเพื่อแจกจ่ายผู้ประสบภัย ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา ประจวบคีรีขันธ์ ตรัง และพัทลุง รวม 26 จุด มีผู้ประสบภัยได้รับความช่วยเหลือแล้วประมาณ 180,000 คน”
“จากสถานการณ์ดังกล่าวนอกจากประชาชนทั่วไปที่เดือดร้อนแล้ว ยังมีอีกกลุ่มที่สำคัญคือกลุ่มเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กก่อนวัยเรียน ซึ่งยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จึงเป็นภาระหนักของพ่อแม่ผู้ปกครองที่เป็นผู้ประสบภัย ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเด็กชนบทส่วนกลาง จึงมีมติจัดทำ “โครงการกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ช่วยเหลือเด็กที่ประสบภัยน้ำท่วม” ขึ้นโดยอนุมัติเงินกองทุน จำนวน 3 ล้านบาท เป็นทุนตั้งต้นในการช่วยเหลือเด็กที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ 12 จังหวัด รวม 124 อำเภอ ผ่านกิจกรรม 3 กิจกรรมหลักคือ มอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กที่ประสบภัยในพื้นที่ประสบภัย,จัดถุงยังชีพสำหรับเด็ก และเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กในพื้นที่ประสบภัย ซึ่งความช่วยข้างต้นนี้จะส่งไปยังจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วมเพื่อนำไปช่วยเหลือให้ถึงมือเด็กๆได้รวดเร็ว และนอกจากนี้ ในแต่ละจังหวัดซึ่งมีกองทุนพัฒนาเด็กชนบทจังหวัดอยู่ก็สามารถที่จะพิจารณาใช้เงินกองทุนฯ มาให้ความช่วยเหลือเด็กให้ครอบคลุมเพิ่มขึ้นได้ด้วย” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าว
นายอภิชาติยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในโอกาสนี้คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเด็กชนบทฯ ขอเชิญชวนหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ตลอดจนพี่น้องประชาชนผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมบริจาคเงินสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทฯ เพื่อนำมาใช้ในโครงการนี้ได้ เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือเด็กทำได้ทั่วถึงมากขึ้น โดยท่านที่สนใจสามารถติดต่อร่วมบริจาคได้ที่ สำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน โทรศัพท์ 0-2141-6128 และสำหรับท่านที่อยู่ต่างจังหวัดสามารถสอบถามข้อมูลและร่วมบริจาคได้ที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด/อำเภอทุกแห่งทั่วประเทศ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.cdf.cdd.go.th (ใบเสร็จรับเงินสามารถลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมาย)