หน้าแรก บทความ

บทพิสูจน์ “มาราปาตานี” หลังเหตุระเบิดตลาดโต้รุ่ง แค่ “นายหน้า” ค้าสันติภาพ ที่ไร้ศักยภาพ??

เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุคนร้ายวางระเบิดบริเวณตลาดโต้รุ่ง หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเบิ้ม ถ.พิพิธ เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม เวลาประมาณ 19.00 น (ภาพ : เลขา เกลี้ยงเกลา / fatonionline)

บทความโดย : อาหลี เสียมก๊ก


“มาราปาตานี” เคลมตัวเองว่า เป็นตัวแทนและองค์กรร่ม ของ “กลุ่มขบวนการเคลื่อนไหวในจังหวัดชายแดนภาคใต้”

เป็นการเคลมที่มาพร้อมกับการ “วาดหวัง” ว่าจะเป็นผู้นำมาซึ่ง “สันติภาพ” ผ่านการถกและพูดคุยกับรัฐไทย

องค์กรเอ็นจีโอจังหวัดชายแดนภาคใต้บางส่วนต่างก็มีความ “คาดหวัง” กับสิ่งที่มาราปาตานี “วาดหวัง”

โดยเฉพาะกลุ่มเอ็จีโอเครือข่ายสตรีจชต.ที่มากและเปี่ยมไปด้วยความหวัง!!

มีการรณรงค์สนับสนุนการพูดคุยสันติสุขและสันติภาพระหว่างรัฐไทยกับมาราปาตานี โดยเฉพาะความพยายามขับเคลื่อนเรื่อง “พื้นที่สาธารณะปลอดภัย” เข้าสู่วงพูดคุย

จนเมื่อภายหลังการพูดคุยรอบวันที่ 2 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา กลุ่มมาราปาตานี ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชน ยอมรับข้อเสนอของคณะทำงานวาระผู้หญิงชายแดนใต้ที่ต้องการพื้นที่สาธารณะปลอดภัย

นายอาบูฮาฟิซ อัลฮากีมโฆษก กลุ่มมาราปาตานี ระบุว่า ทางกลุ่มจะสื่อสารไปยังกลุ่มที่เห็นต่างในพื้นที่เพื่อลดการใช้ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

หลังสิ้นคำแถลงวันนั้น ความสำเร็จเรื่อง “พื้นที่สาธารณะปลอดภัย” ก็ถูกโหมประโคมทั่วพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ทว่า นั่นเป็นสถานการณ์ก่อนวันที่ 24 ตุลาคม !!

เพราะเพียงไม่ถึง 1 เดือนที่มาราปัตตานีรับปากเรื่อง “พื้นที่สาธารณะปลอดภัย” ก็บังเกิดเสียงกัมปนาทจากแรงระเบิด บริเวณหน้า “ตลาดโต้รุ่ง” ถ.พิพิธ เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม เวลาประมาณ 19.00 น

เป็นระเบิดที่ทำให้ชาวบ้านผู้บริสุทธ์ิเสียชีวิต 1 ราย และอีกบาดเจ็บกว่า 20 คน

ในจำนวนผู้บาดเจ็บนี้ มี “เยาวชน” เป็นนักเรียนหญิงชั้น ม.6 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ที่ถูกสะเก็ดระเบิดอาการสาหัส จนต้องตัดขา ทั้งๆ ที่ใกล้วันสอบวัดระดับเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย

ในจำนวนนี้มี ลูกจ้างร้านก๋วยเตี๋ยว ต้องผ่าตัดขาและควักลูกตา 1 ข้าง เนื่องจากถูกสะเก็ดระเบิด

ที่สำคัญ ในจำนวนนี้มี “เด็ก” อายุเพียง 7 ขวบ ที่แพทย์ต้องผ่าตัดใหญ่ และขณะนี้อยู่ในห้องไอซียู

หลังจากนั้น เสียงประณามและก่นด่ามากมายก็พุ่งตรงไปยังผู้ก่อเหตุ

ไม่เว้นแม้แต่องค์กรสตรีทั้งหลายในพื้นที่จชต.ที่ต่างก็ออกแถลงการณ์ประณามกันถ้วนหน้า

แม้แถลงการณ์ประณามจะมุ่งไปยังผู้ลงมือ…

แม้แถลงการณ์จะมิได้ระบุชื่อมาราปาตานี…

ทว่าสถานการณ์ระเบิดใจกลางพื้นที่สาธารณะก็ย่อมกระทบชิ่งไปยังมาราปาตานีอยู่ดี

เพราะเป็นการระเบิดไม่ถึง 1 เดือน หลังมาราปาตานีรับปากข้อเสนอเรื่อง พื้นที่สาธารณะปลอดภัย

เพราะเป็นการระเบิด หลังมาราปาตานีรับปากจะสื่อสารไปยังกลุ่มที่เห็นต่างในพื้นที่เพื่อลดการใช้ความรุนแรง

นัยคำถามย่อมสะท้อนกลับไปยังมาราปาตานี ถึงคำว่า “ศักยภาพ“ และ “ประสิทธิภาพ” ในการสั่งการ!!

ซึ่งคำถามและความคลางแคลงต่อศักยภาพมาราปาตานีนี้ มิใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่มาตั้งแต่ทีแรกพร้อมๆ กับการเปิดตัวองค์กรมาราปัตตานี

อีกทั้งก่อนหน้านี้ก็มีหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งสะท้อนว่า มาราปาตานี นั้น ไร้ศักยภาพ

ทว่าจนเมื่อเกิดเหตุระเบิดหน้าตลาดโต้รุ่ง เมื่อวันจันทร์ ที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ทุกอย่างก็เป็นข้อพิสูจน์

กระจ่างชัดว่า “มาราปาตานี” ก็เป็นแค่ “นายหน้า” ค้าสันติภาพ ที่ไร้ศักยภาพ!!

ส่วนใครที่ยังคงคิดจะฝาก “สันติภาพ” ไว้กลับกลุ่ม “ไร้ศักยภาพ” ที่ “ไม่ใช่ตัวจริง” ก็เชิญ “หลอกตัวเอง” กันตามสบาย!!

 

ความคิดเห็นที่แสดงออกในบทความนี้เป็นมุมมองของผู้เขียน และไม่จำเป็นต้องสะท้อนนโยบายของกองบรรณาธิการ