หน้าแรก ข่าวต่างประเทศ

ทำไมสหรัฐฯ “ช่วย” ซาอุฯ “ถล่ม” เยเมนโดยตรง ??

รือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถี ยูเอสเอสนิตเซ ขณะปฏิบัติการในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อเดือน เม.ย.ปีนี้ แฟ้มภาพเอเอฟพี-NMCO

ข้อมูลของยูเอ็น ระบุว่า นับแต่เดือน มี.ค.ปีที่แล้วเป็นต้นมา สงครามเยเมนได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วเกือบ 6,900 คน บาดเจ็บอีกกว่า 35,000 คน ขณะที่อีกอย่างน้อย 3 ล้านคนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น

และเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกที่หสรัฐฯ รุกรานทางทหารโดยตรงต่อเยเมนด้วยการยิงมิสไซล์ครูซโจมตีสถานีเรดาร์ 3 แห่งที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มเฮาซีย์ในเยเมน

ปิเตอร์ คุก โฆษกเพนตากอนกล่าวว่า “ประธานาธิบดีบารัค โอบามา อนุมัติคำสั่งให้กองทัพสหรัฐยิงมิสไซล์ครูซโจมตีสถานีเรดาร์ 3 แห่งที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มเฮาซีย์ในเยเมน เพื่อตอบโต้ที่จรวดยิงจากเขตเฮาซีย์พุ่งเป้าโจมตีเรือพิฆาตสหรัฐในทะเลแดง”

“การประเมินเบื้องต้นเผยว่า การโจมตีของสหรัฐสามารถทำลายสถานีเรดาร์ 3 แห่ง” ปิเตอร์ คุก โฆษกเพนตากอน เปิดเผย

นอกจากนั้นเขายังกล่าวอ้างว่า การโจมตีครั้งนี้เพื่อป้องกันตนเองอย่างจำกัดและปกป้องทหารของเรา เรือของเราและเสรีภาพของเราในการเดินเรือในเส้นทางน้ำที่มีความสำคัญนี้

ขณะที่กองทัพเยเมนออกมาปฏิเสธการยิงจรวดโจมตีเรือพิฆาตสหรัฐในทะเลแดง

สำนักข่าว RT อ้างจากแหล่งข่าวความมั่นคงเยเมน เผยว่า ข่าวกรณีที่กองทัพเยเมนยิงจรวดโจมตีเรือพิฆาตสหรัฐในทะเลแดงนั้นเป็นข่าวเท็จและไร้ความจริง ซึ่งเป็นสงครามโฆษณาชวนเชื่ออีกทั้งเพื่อปกปิดข่าวที่ซาอุดิอาระเบียโจมตีพิธีไว้อาลัยในกรุงซานา ซึ่งทำให้พลเรือนบาดเจ็บและเสียชีวิตมากถึง 700 กว่าคน

กระทรวงกลาโหมสหรัฐแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 ว่า ประธานาธิบดีโอบามาอนุมัติให้กองทัพเรือสหรัฐยิงมิสไซล์ครูซ โทมาฮอว์ก จากเรือพิฆาต ยูเอสเอสนิตเซ โจมตีเป้าหมายในดินแดนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเฮาซียในเยเมนบนชายฝั่งทะเลแดง เมื่อเวลา 04.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของเยเมน รอยเตอร์ รายงาน

สหรัฐอ้างว่า เรือพิฆาตติดมิสไซล์นำวิถี ยูเอสเอสเมสัน ตกเป็นเป้าหมายการยิงมิสไซล์โจมตีอีกครั้งเมื่อวันพุธ แต่มิสไซล์หรืออาวุธปล่อยซึ่งยิงออกมาจากดินแดนภายใต้การควบคุมของเฮาซีย ได้ตกทะเลก่อนถึงเป้าหมาย

ก่อนหน้านี้เรือเมสันและเรือยูเอสเอสพอนซ์ ก็ตกเป็นเป้าหมายของมิสไซล์ 2 ลูกเมื่อวันอาทิตย์ มิสไซล์ทั้งสองลูกตกทะเลก่อนถึงเรือเช่นกัน ครั้งนั้นโฆษกของกลุ่มเฮาซียได้ปฏิเสธผ่านสำนักข่าวซาบา ว่าพวกตนไม่ได้ยิงมิสไซล์โจมตีเรือของสหรัฐ

ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกลุ่มอาหรับกำลังถูกนานาชาติวิจารณ์อย่างหนักว่าคร่าชีวิตพลเรือนเยเมนจำนวนมาก

รัฐบาลซาอุฯ แม้จะไม่ได้ยอมรับอย่างเปิดเผยว่าเครื่องบินของกลุ่มพันธมิตรโจมตีฆ่าพลเรือนจำนวนมากในครั้งนี้ แต่ได้เปิดการสอบสวนและได้อำนวยความสะดวกแก่การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ

กลุ่มพันธมิตรซาอุฯ ได้โจมตีทางอากาศใส่อาคารบ้านเรือนของประชาชนนับร้อยๆ ครั้ง และยังส่งทหารภาคพื้นดินเข้าไปช่วยสนับสนุนกองกำลังของประธานาธิบดีฮาดีอีกด้วย แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังไม่สามารถขับไล่กลุ่มเฮาซีย์ รวมถึงกองกำลังที่ภักดีต่ออดีตประธานาธิบดีอาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ ออกไปจากกรุงซานาและพื้นที่สำคัญอื่นๆ ได้ กลุ่มเฮาซีย์ยังคงควบคุมดินแดนกว้างขวางทางภาคเหนือซึ่งเป็นเขตอิทธิพลดั้งเดิมของพวกเขาอยู่แล้ว รวมถึงหลายเมืองทางภาคตะวันตกและภาคกลางของเยเมน

เยเมนซึ่งมีพรมแดนติดกับซาอุดีอาระเบียตกอยู่ในภาวะสงครามกลางเมืองตั้งแต่เดือน ก.ย.ปี 2014

องค์การสหประชาชาติกล่าวว่า การสู้รบในเยเมนได้สังหารชีวิตผู้คนมากกว่า 6,700 รายแล้ว เกือบ 2 ใน 3 เป็นพลเรือน และทำให้กว่า 3 ล้านคนไร้ที่อยู่

ถึงตอนนี้เกิดคำถามและข้อสังเกตว่า ซาอุฯได้ทำการโจมตีเยเมนทางอากาศจะเข้าสู่ปีที่สองแล้ว ทำไมสหรัฐเพิ่มเริ่มปฏิบัติการช่วยซาอุฯถล่มเยเมนโดยตรง ? มีผลประโยชน์และนัยยะอะไรแอบแผงหรือไม่ ?

คงต้องติดตามกันดูต่อไป…