นาเดีย มูราด ผู้ที่เกือบจะกลายเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์และการถูกทำร้ายร่างกายของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส
แต่ นาเดีย ที่สุดท้ายเธอได้หนีเอาตัวรอดออกจากกลุ่มดังกล่าวได้อย่างสำเร็จ จนตอนนี้เธอได้รับแต่งตั้งเป็นทูตสันถวไมตรีของสหประชาชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หญิงสาวดังกล่าวที่ดั้งเดิมเป็นคนจากเมืองยาซีด ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกเสนอรายชื่อในการได้รับเลือกได้รับรางวัลโนเบลในสาขาสันติภาพอีกด้วย ที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตสันถวไมตรีของสหประชาชาติ ในด้านการให้ความเคารพในศักดิ์ศรีและผู้ที่รอดชีวิตจากวงจรการค้ามนุษย์ที่อยู่ภายใต้การอำนวยการบริหารของหน่วยงานของสหประชาชาติในมิติการต่อต้านยาเสพติดและการต่อต้านการก่ออาชญากรรม (UNODC)
“ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าเธอเป็นรายแรกที่เป็นผู้รอดชีวิตจากอาชญากรรมที่ได้รับเกียรติ์อันสำคัญยิ่งนี้” สหประชาชาติเปิดเผย
เธอถูกจับเป็นตัวประกันที่เมืองอิรักเมื่อปี 2014 และพี่น้องชายทั้งหกคนที่ฆ่าหมด
หญิงสาวในวัย 23 ปี คนนี้ ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวบีบีซีว่า เธอต้องเผชิญกับการคุกคามทั้งทางเพศและทางร่างกายอย่างมาก
“ภายใต้การควบคุมของพวกเขา ผู้หญิงที่ถูกจับได้ว่าพยายามที่จะหลบหนีออกจากพวกเขา จะถูกนำตัวเข้าไปคุมขังในเรือนจำของห้องขัง และจะให้ผู้ชายทั้งหมดที่มีอยู่ในแคมป์พากันกระทำชำเราตามอำเภอใจ และฉันถูกรุมเป็นกลุ่ม”
เธอยังกล่าวด้วยว่า เธอเองถูกขายส่งไปแล้วหลายทอดระหว่างกองกำลังดังกล่าวด้วยกัน ก่อนที่เธอจะหลบหนีออกมาได้จนสำเร็จในที่สุด
นับตั้งแต่ที่เธอหนีออกมาได้อย่างสำเร็จ เธอได้เคลื่อนไหวเดินรณรงค์เพื่อให้ยุติธุรกิจการค้ามนุษย์
บทบาทของเธอในฐานะที่เป็นเป็นทูตสันถวไมตรีของสหประชาชาติ อาจจะมุ่งเน้นไปในเรื่องการรณรงค์และยกระดับความตระหนักรู้เกี่ยวกับสภาวะที่คนที่เป็นเหยื่อต้องประสบพบเห็นที่มีจำนวนมากหลาย โดยเฉพาะในบรรดากลุ่มผู้อพยพ กลุ่มสตรี และเด็กผู้หญิง สหประชาชาติกล่าว
การแต่งตั้งด้วยวาจา ณ สำนักงานสหประชาชาติ มีขึ้นต่อหน้านฃเลขาธิการสหประชาชาติ นาย บัน คี มูน เป็นพยานด้วยตัวเอง เอกอครราชทูตสหรัฐอเมริกา และทนายความของเธอ
http://www.bbc.com/indonesia/majalah/2016/09/160916_majalah_pbb_duta?ocid=socialflow_facebook