หน้าแรก ข่าวในประเทศ ข่าวชายแดนใต้

รอมฏอนสันติภาพแก่ผู้ต้องขังในเรือนจำชายแดนใต้

เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มด้วยใจเป็นตัวแทนมอบอินทผลัม กระติกน้ำแข็งและนาฬิกา จากการรับบริจาคแก่เจ้าหน้าที่เรือนจำชายแดนใต้ในเดือนรอมฏอนเพื่อส่งมอบต่อแก่ผู้ต้องขังมุสลิมเพราะเป็นสิ่งจำเป็นในเดือนรอมฏอนและยินดีรับบริจาคสิ่งจำเป็นอื่น ด้วยกรมราชทัณฑ์มีงบประมาณจำกัด

นางสาวอัญชนา หีมมิหน๊ะ หัวหน้ากลุ่มด้วยใจ บอกกล่าวถึงการรับบริจาคในครั้งนี้ว่า เนื่องมาจากการร้องขอของผู้ต้องขังคดีความมั่นคง ว่าต้องการอาหารละศีลอดในเดือนรอมฏอนซึ่งนอกเหนืองบประมาณทางกรมราชทัณฑ์ เมื่อเปิดรับบริจาคได้รับน้ำใจจำนวนมาก และสามารถนำไปมอบให้แก่เรือนจำทั้ง 5 แห่งในชายแดนใต้ โดยเริ่มจากเรือนจำนาทวีและเรือนจำปัตตานี

13434908_1226452987399369_8553459794008204838_n“สิ่งของเหล่านี้ได้รับบริจาคมาจากพรรคพวก เพื่อนฝูง มิตรจากแดนไกล ซึ่งทางเรือนจำมีความยินดีเป็นอย่างมากเพราะยังเป็นสิ่งของที่ขาดแคลนและจำเป็นต้องใช้ในเรือนจำ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ไปมอบให้กับผู้ต้องขัง ซึ่งท่านเล่าให้ฟังว่า พี่น้องมีความสุขใจ ที่เราได้มามอบของให้เพราะพวกเขามีคนที่ถือศีลอดประมาณ 500 กว่าคน แต่มีอินทผาลัมเพียง 10 กิโลกรัมเท่านั้น สำหรับเรือนจำนาทวี เรามอบให้ประมาณ 20 กล่องใหญ่ พวกเขาอยากได้น้ำหวานไว้สำหรับเปิดบวชด้วย สำหรับปีนี้ที่ขาดแคลนเพราะทุกปีจะมีการอนุญาตให้ญาติทำอาหารมาให้แต่ในช่วงนี้เป็นช่วงดำเนินนโยบายปราบปรามยาเสพติด จึงจำเป็นต้องเข้มงวดในการนำสิ่งของจากภายนอกเข้าเรือนจำ”

“สำหรับคนที่อยู่ภายนอกสามารถซื้ออินทผาลัมเท่าไหร่ เมื่อไหร่ก็ได้การรับจึงไม่รู้สึกถึงคุณค่าของการให้ แต่การให้อินทผาลัมสำหรับคนที่ไม่มีแต่ต้องการทำอิบาดะห์อย่างมากนี้ สิ่งนี้คือที่สุดของเขาเลยนะ ความรู้สึกขอบคุณด้วยสีหน้าและแววตา รอยยิ้มที่ทางเจ้าหน้าที่บอก บรรยายไม่ถูก แต่ปลื้มปริ่มจนน้ำตาเกือบไหล ขอขอบคุณมากสำหรับท่านที่ไว้ใจและบริจาคเงินกับเรา ขอมอบความรู้สึกที่ได้รับให้กับผู้ให้ทุกคน ขอให้รู้ว่าการให้ของคุณเพียงเล็กน้อยแต่ผู้รับเหมือนได้น้ำจากท้องทะเล”

มอบเรือนจำปัตตานีนายอดิศักดิ์ สาหลำ หัวหน้างานการศึกษาเรือนจำนาทวีกล่าวว่า ทางเรือนจำยินดีรับบริจาคจากหน่วยงานต่างๆ เพราะมีงบประมาณจำกัด โดยทางเรือนจำนาทวีมีผู้ต้องขังมุสลิมจำนวน 958 คน มีผู้ที่ตั้งใจถือศีลอด 500 กว่าคน การได้ทานอหารตอนละศีลอดจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

“เรามีงบประมาณเลี้ยงอาหารได้วันละ 2 มื้อเท่านั้น โดยในเดือนรอมฏอนจะให้ตัวแทนผู้ต้องขังมุสลิมจำนวน 4-5 คน มาปรุงอาหารเอง คิดเมนูเอง อาหารหลักมี ขาดแต่อาหารหวานละศีลอด ซึ่งประจวบกับเป็นช่วงดำเนินนโยบายปราบปรามยาเสพติด จึงจำเป็นต้องเข้มงวดในการนำสิ่งของจากภายนอกเข้าเรือนจำ หากหน่วยงานไหนจะบริจาค ยินดีรับบริจาค”

“ดีใจที่ได้มามอบตามสัญญา จะได้แจกให้กับพี่น้องมุสลิมที่ถือศีลอดในเรือนจำทุกคน” คือคำกล่าวที่ตื้นตันและขอบคุณของตัวแทนผู้ต้องขังที่ฝากบอกมากับเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ หากหน่วยงานไหนจะบริจาคน้ำหวาน อาหารละศีลอด ทางเรือนจำแต่ละแห่งในชายแดนใต้ยินดีรับบริจาคตลอดเดือนรอมฏอน