ยอดเงินบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือครอบครัวปอเนาะญิฮาดและสร้างชุมชนท่าด่านเพื่อเป็นชุมชนเพื่อการเรียนรู้ ยอดสุทธิจำนวน 4,075,522 บาทจัดสรรสร้างปอเนาะแห่งใหม่บนที่ดินวากัฟจำนวน 8 ไร่ และสร้างบ้านครอบครัวแวมะนอ เริ่มลงมือก่อสร้างระหว่างวันที่ 10 พ.ค.—30 มิ.ย. 2559 ละหมาดฮายัตขอพรและแจงรายละเอียดยอดเงินบริจาคโดยทายาทปอเนาะญิฮาด
เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 10 พ.ค. 2559 มีการละหมาดฮายัตขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นลงมือก่อสร้างปอเนาะแห่งใหม่จากยอดเงินบริจาคเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2559 บนที่ดินวากัฟข้างมัสยิดบ้านท่าด่าน ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานีนำละหมาดโดย นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ร่วมด้วยอิหม่ามจากชุมชนและพี่น้องมุสลิมในพื้นที่บ้านท่าด่าน
หลังละหมาดฮายัตนายบัลยาน แวมะนอ ทายาท ปอเนาะญีฮาดวิทยา ได้ชี้แจงและเปิดเผยการจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ จากยอดเงินบริจาคแก่ผู้ที่มาร่วมละหมาดเพื่อความโปร่งใสว่า
“จากการประชุมระหว่าง ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือครอบครัวปอเนาะญีฮาด ชมรมศิษย์เก่า และเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพ (คปส.) ในที่ประชุมได้มีมติในการบริหารจัดการเงินจากการบริจาคคือ เยียวยาครอบครัวปอเนาะญีฮาด จากที่ดินจำนวน 14 ไร่ที่ถูกยึด เป็นเงิน 1 ล้านบาท โดยลูกทั้ง 5 คนได้มอบให้ นางติฮาวอ ทั้งหมด และได้มีการแบ่งให้ครอบครัวแวมะนอ จำนวน 400,000 บาทแทนบ้านที่ถูกยึดไปด้วย จากนั้นเป็นการซื้อที่ดินจำนวน 700,000 บาท เตรียมสร้างอาคาร 300,000 บาท และแบ่งเพื่อต่อเติมมัสยิดตามมติของศูนย์ประสานช่วยเหลือครอบครัวปอเนาะญีฮาดจำนวน 600,000 บาท ส่วนในการจัดงานสมทบทุน(กินข้าวยำ) เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2559 ได้ใช้งบประมาณจำนวน 975,000 บาท ปัจจุบันมีจำนวนเงินคงเหลือ 100,522 บาท”
นายบัลยานกล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ดิน 8 ไร่ซึ่งเป็นที่ดินวากัฟ ติดกับมัสยิดบ้านท่าด่าน เป็นสถานที่จัดสร้างปอเนาะญิฮาดใหม่ ส่วนที่ดินก่อสร้างบ้านของครอบครัวแวมะนอได้ซื้อที่ดินติดกันกับที่ดินวากัฟอีกแปลงหนึ่ง เพื่อความสบายใจและการจัดการ เนื่องจากชุมชนและชาวบ้านต้องการให้ตนเองได้ช่วยดูแลปอเนาะอย่างใกล้ชิด
“ตัวผมเองก็ต้องอยู่ในที่พักที่อยู่ในปอเนาะ เพื่อจะได้ดูแลปอเนาะอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นความประสงค์ของพี่น้องในชุมชนและตัวเองด้วย ครอบครัวที่มีอีกสิบกว่าชีวิตจึงต้องอยู่ใกล้กัน โดยสร้างบ้านในที่ดินที่ติดกันกับที่ดินวากัฟนี้ ซึ่งจะลงมือก่อสร้างไปพร้อมๆ กัน เพราะทุกคนจะได้อยู่ในบ้านของตนเอง
การละหมาดในวันนี้เพื่อเป็นฤกษ์ดีในการเริ่มลงมือก่อสร้าง และชี้แจงทำความเข้าใจต่อสังคมถึงการจัดการต่อเงินบริจาค เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพราะเงินทุกบาทเป็นความตั้งใจของผู้บริจาคที่มีประสงค์ดีต่อปอเนาะและครอบครัวของเรา ซึ่งมีประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานีมานำละหมาด อิหม่ามจากต.แหลมโพธิ์ ต.ตะโละกาโปร์ และที่อื่นๆ มาร่วมละหมาดและรับรู้ เพื่อได้บอกกล่าวถึงความเป็นจริง”
สำหรับรูปแบบของปอเนาะใหม่ที่จะเกิดขึ้น บันยาลบอกว่า เป็นปอเนาะโมเดิร์นบูรณาการหลายส่วนเข้าด้วยกัน เป็นอาคารเอนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายกิจกรรม สอนอัลกุรอ่านผู้ใหญ่สอนกีรออาตี สอนเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐาน และกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งเป็นการทำงานที่เปิดเผย ตรวจสอบได้
ส่วนเรื่องราวของปอเนาะญิฮาดเดิมที่ครอบครัวแวมะนอมีชื่อในการเป็นคณะกรรมการด้วยนั้น บันยาลบอกว่า ไม่ขอยุ่งเกี่ยว
“ผมบอกตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่ขอยุ่งเกี่ยวอันใดอีก ในการแต่งตั้งก็ไม่ได้มาบอกกล่าว ซึ่งตรวจสอบแล้วว่า เราไม่ได้ทำผิดกฎหมายใดที่ไม่เป็นคณะกรรมการชุดนั้น เว้นแต่ใช้ม.44 ถ้าผมไปเป็นคณะกรรมการ แล้วคนที่บริจาคมาจะคิดอย่างไร ผมคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่คือความถูกต้อง การตัดสินใจของครอบครัวเป็นการรักษาศักดิ์ศรีของปอเนาะและครอบครัว”
ด้าน พ.อ.ธีระ ศรีพงษ์ ผบ.ฉก.ทพ.42 กล่าวว่า พร้อมดูแลเรื่องความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก สนับสนุนทุกกิจกรรมเพื่อให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วง ทั้งนี้เพราะทุกคนเป็นคนไทยด้วยกัน
ในการก่อสร้างปอเนาะญิฮาดแห่งใหม่ มีการประสานงานจากสหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียนและเยาวชนปาตานี และ สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย กับการร่วมมือร่วมใจในค่ายอาสาพัฒนาชุมชนท่าด่าน เพื่อร่วมก่อสร้างให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายนนี้