โลกถึงกับสะเทือนเลื่อนลั่นไปตามๆ กัน เมื่อจู่ๆ ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ แห่งแดนน้ำหอมฝรั่งเศส ซึ่งคงจะสุดทนอีกต่อไปกรณีที่ถูก “เพื่อนเราเผาเรือน” จึงได้สาวไส้ให้กากินด้วยการฟ้องประชาชนระหว่างแถลงทางโทรทัศน์ที่ถ่ายทอดไปทั่วโลกว่า ผู้อยู่เบื้องหลังสารพัดเหตุร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแดนคอนยัคในขณะนี้ รวมไปถึงการบุกสังหารหมู่บรรณาธิการ นักข่าวและการ์ตูนนิสต์ของนิตยสารล้อเลียนศาสนาชาร์ลี เอบโดว่าแท้ที่จริงเป็นใครบ้าง “พวกที่กระทำการสิ่งเหล่านี้ พวกที่เป็นผู้ก่อการร้าย พวกอิลลูมินาติ พวกหัวรุนแรง ไม่เกี่ยวข้องกับอิสลามแต่อย่างใด”
หลายคนตีความถ้อยแถลงกำกวมของออลลองด์ว่าต้องการสื่อว่าตัวการก่อเหตุร้าย ไม่ได้มีแค่อิสลามสุดโต่งอย่างที่ประโคมข่าวกันเท่านั้น แต่ยังเป็นฝีมือของอีกหลายกลุ่ม รวมไปถึงกลุ่มอิลลูมินาติหรืออีกนัยหนึ่งก็คือสหรัฐนั่นเอง
นักประวัติศาสตร์หลายคนรีบตีความทันทีว่าออลลองด์ต้องการจะตีแสกหน้าหรือจี้ กลางใจดำของแดนดินถิ่นอินทรีผยองอเมริกา อันเนื่องจากความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหรืออีกนัยหนึ่งตั้งแต่ช่วงสงครามอิรักและ อัฟกานิสถาน ได้เสื่อมทรามลงถึงขั้นมีปัญหาขัดแย้งอยู่เนืองนิตย์ ในหนังสือ “ฮาร์ดชอยเซส” ของฮิลลารี คลินตันก็ได้กล่าวหาแดนน้ำหอมกลายว่าๆ ทำให้แผนยุทธศาสตร์ที่จะให้นาโตเป็นกำลังหลักในการปิดล้อมและเปิดฉากถล่มที่ มั่นของบางประเทศในตะวันออกกลางต้องผิดแผนไป เนื่องจากแดนตราไก่ได้ชิงตัดหน้าส่งเครื่องบินรบไปถล่มเอง หวังจะช่วงชิงความเป็นผู้นำ ตอนนี้ออลลองด์ได้ทีจึงเอาคืนบ้าง
สำหรับคนทั่วไปแล้ว ต่างงงเป็นไก่ตาแตกว่า “อิลลูมินาติ” ที่ว่านี้หมายถึงกลุ่มใด มีความสำคัญขนาดไหนจนออลลองด์ต้องเอ่ยชื่อโดยตรง แทนที่จะระบุชื่อกลุ่มก่อการร้ายอิสลามหลายกลุ่มดังที่สื่อตะวันตกพยายาม ชี้นำ ถ้าใครเป็นสาวกหนังสือของแดน บราวน์ คงร้องอ๋อ เพราะได้สอดแทรกเรื่องของกลุ่มนี้ในหนังสือเรื่องถอดรหัสลับดาวินซี ตามด้วยเทวาซาตานและเรื่องสุดท้ายก็คือ อินเฟอร์โน ซึ่งได้ตีแผ่อุดมการณ์แท้จริงส่วนหนึ่งของกลุ่มนี้ที่ต้องการครองโลก ถึงขั้นใช้เชื้อโรคเป็นอาวุธเพื่อหวังจะจำกัดจำนวนประชากรโลก
คนที่คิดฟุ้งซ่านอาจจะคิดเลยเถิดไปไกลว่ากลุ่มนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับการ พัฒนาเชื้ออีโบลา ซึ่งจนถึงขณะนี้คร่าชีวิตผู้คนแล้วกว่า 8,000 คน โดยยังไม่สามารถควบคุมโรคระบาดนี้ได้ เพราะถึงจะปฏิเสธก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เต็มปากว่าแนวคิดนี้ไม่มีความจริงแฝง อยู่
อันที่จริง อิลลูมินาติ เป็นองค์กรลับที่รู้จักกันไปทั่ว ก่อตั้งโดยนักวิทยาศาสตร์และนักคิดระดับหัวกะทิ ส่วนใหญ่เป็นชาวยิว เมื่อราว 300 ปีมาแล้ว มีเป้าหมายใหญ่ต้องการล้มล้างหรืออีกนัยหนึ่งปฏิวัติความเชื่อใหม่ๆ ทั้งในเรื่องระบอบการปกครองและศาสนา ภายใต้คำขวัญว่า “การจัดระเบียบสำหรับยุคใหม่” เพื่อให้บรรลุความฝันสูงสุดนั่นก็คือต้องการจะครองโลกให้อยู่ในมือของคน กลุ่มหนึ่ง ถ้าใช้ศัพท์ของชาวสังคมนิยมก็คือเป็นเจ้าลัทธิครองความเป็นเจ้า โดยจะหลบฉากอยู่เบื้องหลังการชักใยหุ่นต่างๆ หรืออีกนัยหนึ่งหมายถึงรัฐบาลและสถาบันหลักๆ คนที่เป็นคอหนังสือกำลังภายในคงจะคิดได้ทันทีว่าพรรคนี้ก็คือพรรคมารหรือม้ อก่า ที่ปรากฏในหนังสือของกิมย้งและโกวเล้งหลายเรื่องด้วยกัน
สมาชิกขององค์กรลับนี้ได้แทรกซึมเข้าไปในองค์การลับฟรีเมสัน องค์กรลับเก่าแก่ที่สุดที่ก่อตั้งในช่วงศตวรรษที่ 17 และมีความทะเยอทะยานเหมือนๆ กัน นั่นก็คือต้องการเข้าไปควบคุมระบบการเงิน เศรษฐกิจ สถาบันการบริหารสูงสุด และวัตถุดิบของโลก มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือยืนยันว่ากลุ่มนี้อยู่เบื้องหลังการขบวนการล้มเจ้า หรือล้มล้างสถาบันกษัตริย์ของหลายๆ ประเทศในยุโรป รวมไปถึงการมีส่วนสำคัญในการปฏิวัติฝรั่งเศส การปฏิวัติในรัสเซียรวมถึงการประกาศอิสรภาพของอเมริกา
นักวิชาการส่วนใหญ่ยังเชื่อว่ากลุ่มอิลลูมินาติซึ่งได้ย้ายฐานปฏิบัติการจาก ยุโรปไปยังอเมริกาสามารถฝังตัวในหมู่ผู้นำประเทศ กระทั่งสามารถสร้างรังลับอยู่ในทำเนียบขาว ประธานาธิบดีและนักการเมืองชื่อดังหลายคนล้วนแต่เป็นสมาชิกขององค์กรลับนี้ เท่าที่มีการเปิดเผยชื่ออาทิ ประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน, รูสเวลท์ และเบนจามิน แฟรงคลิน เป็นต้น
หลักฐานหลายชิ้นยังได้ยืนยันแนวคิดนี้ นอกจากผังเมืองของกรุงวอชิงตัน ดีซีแล้ว ยังมีตราแผ่นดินซึ่งด้านหลังเป็นภาพพีระมิดสร้างไม่เสร็จ มีดวงตาอยู่บนยอด ซึ่งหมายถึงสามารถจับตามองโลกอยู่ ล้อมรอบด้วยภาษาละตินข้อความว่า “การจัดระเบียบสำหรับยุคใหม่” หลายคนเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของสมาคมอิลลูมิเนติ ต่อมารัฐบาลได้นำภาพตราแผ่นดินมาตีพิมพ์ลงบนด้านหลังของธนบัตร 1 ดอลลาร์ ถ้าใครได้ดูภาพยนตร์เรื่อง “ลอร์ด ออฟ เดอะ ริง” ตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคจบ จะเห็นภาพหอคอยที่มีดวงตาลุกเป็นไฟกราดมองไปทั่วเหมือนกับกำลังจับตาดูโลก ราวกับจำลองสัญลักษณ์ของอิลลูมินาติมาตีแผ่ก็ไม่ปาน
หลักฐานสำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่พอจะยืนยันว่ากลุ่มอิลลูมินาติยังคงควบคุม ทำเนียบขาวอยู่ก็คือคราวที่ประธานาธิบดีจอร์จ บุช ได้ประกาศด้วยความอหังการเมื่อปี 2533 ว่าสหรัฐต้องการจัดระเบียบโลกใหม่ และบุชผู้ลูกได้สานความฝันของพ่อด้วยการส่งทหารยาตราทัพไปจัดระเบียบใหม่ใน อัฟกานิสถานและอิรัก จนเหมือนกับเป็นอาณานิคมยุคใหม่ของแดนดินถิ่นอินทรีผยอง ภายใต้ข้ออ้างว่าต้องการกวาดล้างกลุ่มก่อการร้าย แต่เบื้องหลังก็คือยึดครองเส้นทางน้ำมันโลก
ยิ่งถ้านำมาเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เมื่อมีการเปิดโปงว่าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ รวมทั้งซีไอเอและเอฟบีไอ อันเป็น 3 หน่วยงานหลักในด้านการจารกรรมได้ร่วมกันขโมยข้อมูลส่วนตัวของมะกันชนหลายสิบ ล้านคนผ่านการดักฟังทางโทรศัพท์และการเจาะข้อมูลต่างๆ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ นอกเหนือจากดักฟังโทรศัพท์ของผู้นำทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรและศัตรู รวมทั้งประชาชนกว่าพันล้านคนที่กระจัดกระจายอยู่ตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก ก็ยิ่งตอกย้ำถึงการคงอยู่ขององค์กรลับนี้
แม้จะทรงอิทธิพลแผ่คลุมทำเนียบขาวและทำเนียบรัฐบาลของหลายประเทศ แต่อิลลูมินาติก็ยังคงทำตัวเป็นเงาที่มองไม่เห็น ผู้ยังคงชักใยอยู่เบื้องหลังการยึดครอง บงการและครอบงำโลกเหมือนเดิม เชื่อกันว่าภาพยนตร์เรื่อง “มาทริกซ์” ได้ตีแผ่ความจริงข้อนี้ให้โลกประจักษ์ แต่น้อยคนนักที่สามารถรับสารอันลึกซึ้งนี้ได้
การครองโลกนี้ทำผ่านการควบคุมสื่อยักษ์ใหญ่ยักษ์เล็กทุกแขนง รวมไปถึงฮอลลีวู้ด ให้เป็นเครื่องมือล้างสมองชาวโลกทุกคนจนไม่รู้ว่าอะไรคือความจริง อะไรคือความเท็จ อาทิ การขยันสร้างภาพอเมริกาว่าเป็นตำรวจโลก เป็นวีรบุรุษผู้พิทักษ์สันติภาพและประชาธิปไตยของโลก เป็นนักบุญผู้ช่วยเหลือโลกให้พ้นภัย แม้โฉมหน้าแท้จริงจะเป็นนักบุญเปื้อนบาปที่สองมือเต็มไปด้วยคราบเลือดของผู้ บริสุทธิ์นับแสนๆ คน
การใช้สื่อเป็นเครื่องมือโจมตีจีนว่าเป็นตัวการทำให้โลกร้อนทั้งๆ ที่แท้จริงแล้วตัวการใหญ่ของบริษัทอเมริกันนั่นเอง หรือปกปิดว่าอเมริกาเป็นเจ้าของอาวุธมหาประลัยจริงที่ร้ายแรงยิ่งกว่าอาวุธ นิวเคลียร์ นั่นก็คือการสร้างสนามพลังแม่เหล็กโลกเพื่อบังคับสภาพดินฟ้าอากาศ ให้สามารถก่อให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาทิ พายุ สึนามิ แผ่นดินไหว หรือบังคับให้ภูเขาไฟระเบิด ราวกับหัตถ์พระเจ้าจำแลง ฯลฯ หรือการผลิตยาซึ่งแท้ที่จริงก็คืออาวุธเชื้อโรคที่ทำให้คนตายคราวละจำนวนมาก จะได้จำกัดจำนวนประชากรโลกไม่ให้มากเกินไป นอกเหนือจากสยายเครือข่ายควบคุมสถาบันการเงินหลักของโลก ทั้งธนาคารโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ธนาคารใหญ่น้อย ธุรกิจทุกประเภทรวมไปถึงบริษัทเวชภัณฑ์ข้ามชาติ สถาบันการเมือง โดยเฉพาะทำเนียบขาวที่หลายยุคหลายสมัยถูกดัดแปลงเป็นรังลับหรือกองบัญชาการ ใหญ่ขององค์กรลับที่มีอำนาจล้นฟ้ากลุ่มนี้ ซึ่งพร้อมจะกำจัดใครก็ตามที่ขวางทางของกลุ่มอิลลูมินาติ
มีข่าวลือที่ไม่ยืนยันว่าอิลลูมินาติเป็นการตัวการสั่งเก็บประธานาธิบดี ลินคอล์น ประธานาธิบดีเจเอฟเค ตลอดจนคนดัง นักร้องนักแสดงดังหลายคน อาทิ เจ้าหญิงไดอานา, มาริลิน มอนโร, จอห์น เลนนอน, ไมเคิล แจ็กสัน ฯลฯ
ด้วยความอัดอั้นตันใจที่โลกกำลังถูกแดนดินถิ่นอินทรีผยองจัดระเบียบใหม่อีก ครั้ง ออลลองด์ถึงได้กระชากหน้ากากของอิลลูมินาติมาตีแผ่ เป็นการปรามไปในตัวว่าอย่าคิดจะครอบงำโลกอย่างง่ายๆ อีกต่อไป
————————
ที่มา คมชัดลึก http://www.komchadluek.net/detail/20150118/199618.html
(เปิดโลกวันอาทิตย์ : ‘อิลลูมินาติ’ นักบุญเปื้อนบาป : โดย…บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์)