หน้าแรก รายงาน

เลี้ยงลูกตามธรรมชาติ ของคุณแม่ “แบมแบม” เดอะวอยซ์ ซีซั่น 3

นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก แบมแบม เดอะวอยซ์ ที่เข้ารอบไปในรายการ เดอะวอยซ์ ไทยแลนด์ (The Voice Thailand) เสียงจริง ตัวจริง ซีซั่น 3 จากเพลง“ไม่เป็นไรเลย” เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2557 ด้วยบุคลิกและน้ำเสียงที่สดใสของ แบมแบม หรือ นีวิรินทน์ ลิ่มกังวาฬมงคล สาวน้อยวัย 17 ปีจาก จ.ปัตตานี จนมีแฟนคลับจัดตั้งแฟนเพจขึ้นมา

“เขาไม่เคยร้องเพลงให้ฟังเลย คิดว่าเขาชอบฟังเพลง จนวันนึงตอนป. 5 เขาร้องเพลงค่าน้ำนมที่โรงเรียน ได้ยินแล้วร้องไห้ จนป.6-ม.1 เขาขอไปเรียนพิเศษร้องเพลงที่หาดใหญ่ในวันเสาร์-อาทิตย์แต่ไม่ได้เรียนพิเศษวิชาอื่น”

สุพิชฌาชย์ ลิ่มกังวาฬมงคล หรือ คุณอ้อย คุณแม่ยังสาวของแบมแบม และเป็นผู้จัดการทีมกีฬาลีลาศจ.ปัตตานีด้วย บอกถึงเรื่องราวของลูกสาวคนกลางของพี่น้องสามคน ที่วันนี้แบมแบม ลูกสาวคนกลางผ่านเข้ารอบในรายการเดอะวอยซ์ ไทยแลนด์จนถึงรอบเดอะแบทเทิลในวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ย. นี้

ครอบครัวของแบมแบมประกอบธุรกิจทำสีรถยนต์กลางเมืองปัตตานี คุณพ่อเป็นชาวปัตตานี ส่วนคุณแม่คือคุณอ้อยเป็นชาวลพบุรีที่มาอยู่ปัตตานีตั้งแต่แต่งงานจนถึงทุกวันนี้ยี่สิบกว่าปี จนคุณอ้อยบอกว่า เป็นชาวปัตตานีคนหนึ่ง รักและหวังอยากให้ปัตตานีดีงามในทุกเรื่องราว

“มาอยู่ปัตตานีตั้งแต่ปี 2535 สามีเป็นลูกชายคนที่ 5 ของตระกูล ทำธุรกิจทำสีรถยนต์ อยู่ที่นี่จนเป็นเหมือนบ้านเกิด รักปัตตานีด้วยใจจริง คิดว่าคนเราจะอยู่ที่ไหนก็ต้องตายทุกคน ทำทุกวันให้ดีที่สุดดีกว่า แล้วจะไม่เสียดายเมื่อตายไป “

คุณอ้อยมีลูกสาวสามใบเถา ที่มีความสามารถพิเศษกันไปคนละด้านและเป็นเรื่องที่น่าสนับสนุน รวมทั้งครอบครัวเป็นกำลังใจและแรงหนุนเสริมที่ดี เมื่อเห็นว่าลูกสนใจและมีความสามารถด้านใดก็ดูแลเอาใจใส่จนเป็นพลังให้ลูกทุกคนก้าวไปตามฝันของตนเองได้ ลูกสาวคนโต บี่บี๊ กำลังเรียนชั้นปีที่ 3 คณะวิจิตรศิลป์ ม.เชียงใหม่ คนที่สองคือ แบมแบม เรียนชั้นม.6 สนใจด้านดนตรี ส่วนคนสุดท้อง มีมี่ เรียนชั้นม.1 เป็นนักกีฬาลีลาศตัวแทนจ.ปัตตานีและตัวแทนภาค 4 รุ่นไม่เกิน 14 ปี กีฬาแห่งชาติ

“คนโตชอบเรียนศิลปะ เรียนเกรดปานกลาง ชอบทำกิจกรรม ตั้งแต่อยู่ปัตตานี มีจิตอาสาเป็นตัวแทนโรงเรียนประกวดโครงงานของในหลวงได้อันดับ 1 ได้รางวัลคนดีศรีแผ่นดินของปัตตานี เข้ามหาวิทยาลัยในโครงการเด็กดีมีที่เรียนได้ในคณะที่อยากเรียน เรียนด้วยทำกิจกรรมด้วย เป็นรองนายกสโมสร เป็นสตาฟฟ์โน่นนี่ จะสอนให้เขารู้จักการใช้จ่าย อย่างบีบี๋ให้เขาเดือนละแปดพันเขาก็อยู่ได้ ไม่ขอเพิ่ม นอกจากซื้ออุปกรณ์สำคัญ อยู่ไกลแต่ไม่ห่วงเพราะเขาเป็นเด็กดี เชื่อใจเขา”

“เลี้ยงลูกสามคนไม่เหมือนกันเลย อย่างแบมแบมดื้อมาก ถูกตีมากที่สุด พอรู้ว่าเขารักการร้องเพลง เขาบอกอยากเรียนดุริยางคศิลป์ ไปเข้าค่ายมา 3-4 ปีที่ต่างจังหวัดแล้วมาแสดงคอนเสิร์ต เรื่องดนตรีเป็นศาสตร์เฉพาะที่การเรียนต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงเอาการ ค่าเทอมเทอมหนึ่งเกือบแสนบาท เพราะต้องจ้างครูชาวต่างชาติที่มีฝีมือมาสอน รวมทั้งค่าเครื่องดนตรี ในขณะที่เรียนก็สามารถทำการแสดงหาเงินได้ จบแล้วทำงานได้เลยอย่างมืออาชีพ จึงให้เขาขอทุนของม.รังสิต เป็นทุนศิลปินที่ต้องสอบเช่นกัน”

“ส่วนมีมี่ คนเล็ก ตอนเย็นต้องไปซ้อมลีลาศทุกวัน ทำการบ้านมาจากโรงเรียน ไปซ้อมกันที่สมาคมประมง จ้างนักกีฬาทีมชาติมาสอน ซ้อมกันทุกวัน ผู้ปกครองของนักกีฬาทุ่มเทกันมากทั้งทรัพย์และกำลังใจ”

คุณอ้อยบอกว่า การเลี้ยงลูกวัยรุ่นต้องทำความเข้าใจ ซึ่งตอนนี้คุณพ่อกลับใจเย็นแทน

“เราจะไม่พูดเรื่องโกหกกัน ให้พูดความจริง เลี้ยงแบบธรรมชาติ มีกฎในบ้าน ช่วยกันทำกับข้าว ต้องทานอาหารเย็นด้วยกันทุกวัน กลับบ้านให้ตรงเวลา ไม่เน้นเรียนพิเศษ เรื่องที่แม่สอน เขาอาจเบื่อ แต่วันหนึ่งเมื่อเขาเจอเรื่องอะไรก็จะคิดถึงสิ่งที่แม่สอน”

คุณอ้อยบอกว่า มีเพชรอีกมากในปัตตานีที่สังคมไม่ได้รับรู้ และเป็นความตั้งใจของเธอและลูกที่อยากทำอะไรให้ปัตตานี

“ในปัตตานีมี “เพชร” อยู่เยอะที่สังคมไม่รู้ คนดี คนเก่งสร้างชื่อเสียงให้ปัตตานีมีมาก และบอกว่าจะกลับมารับใช้แผ่นดิน บีบี๋กับแบมแบมคิดเช่นนี้เหมือนกัน เมื่อเรียนจบจะกลับมาบ้านเกิด ทำในสิ่งที่มีประโยชน์กับปัตตานีแน่นอน”

นับเป็นตัวอย่างของครอบครัวที่เลี้ยงดูลูกโดยให้เป็นไปตามธรรมชาติ แนะนำในสิ่งที่ถูกต้อง หนุนเสริมในสิ่งที่สร้างสรรค์และดีงาม เมื่อครอบครัวเข้มแข็ง เชื่อมั่นว่า ชุมชนและสังคมย่อมเข้มแข็งได้เช่นกัน