ในงาน “นานาภราดรภาพ” เทศกาลศิลปะนานาพันธุ์ ครั้งที่ 7 ประจำปี พ.ศ.2557ณ สถาบันปรีดี พนมยงค์ กรุงเทพมหานครหญิงสาวจากเมืองลิกอร์ นครศรีธรรมราชคนนี้ อ่านบทกวีที่ถามหาสันติภาพ
มองออกไป ……………….. เธอเห็นที่ตรงปลายขอบฟ้านั่นไหม
มันสวยงามยิ่งกว่าอะไร
สีทองยามเย็นทาบทาท้องฟ้ามืดทะมึนนั้น
ใครๆต่างบอกฉัน “ขอบฟ้าไม่มีจุดสิ้นสุด”
เพราะจักรวาลเวิ้งว้างไร้กาลเวลา
เพราะ จักรวาล ……… เวิ้งว้าง …… และไร้ซึ่งกาลเวลา
จักรวาล … ไร้ซึ่งกาลเวลา เช่นนั้นหรือ?
จักรวาลบนท้องฟ้า จะเหมือนจักรวาลใต้ท้องทะเลไหม
เมื่อฉันดำดิ่ง ฉันหลับตา ฉันจึงรู้สึก
ขอบฟ้าที่บ้านเธอ คงสวยงามมากเลยใช่มั้ย
ฉันอยากบอก เผื่อเธอจะยังไม่รู้
ที่ซึ่งจุดเริ่มต้นของขอบฟ้า ณ ดินแดนบ้านฉัน
ท้องฟ้าไม่เคยเป็นสีฟ้า มันไม่เคยเป็นสีทองจากแสงของดวงอาทิตย์
แต่มันคือสีของดวงไฟอะไรสักอย่าง ที่หล่นวูบวาบผ่านบ้านฉันทุกวัน ทั้งคืน
ความสวยงาม เป็นเช่นไร ฉันไม่เคยรับรู้และรู้สึกได้
พี่น้องของฉัน พ่อแม่ของฉัน เจ้าแมวสี่ตัวของฉัน และสวนครัวหลังบ้าน
ดอกไม้ในแจกัน ต้นกระบองเพชรในกระถาง และแม้แต่โมบายที่หน้าต่าง
เหล่านั้น ไม่เคยได้สัมผัสความงามของท้องฟ้า
ไม่เคยได้เสพ ไม่เคยได้ชม ความพิสุทธิ พิศวาสของดวงตะวัน
ไม่เคยได้รับแสงนวลผ่องของดวงจันทรา
ฉันพยายามจะเขียนบันทึกไว้ในสมุดเรียนวิชาประวัติศาสตร์
อยากสะกดคำว่า “โลก-ความงาม-และสันติภาพ”
แต่ลายมือยึกยื้อของฉัน
ไม่สามารถจรดปลายดินสอลงไปได้เลย
ฉันถามกระดาษ ถามดินสอ ถามอากาศที่ว่างเปล่า
ฉันถาม พวกเขา “เธอรู้จัก ลายมือของฉันหรือเปล่า?”
เธอรู้จักมั้ย? “โลก-ความงาม-และสันติภาพ” เขียนอย่างไร
สุดารัตน์ ทัดระเบียบ หรือ ดาด้า นักประชาสัมพันธ์แห่งศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา นครศรีธรรมราช หรือศูนย์วิทย์เมืองคอน บทบาทใหม่ที่เธอตั้งใจมุ่งมั่นหลังจากที่ตัดสินใจหันหลังให้กับการงานเขียนบทรายการโทรทัศน์ที่รักของรายการมหัศจรรย์ธรรมชาติและรายการค้นค้นคนที่โด่งดัง
“งานที่นั่นเป็นงานในอุดมคติที่ใฝ่ฝันมาตลอด แต่ก็เจอบททดสอบจากอัลลอฮฺ เพราะเป็นช่วงที่แม่ป่วยหนัก ตัดสินใจลาออกมาดูแลแม่ ตอนนั้นเศร้ากันทั้งทีมงาน … สักสองเดือนแม่เสีย แต่เราเกิดจุดเปลี่ยนในความคิด อยากกลับมาใช้ชีวิตเรียบง่าย และอยู่ในหนทางของอัลลอฮฺ คือ หลายๆอย่างตอนนั้นเข้ามาทดสอบ ต้องกล้าเปลี่ยนแปลงตัวเอง เดินออกมาจากการงานที่รักมากๆ เพื่อมาตั้งหลักให้ตัวเอง ซึ่งทุกวันนี้อัลฮัมดุลิ้ลละฮฺ กับสิ่งที่ชีวิตเป็นอยู่มากๆ
อัลลอฮฺจะทดแทนสิ่งที่ดีกว่าให้ในสิ่งที่เราเสียไป และไม่ผิดหวังเลยที่เลือกทางสายนี้แม้บางทีมองงานที่เพื่อนๆทำ ได้ออกเดินทางไปต่างแดน ใช้ชีวิตเท่ๆ ก็รู้สึกดีกับเพื่อนๆ ทุกวันนี้ด้ายังทำหน้าที่เสนอเคสต่างๆ ให้ทีมงาน น้องๆ มีอะไรก็โทรมาคุยมาเล่ากันเสมอ … ยังรักกันดี”
ดาด้ามีบทกวีที่เขียนและอ่านเกี่ยวกับสามจังหวัดชายแดนใต้ เธออ่านในงานแสดงภาพศิลปะ อ.จ่าง แซ่ตั้ง ที่หอศิลป์ มศว.ประสานมิตรซึ่งเป็นมุมมองส่วนหนึ่งในสิ่งที่เธอสัมผัสได้และบอกว่าเป็นความขมขื่นอันเหลือทนที่คนในพื้นที่เผชิญมาตลอดเวลาหลายสิบปี
บ้านนี้ เมืองนี้ ..
เห็นดีเห็นงามให้พระเอกตบจูบนางเอก
กักขัง หน่วงเหนี่ยว กวนตีน ข่มขืน
แต่ท้ายสุดกลับพูดคำหวาน ให้เชื่อให้จดจำ ในน้ำคำ
ผู้ชมตาดำๆ นั่งหน้าชื่นหน้าจอ
รู้เห็นเป็นใจทุกอย่างในสันดานพระเอก
แต่กลับเมินเฉย ไม่แยแส ไม่เหลียวแล
บอกเพียงแต่ .. เป็นผู้ชม ขอทำตัวกลมๆ กลางๆ
ให้ทุกอย่างชาชิน คุ้นชิน
กลายเป็นสิ่งปลิ้นปล้อนในสังคมสืบไป
มันก็ไม่ต่างอะไร ..
ที่บ้านนี้เมืองนี้มีพระเอกในชุดลายพราง
กับของเล่นที่พร้อมจะปลิดชีพเผ่าพันธุ์เดียวกัน
อ้างวาระแห่งจักวาล ลั่นเปลวไฟเพื่อรักษาปฐพี
ตามแต่บารมีรัฐบาลแต่ละโลกจะออกคำสั่ง ..
เหตุนี้ ..
พื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้จึงเสมือนสตรีที่ถูกกระทำ กระแทก
อย่างไม่มีทางสู้ ไม่มีทางรู้ ไม่มีทางเอ่ย
และต่อให้เธออยากเอื้อน อยากเผย อยากเอ่ย อยากบอก
ด้วยสติและพลังเท่าที่มี
เธอจะฮึดจะสู้ จนถึงอณูสุดท้ายของลมหายใจ
ซึ่งนั่นหมายความว่า ละครชีวิตเดินเรื่องมาถึงช่วงฉากอวสานเสียแล้ว
จบชะตากรรมแบบนั้น อยู่ร่ำไป
ถ้าคนในชาติยังเสพติดละครหลังข่าวสาหัสสามานย์เพียงนี้
ความคุ้นชิน ความเพิกเฉย
ต่อทุกข์ของเพื่อนร่วมชาติ
ก็นับแต่จะทวีคูณ เพิ่มพูน ทุกวี่วัน แน่นอน
#ในทรรศนะของข้าพเจ้า #เมื่อฉันฟังเพลงนี้จบ สันดานภาคปฏิเสธความอยุติธรรมในสังคมก็ปรากฏ
ณ ตอนนี้ดาด้ากำลังรวมกลุ่มเยาวชนในชุมชนสี่แยกวัดโหนด บ้านเกิดในอ.ท่าศาลา เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ในนาม กลุ่มผีเสื้อและดอกไม้ โดยใช้ร้านเล็กๆ ที่กำลังปั้นฝันให้เป็นจริงของเธอเป็นศูนย์รวมความฝัน
ติดตามบทกวีและงานเขียนของเธอ Zoraida Kelantan หญิงสาวช่างฝันแห่งทะเลภาคใต้ ได้ในอนาคตอันใกล้