หน้าแรก ข่าวในประเทศ ข่าวชายแดนใต้

หน่วยความมั่นคงใต้ เปิดเวทีสร้างความเข้าใจกับนักศึกษา PerMAS แลกเปลี่ยนแนวทางแก้ปัญหาจชต.

ขอบคุณ รูปจาก The Federation of Patani Students and Youth - PerMAS

กอ.รมน.ภาค 4 สน. เปิดเวทีพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวทางการแก้ปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ เชิญสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี (PerMAS) เข้าร่วม พล.ต.ชินวัฒน์ แม้นเดช ย้ำ หากพื้นที่ทางการเมืองยิ่งถูกปิดกั้นก็จะยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟของความรุนแรงไม่รู้จบ

เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 1 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้เปิดเวทีพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวทางการแก้ปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเชิญสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี (PerMAS) เข้าร่วม ที่ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

ในการพบปะครั้งนี้ เว็บไซต์ southernreports รายงานว่า กลุ่มนักศึกษา PerMAS ที่ได้เดินทางมาร่วมได้แก่ นายฮารีฟิน โสะ ประธาน PerMAS, นายฮัสมาดี, นายอิฮซาน, นายซุลกิฟรี, นายอิสมาแอล, นายฮาซัน, นายรอครี และนายอาฟิส ยะโกะ ผอ.สำนักรณรงค์และโน้มน้าว นอกจากนี้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ยังได้เชิญ ดร.สิทธิชัย นันทบุรี อาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา เข้าร่วมด้วย โดยมี พล.ต.ชินวัฒน์ แม้นเดช รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน. เป็นประธาน

พล.ต.ชินวัฒน์ แม้นเดช ได้กล่าวว่า นับเป็นโอกาสอันดีในการจัดเวทีเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับกลุ่ม นักศึกษา PerMAS ที่มุ่งมั่นในการจัดกิจกรรม และทำงานเพื่อส่วนรวม เช่นเดียวกับ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ที่ทำงานเพื่อประชาชนในพื้นที่ เรามีประชาชนเป็นศูนย์กลางความคิดร่วมกัน ในพื้นที่ จชต.ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางอันดี โดยเฉพาะ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ได้จัดตั้ง“ศูนย์สันติวิธี”ขึ้นมารองรับขับเคลื่อนนโยบายการแก้ปัญหา จชต.ด้วยแนวทางสันติวิธีอันเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล

ในส่วนของการพูดคุยสันติสุขเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2559 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ที่ผ่านมาของคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข ข้อมูลข่าวสารที่มีการนำเสนอผ่านสื่อมีการบิดเบือนจากความเป็นจริงค่อนข้าง มาก หากมีข้อสงสัยอะไรให้ถามได้ เราอยู่ในสังคมของความขัดแย้งทุกคนจะต้องเสพข้อมูลข่าวสารอย่างมีสติ คิดก่อนแชร์ ที่สำคัญจะต้องอ่านทำความเข้าใจให้ถ่องแท้เสียก่อน

สังคมของปัญญาชน สังคมของผู้รู้ เป็นสังคมแห่งเหตุและผล ทุกวันนี้สังคมของปัญญาชนอาจถูกชี้นำโดยสื่อได้ง่ายหากเราขาดสติและคิดอย่าง มีเหตุผลก่อนเชื่อ

เมื่อเหตุการณ์ในพื้นที่ภาคใต้สงบ นำไปสู่สันติสุข งบประมาณที่รัฐใช้ในการแก้ไขปัญหาดับไฟใต้ จะแปรเปลี่ยนไปตั้งงบประมาณที่ใช้ในการพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ให้มีความเจริญ ตามวิถีแห่งสังคม ที่ประชาชนต้องการ อย่างเช่นการสนับสนุนการศึกษาสถาบันปอเนาะในพื้นที่ ปีหนึ่งๆ รัฐได้ทุ่มงบประมาณสามพันกว่าล้าน ซึ่งในส่วนนี้ต้องไปดูในรายละเอียดเมื่อรัฐสนับสนุนงบประมาณลงไปได้มีการนำ ไปพัฒนาหรือไม่ อย่างไร กรณีปอเนาะญีฮาด รัฐตั้งใจในการสร้างปอเนาะต้นแบบให้เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้เราอาจต้องแยก ผิดแยกถูกออกจากกัน

กระบวนการคิดแท้จริงในสังคมเราเต็มไปด้วยความหลากหลาย ในความหลากหลายจะมีขั้วตรงข้ามที่มีทั้งขัดแย้งกันและหนุนเสริมกัน อย่างเช่นความดี-ความชั่วร้าย ขัดแย้งกัน ต่อสู้กัน แต่ในอีกมิติหนึ่งก็เสริมกัน การรู้ว่าสิ่งนี้คือความชั่วร้าย เราจึงได้รู้ว่าสิ่งนั้นคือความดีงาม หากเราไม่รู้ว่าความดีงามคืออะไร เราก็ไม่รู้ว่าความชั่วร้ายเป็นอย่างไร ในสังคมมนุษย์เราจะต้องมีการแยกผิดแยกถูก ที่สำคัญที่สุดคือ จริยธรรมตามหลักคำสอนของศาสนา ทุกศาสนาจะทำหน้าที่ในการแยกความดีงามออกจากความชั่วร้าย

ความขัดแย้งในพื้นที่ จชต. ตราบใดที่สังคมยังไม่สามารถแยกผิดแยกถูกได้ “สันติภาพ” ย่อมไม่เกิด “สันติภาพ” ในความหมายของศาสนาอิสลามคืออะไร ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาแห่งสันติภาพ เมื่อสังคมแห่งนี้ไม่เรียนรู้ให้ถ่องแท้ เราก็ไม่สามารถสร้างสันติภาพตามวิถีแห่งสังคมของเราได้ หากสันติภาพคือ “ข้อบ่งชี้การอยู่ร่วมกันโดยปกติสุขของสังคมมนุษย์โดยไม่มีการแบ่งแยกและ เกลียดชัง”หากสังคมแบ่งแยกและเกลียดชังกัน สันติภาพจะหายไปเหลือแต่การเผชิญหน้ากัน มิติสังคมพหุวัฒนธรรมจึงเป็นปัจจัยกึ่งกลางของการก่อเกิดสันติภาพในสังคมนำ สู่การอยู่ร่วมกันโดยสันติสุข

พล.ต.ชินวัฒน์ แม้นเดช ยังได้กล่าวถึงวาทกรรมที่มีการใช้ในพื้นที่ จชต. วาทกรรมที่ต่างกันย่อมปะทะกัน การปะทะกันของวาทกรรมย่อมนำสู่การเปลี่ยนแปลง ทั้งเปลี่ยนแปลงไปในเชิงบวก และการเปลี่ยนแปลงในเชิงลบ เราจะสร้างพื้นที่ให้วาทกรรมต่างกันมาปะทะกันในเชิงบวกอย่างไร ที่จะนำสู่การเปลี่ยนแปลงในสังคม วาทกรรมที่มีการใช้ในปัจจุบันนำมาสู่ความขัดแย้งในพื้นที่ จชต. เพราะไปสร้างวาทกรรมอยู่ภายใต้เงื่อนไข เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนไปศึกษาให้ดีๆ และจะต้องระมัดระวังในการใช้

ในเรื่องการกำหนดใจตนเอง (Right to Self-determination : RSD ) ขอให้ทางนักศึกษากลับไปศึกษาหลักการกำหนดใจตนเองตามหลักสากลให้ถ่องแท้ก่อน มิเช่นนั้นเราอาจสร้างวาทกรรม ที่นำสู่ความขัดแย้งที่ซ้ำซ้อนจากวาทกรรมพื้นฐานที่มีอยู่เดิม อาจอันตรายต่อกระบวนการสร้างสันติภาพที่นำสู่สันติสุขได้

ส่วนกรณีการสั่งระงับเวทีเสวนาในหัวข้อ “สันติภาพปาตานี ทำไมต้องประชาชน” ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมานั้น พล.ต.ชินวัฒน์ แม้นเดช ได้กล่าวว่าเป็นเรื่องของการเข้าใจผิดกันระหว่างหน่วยงานความมั่นคงที่รับ ผิดชอบในพื้นที่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเป็นอำนาจการตัดสินใจของทางมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาเอง และในการจัดเวทีนั้นจะต้องไม่ผิดกฎหมาย หากไม่ผิดกฎหมายทางมหาวิทยาลัยสามารถอนุมัติได้ แต่หากผิดกฎหมายละเมิดสิทธิผู้อื่นก็ไม่สามารถทำได้

การขอเปิดพื้นที่ทางการเมืองของกลุ่มนักศึกษา PerMAS ต้องเป็นพื้นที่กลางที่ให้ทุกภาคส่วน มาแสดงความคิดเห็นได้ แล้วแต่ผู้จัดจะมีความประสงค์ใด แต่ทางที่ดีคือให้วาทกรรมที่ต่างกัน มาปะทะกันในเชิงสร้างสรรค์จะนำสู่ความเข้าใจซึ่งกันและกัน สามารถทำงานร่วมกันได้เพื่อสังคมและพี่น้องประชาชน ดังนั้นการเปิดพื้นที่ทางการเมืองจึงต้องมีความสมดุลของข้อมูลข่าวสารจากทุก ภาคส่วน เวทีของน้องๆ ก็จะเป็นพื้นที่กลางในการระงับความขัดแย้งทั้งปวง เว็บไซต์ southernreports รายงานคำพูด พล.ต.ชินวัฒน์

ด้านเฟซบุ๊คเพจของ สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี (PerMAS) ได้เผยแพร่บันทึกเหตุการณ์ ที่ได้เชิญรับจาก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน) ภาคสี่ส่วนหน้า ซึ่งมีเนื้อหาที่คล้ายกัน

โดย เฟซบุ๊คเพจของ PerMAS รายงานว่า พล.ต.ชินวัฒน์ กล่าวว่า เราต้องยอมรับในชุดความจริงที่หลากหลายที่อยู่ในสังคม ยิ่งในพื้นที่ความขัดแย้งด้วยแล้วเราต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก หากพลาดพลั้งไปอาจจะยิ่งหนุนเสริมให้เกิดความรุนแรงมากขึ้นด้วยอีกทั้งการใช้วาทกรรมก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังอีกด้วย เพราะเมื่อวาทกรรมเกิดการปะทะกันแล้วมันจะส่งผลให้เกิดการขับเคลื่อนไปอย่างแน่นอน แต่หากมันเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ก็ดีไปแต่หากมันเป็นไปในทางลบก็จะยิ่งแย่ เพราะอาจจะเป็นการหนุนเสริมความรุนแรง และแตกสามัคคี เช่นวาทกรรมสิทธิ์ในการกำหนดชะตากรรมตนเอง(Right to Self determination : RSD ) ที่สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี (PerMAS) นำเสนอสู่สังคมนั้นอาจจะสอดคล้องกับกลุ่ม MARA PATANI ที่เคลื่อนไหวเพื่อเอกราช และอาจจะทำให้สังคมตั้งคำถามกับ PerMAS ได้ว่าเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่

และสำหรับประเด็นในเรื่องของสิทธิในการกำหนดชะตากรรมตนเอง(Right to Self determination : RSD ) มติของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่1514(XV) ลงวันที่ 14 ธันวาคม 1960 เรื่อง “การให้อิสระภาพแก่ดินแดนอาณานิคม” นั้น ทางสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียน และเยาวชนปาตานี (PerMAS) ได้ชี้แจงว่าทางเราได้เคลื่อนไหวรณรงค์และนำเสนอแก่สังคมมาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และเรายืนยันถึงความสำคัญของสันติภาพที่ยึดโยงกับประชาชนและเคารพเจตนารมของประชาชน เพราะสิทธิในการกำหนดชะตากรรมตนเองเป็นหนึ่งเครื่องมือที่จะสามารถรักษาเจตนารมณ์ที่บริสุทธิ์ของประชาชนไว้ได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่กลุ่มขบวนการต่างๆ จะนำไปใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการนำไปสู่เป้าหมายทางการเมืองที่กลุ่มตนต้องการ

นอกจากนี้ ทาง PerMAS ได้ชี้แจ้งอีกว่า ในการพูดคุยในครั้งนี้ สิ่งที่ทั้งนักศึกษาและกอรมน.ภาค4 เห็นร่วมกัน คือ การให้ความสำคัญของพื้นที่ทางการเมืองที่เป็นรากฐานสำคัญในกระบวนการสร้างสันติภาพ พื้นที่ทางการเมืองที่ยอมรับในความหลากหลายของเป้าหมายทางการเมืองของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเขตปกครองพิเศษ กระจายอำนาจ หรือเอกราช ก็สามารถที่จะนำเสนอ และประกาศจุดยืนของตนอย่างสมศักดิ์ศรี

สำหรับประเด็นที่ เมื่อ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา PerMASได้ถูกระงับการจัดเวทีเสวนาในหัวข้อ “สันติภาพปาตานี ทำไมต้องประชาชน” ซึ่งจะจัดที่มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ที่ มองว่าป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานในการแสดงออกทางการเมืองอย่างรุนแรง

พล.ต.ชินวัตร รองแม่ทัพภาคที่4 ได้ยอมรับถึงความผิดพลาดในการสั่งระงับของฝ่ายความมั่นคงในครั้งนั้น ว่าเป็นการตัดสินใจที่ส่งผลเสียต่องานทางการเมืองเป็นอย่างมาก

‘’สิ่งที่สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี (PerMAS) เคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นงานรณรงค์และเวทีเสวนาเป็นสิ่งที่กระทำได้เนื่องจากเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนมี และสามารถแสดงออกได้ อีกทั้งทางสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียน และเยาวชนปาตานี (PerMAS) ได้เน้นย้ำอีกว่าหากพื้นที่ทางการเมืองยิ่งถูกปิดกั้นก็จะยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟของความรุนแรงไม่รู้จบ’’ เฟซบุ๊คเพจของ PerMAS รายงานคำกล่าวของรองแม่ทัพภาคที่ 4