หน้าแรก รายงาน

สองสาวเก่งสตรีมุสลิม จากสมาร์ทเลดี้ไทยแลนด์

จารุชา จิตนารี หรือ อัสมา (ซ้าย) และ โรสนาเดียร์ ซาดา หรือ "โรส"

ประกาศผลผู้คว้ารางวัลชนะเลิศ “SMART LADY THAILAND ผู้หญิงสวย ด้วยความคิด” ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับโครงการพัฒนาผู้นำสตรีรุ่นใหม่ ซึ่งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้หญิงไทยรุ่นใหม่ได้แสดงออกทางความคิด ความสามารถและพัฒนา ศักยภาพของตนเอง ผ่านรูปแบบของรายการเรียลลิตี้แรกของเมืองไทยจากผู้สมัครทั่วประเทศ 21,913 คน ที่ผ่านกระบวนการคัดเลือกจากคณะกรรมการ จนได้ตัวแทนผู้หญิงเก่งจากแต่ละภูมิภาค 12 คนเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน ‘SMART LADY THAILAND ผู้หญิงสวย…ด้วยความคิด’

และในจำนวนผู้ที่ได้เข้ารอบมานั้นเป็นสาวมุสลิมจากภาคใต้ 2 คนที่โดดเด่นเข้าตากรรมการ ผ่านเข้าบ้านสมาร์ทแคมป์ ได้ร่วมทำกิจกรรมเป็นเวลา 1 เดือน โชว์โครงการดีๆให้ปรากฎแก่สายตากรรมการและผู้ชมทางบ้าน

2 สตรีมุสลิมจากภาคใต้ เป็นเยาวชนและผู้หญิงรุ่นใหม่ที่มีความสามารถที่โดดเด่นทั้งสองคน ด้วยบุคลิกที่มีรอยยิ้มสดใสและแววตาที่เป็นมิตรและการพูดจาที่ฉะฉานพร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อสังคม มาทำความรู้จักกับสาวคนแรกกันก่อน

เริ่มที่สาวหน้าหวานบุคลิกสดใสคือ นางสาวจารุชา จิตนารี หรือ อัสมา (S 11) อายุ 19 ปี เป็นคน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ปัจจุบันเป็นนักศึกษาพยาบาล ปี 1 ของคณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีตรัง เธอมีผลการเรียนดีเยี่ยม ได้คะแนนเฉลี่ยในภาคการศึกษาที่ผ่านมา 4.00 เป็นบุตรของนายดลเหล๊าะ จิตนารี อาชีพข้าราชการครูโรงเรียนคลองยางประชานุสรณ์ และนางสุจินดา จิตนารี อาชีพค้าขาย

สิ่งที่ทำให้กรรมการมองเห็นศักยภาพของอัสมาและคัดเลือกเข้ามาสู่โครงการนี้ นายมลเหล๊าะ จิตนารี บิดาของอัสมา กล่าวในวันที่มาให้กำลังใจบุตรสาวในวันเปิดตัวผู้เข้ารอบว่า “คงเป็นเพราะน้องอัสมามีความสามารถด้านการพูด การแสดงออกด้านภาวะการเป็นผู้นำที่ดี เคยได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานคณะกรรมการสภานักเรียนโรงเรียนบ้านเขาฝาก ในปี 2547 เคยได้รับประกาศนียบัตรด้านคุณลักษณะผู้นำดีเด่นโดดเด่น คือการกล้าแสดงออก กล้าคิด กล้าทำ

รวมถึงโครงการที่นำเสนอคือ “โครงการสร้างภูมิคุ้มกันและสุขภาวะที่ดีและการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนสตรีรณรงค์ให้ความรู้เรื่องปัญหาจากพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม” ซึ่งเป็นโครงการที่น้องอัสมาได้เข้าร่วมทำงานในหลายๆโครงการที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชนสตรี ได้เข้าร่วมอบรมกับนักวิจัยชุมชนในพื้นที่ทั้งในระดับตำบล จังหวัด และส่วนกลางในโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการประพฤติตนที่ไม่เหมาะสมในวัยรุ่น ตั้งแต่เรียนมัธยม และด้วยความที่เติบโตมาในครอบครัวที่พ่อเองเป็นครู ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางความช่วยเหลือด้านชุมชนด้วย จึงทำให้อัสมาได้เห็นการทำงานงานด้านจิตอาสาช่วยเหลือคนมาตลอด และนั้นทำให้น้องอัสมามีความใฝ่ฝันอยากเรียนต่อด้านแพทย์ศาสตร์เพื่อมีช่วยเหลือและดูแลผู้ป่วย อยากให้ทุกครอบครัวมีความรัก ความเข้าใจและความอบอุ่น เป็นครอบครัวที่เข้มแข็งมีความปลอดภัยจากบุคคลและสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มจากครอบครัวตนเอง พี่น้องชุมชนใกล้เคียง สังคมและประเทศชาติต่อไป” นายมลเหล๊าะ ผู้เป็นบิดากล่าวอย่างภูมิใจ

และสาวมุสลิมแดนใต้คนที่สอง คือ นางสาวโรสนาเดียร์ ซาดา “โรส” (S12) “อายุ 23 ปี มาจาก อ.เบตง จ.ยะลา จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี โรสโดดเด่นกับประวัติการทำงานในอาชีพนักจัดรายการวิทยุ Nosser Radio 99.25 เสียงจากเด็กกำพร้าชายแดนใต้ และนักประนีประนอมประจำศาล จ.ยะลา เธอนำเสนอ “โครงการเสริมสร้างสตรีให้เป็นผู้นำและนักการเมือง – รณรงค์สนับสนุนการมีบทบาทของสตรีในการบริหารท้องถิ่น-ชุมชน”

การได้รับการซึบซับจากแม่ ที่นอกจากเป็นแม่บ้านแล้ว ยังเป็นเลขานุการนายกอบต. ยะลา ทำให้ โรสอยากทำงานเพื่อสังคม ประกอบด้วยความสามารถทางการพูด ที่ฉะฉานมั่นใจ ชอบเจรจา และมองโลกในแง่ดี ทำให้เข้ากับคน และปรับตัวเข้ากับอะไรใหม่ๆได้ง่าย ทำให้เธอมีความสุขกับงานด้านจิตอาสาที่ได้ช่วยคน

“สิ่งสำคัญที่ดิฉันเห็นใน 3 จังหวัด เมื่อเวลาเกิดสถานการณ์ต่างๆก็จะมีปัญหาตามมาหลากหลาย การได้เข้าร่วมในโครงการนี้รู้สึกดีใจและตื่นเต้นมาก ที่ได้ทำเกี่ยวกับโครงการที่ตัวเองอยากทำเกี่ยวกับเยียวยาเด็กกำพร้า ที่คนอื่นอาจจะรู้สึกว่าไม่ได้ทอดทิ้ง แต่คนในพื้นที่ยังรู้สึกเดียวดายและยังต้องการความช่วยเหลือในหลายๆจุด รวมถึงถือว่าตรงนี้เป็นการดะวะห์ให้กับผู้อื่นไปด้วย” โรสกล่าวด้วยความมุ่งมั่น

ทั้งนี้นายดลเหล๊าะ จิตนารี ได้ให้ความเห็นต่อการที่สตรีมุสลิมได้เป็นตัวแทนในโครงการนี้ว่า นับเป็นโอกาสที่ดี ที่สตรีมุสลิมจะได้แสดงบทบาท ในการประพฤติปฏิบัติเป็นแบบอย่างของมุสลิมที่ดี เป็นตัวแทนผู้หญิงสวยด้วยความคิด และจะได้เห็นความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติงานตามโครงการที่นำเสนอเพื่อพัฒนาตนเอง พัฒนาศักยภาพ ด้านความรู้ในทุกด้านที่ได้รับจากการเข้ามาอยู่บ้าน SMART LADY THAILAND เพื่อกลับมาปฏิบัติหน้าที่ทูตบทบาทสตรีที่ดี เป็นผู้นำเยาวชนสตรี เป็นตัวแทนของจังหวัดและพี่น้องมุสลิมในประเทศ ที่มีความมุ่งมั่น มีจุดยืนถึงแม้จะมีความแตกต่างทางลัทธิศาสนาแต่ไม่ใช่อุปสรรคในการทำงานร่วมกันโดยมีเป้าหมายเพื่อสังคมที่ดีโดยรวม ผมในฐานะพ่อและครูผู้ช่วยเหลืองานชุมชนมาตลอด ผมขอฝากทุกฝ่ายช่วยเป็นกระบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์บทบาทของสตรีให้ถึงที่สุด ผมคาดหวังว่าโครงการนี้จะสามารถดึงศักยภาพของสตรีให้แสดงออกถึงศักยภาพความเป็นผู้นำ และเป็นอีกหนึ่งพลังที่จะสร้างกระแสให้สตรีมุสลิมและสตรีไทย ให้เกิดการตื่นตัว เพื่อการมีส่วนร่วมเป็นพลังสร้างสรรค์สังคม ขับเคลื่อนประเทศไทยต่อไป นายดลเหล๊าะ จิตนารีกล่าวทิ้งท้าย