เมื่อขาดผู้นำในครอบครัวที่เป็นเสาหลักในชีวิตทั้งการดูแลและรายได้เลี้ยงชีพ แม่หรือภรรยาคือผู้รับภาระที่เหลืออยู่ ความอดทนและตั้งใจสู้จึงจะทำให้ผู้หญิงเหล่านี้ฝ่าผ่านมรสุมชีวิตไปได้ ความเข้มแข็งที่พวกเธอมีและคำแนะนำที่มีประโยชน์ เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเธอสามารถยืนหยัดอยู่บนโลกใบนี้
“แค่มาเยี่ยมป้าก็ดีใจแล้ว” ป้าจง หรือ บรรจง สุขใส วัย 58 ปี บอกด้วยน้ำเสียงสดใสเมื่อได้ไปเยี่ยมถึงที่ทำงานในตำบลบ่อทองที่ป้าจงเป็นลูกจ้างโครงการจ้างงานเร่งด่วน (โครงการจ้างงานเร่งด่วน 4,500) มาหลายปี
หลังจากสามีเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบโดยการถูกยิงเมื่อปี 2547 สร้างความสูญเสียและส่งผลกระทบต่อชีวิตของป้าจงอย่างใหญ่หลวง หลายปีที่ป้าจงจมอยู่กับความกลัว ความผูกพัน ความเศร้าและความเครียดด้วยความหวังที่จะอยู่คู่กันกับสามีไปด้วยกันนานกว่านี้ ป้าจงบอกว่า
“ไม่ได้โกรธคนที่ทำให้สามีตาย แต่เราหวังที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า รู้ว่าทุกคนต้องตายแต่ไม่อยากให้มาตายแบบนั้น แต่เมื่อถึงคราวต้องตายใครก็มาห้ามไม่ได้ ชีวิตตอนนั้นแย่มาก กว่าจะผ่านวิกฤตมาได้ก็หลายปี เหงามากแต่ไม่อยากมีใครใหม่เพราะลูกโตแล้ว กลัวมีปัญหากัน อยู่คนเดียวมาตอนนี้ก็สิบปีแล้ว ผ่านเรื่องร้ายมาได้ก็ดีใจแล้ว”
“ต้องเอาศาสนามาช่วย เข้าวัด ปล่อยวาง ทำกิจกรรมกับเพื่อน มีเพื่อนที่หัวอกเดียวกันเป็นกำลังใจที่ดีมาก ลูกเป็นกำลังใจที่สำคัญเช่นกัน”
ก่อนหน้านี้ป้าจงได้เข้าร่วมกิจกรรมเยียวยากับโรงพยาบาลหนองจิกและได้รู้จักกับทีมของศูนย์ประสานงานวิชาการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศวชต.) จากนั้นทีมศวชต.ได้ไปเยี่ยมให้กำลังใจและชักชวนให้ป้าจงร่วมในกิจกรรมที่ศวชต.จัดขึ้นหลายกิจกรรม ป้าจงเริ่มผ่อนคลาย มีความคิดในทางบวกมากขึ้น จนสามารถเป็นแกนนำผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบฯ ของศวชต. ร่วมช่วยเหลือแนะนำให้กำลังใจแก่เพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกัน
“คำพูดให้กำลังใจกันแค่คำเดียวสามารถต่อชีวิตของคนไปได้อีกมาก มีเงินทองเท่าไหร่ก็ซื้อความสุขไม่ได้ อยู่ที่ไหนก็ตายเหมือนกัน ขอใช้เวลาที่มีช่วยเหลือคนอื่นให้ได้ประโยชน์ดีกว่า”
นี่คือสิ่งที่ป้าจงปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ นอกจากงานในโครงการแล้ว เมื่อมีเวลาป้าจงจะลงพื้นที่ไปกับทีมงานศวชต. โรงพยาบาลหนองจิกและพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ปัตตานี (พมจ.ปัตตานี) อย่างสม่ำเสมอ เป็นประธานชมรมสตรีสายสัมพันธ์ ประธานกลุ่มลูกประคบ และร่วมกิจกรรมกับกลุ่มและเครือข่ายสตรีต่างๆ ในพื้นที่อย่างเต็มใจและเต็มความสามารถ ทำให้ป้าจงได้เปิดโลกทัศน์ของตนเอง รับทราบความเป็นไปของสังคมและนำกลับมาถ่ายทอดให้ผู้ได้รับผลกระทบและเพื่อนบ้านได้รับฟัง พร้อมช่วยพัฒนาคนอื่นให้ก้าวเดินไปด้วยกัน
ในแต่ละวันป้าจงมีเวลาว่างจากการทำงานจึงอยากใช้เวลานั้นให้เป็นประโยชน์ ป้าจงได้มาปรึกษากับทางศวชต. และศวชต.ได้นำเสนอไปยังสภาการวิจัย(สกว.) จนได้รับอนุมัติงบประมาณมาจำนวนหนึ่ง ทำให้ป้าจงและเพื่อนๆ ได้ทำการเพาะเห็ดนางฟ้าโดยใช้ด้านหลังที่ทำงานเป็นโรงเพาะเห็ดนางฟ้าของป้าจงและเพื่อนๆ ได้ออกดอกออกผลเก็บกินและขายสร้างรายได้เสริมที่ดีได้อีกทางหนึ่ง ตอนนี้กลุ่มเพาะเห็ดได้แยกย้ายกันไปตามภาระของแต่ละคน เหลือการทำลูกประคบที่ป้าจงและกลุ่มยังทำเป็นรายได้เสริมกันอยู่
ทุกวันนี้ป้าจงมีหลานสาวตัวน้อยเป็นกำลังใจที่ดี ลูกชายก็มาหาทุกอาทิตย์ หรือหากว่างป้าก็จะไปหาลูกชายและหลานที่อยู่ไม่ไกลกัน
ชีวิตของป้าจงในตอนนี้ไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าที่เป็นอยู่ เธอมีความสุขกับการได้ร่วมพูดคุย ช่วยเหลือคนอื่นด้วยจิตอาสา ลงพื้นที่อย่างเต็มใจเพื่อช่วยเติมเต็มแก่ผู้ได้รับผลกระทบคนอื่น มองทุกอย่างด้วยความเข้าใจและเป็นสัจธรรม
“คิดว่าถ้าถึงที่ตายอยู่ที่ไหนก็ตาย ก่อนตายทำอะไรได้ก็ทำเสียก่อนที่จะไม่ได้ทำ”