สำนักข่าวเบอร์นามา สื่อมาเลเซียรายงานว่า คัมภีร์อัลกุรอานและตำราเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 300 ปี ที่ถูกค้นพบในจังหวัดทางภาคใต้ของไทย กลายเป็นสมบัติอันล้ำค่า และมีคุณค่ายิ่งสำหรับคนมุสลิมในพื้นที่
ผู้บริหารโรงเรียนสมานมิตรวิทยาในจังหวัดนราธิวาส นายมูฮำหมัดลุตฟี ฮัจยีสาแม ที่ริเริ่มสะสมสิ่งเหล่านี้ ได้กล่าวว่าโรงเรียนแห่งนี้ได้เป็นสถานที่เก็บรวบรวมตำราต่างๆ เมื่อสองปีที่ผ่านมานี้เอง
“อัลกุรอานที่เก็บรวบรวมเหล่านี้ เป็นมรดกสืบทอดจากบรรพบุรุษของตัวเอง และบางส่วนได้มาจากต่างประเทศ เช่น เยเมน ซาอุดีอาระเบีย และอินโดนีเซีย. และเรายังได้รวบรวมอัลกุรอานบางเล่ม ที่ได้จากชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนี้อีกด้วย”
“มีคัมภีร์กุรอานที่มาจากเยเมน ที่เขียนขึ้นเมื่อปี 1634 ” เขาเปิดเผยกับทางเบอร์นามา
เขากล่าวอีกว่า “อัลกุรอานและตำราที่ได้รวบรวมยังอยู่ในสภาพดีและส่วนใหญ่นั้นมีสภาพชำรุดจนต้องสวมถุงมือเมื่อจะสัมผัส”
“มันควรจะเก็บไว้ในห้องที่ปราศจากอากาศ เพื่อหลีกเลี่ยงความชื้นที่อยู่ในอากาศ เพื่อไม่ให้สิ่งของเหล่านั้นเกิดความชำรุดมากยิ่งขึ้น” เขากล่าว
มูฮำหมัดลุตฟี กล่าวว่า คัมภีร์อัลกุรอานจำนวน 74 เล่ม ได้รับการบูรณะซ่อมแซมโดยผู้เชี่ยวชาญจากตุรกี และตอนนี้ได้ถูกเก็บไว้ในห้องเก็บรวบรวมอัลกุรอานของโรงเรียน ในขณะที่อีก 29 เล่มยังอยู่ในขั้นตอนของการบูรณะ
เขากล่าวว่า “กระบวนการซ่อมแซมตำราดังกล่าว ต้องใช้เวลาประมาณแปดเดือนจนถึงหนึ่งปี ขึ้นอยู่กับสภาพที่ชำรุดของตำรานั้นๆ”
นอกเหนือไปจากคัมภีร์กุรอานแล้ว ทางโรงเรียนก็ยังได้เก็บรวบรวมหนังสือ 15 เล่ม และเอกสารต้นฉบับของอูลามาอฺฟาตอนีย์ (อูลามาอฺที่มาจากจังหวัดฟาตอนี) เช่น ตำราทางศาสนา วิทยาศาสตร์ และการแพทย์ รวมไปถึงต้นฉบับการสร้างเรือ ซึ่งรวมทั้งสิ้นประมาณกว่า 1,000 เล่ม
เพื่อเป็นการบูรณะซ่อมแซมต้นฉบับดังกล่าว มูฮำหมัดลุตฟี กล่าวว่า ทางกระทรวงวัฒนธรรมกำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลตุรกี ในการที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์รวบรวมมรดกอิสลามที่โรงเรียนแห่งนี้
“เรากำลังดำเนินโครงการเพื่อจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวอยู่ ที่ต้องใช้งบประมาณจำนวน 142,000,000 บาท) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า”
“ผมหวังว่าพิพิธภัณฑ์ดังกล่าว จะเป็นศูนย์หนึ่งในการพัฒนามรดกอิสลามในประเทศนี้ และจะเป็นที่ดึงดูดของพี่น้องมุสลิมในภูมิภาคแห่งนี้และทั่วโลกอีกด้วย” เขากล่าว
ที่มา http://www.bernama.com/bernama/v8/bm/newsindex.php?id=1222387