สันติสุขคือสิ่งที่ทุกคนทุกศาสนิกต่างปรารถนา เพื่อการอยู่ร่วมกันในทุกสังคมอย่างสงบสุข “สวัสดีอิสลาม” จึงก่อกำเนิดขึ้นมาจากชมรมมุสลิม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่(ม.อ.หาดใหญ่) สถาบันสันติศึกษา สถาบันฮาลาล ม.อ.หาดใหญ่ และมูลนิธิเพื่อการส่งเสริมและพัฒนาสังคม จนมาถึง สวัสดีอิสลาม 5 เมื่อไม่นานมานี้ ณ อาคาร FMS คณะวิทยาการจัดการ ม.อ.หาดใหญ่
จุดประสงค์ใหญ่ของสวัสดีอิสลามคือ การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องของอิสลาม ให้เกิดการอยู่ร่วมกันอย่างสงบและสันติ การศึกษาจากศาสนิกที่ต่างกัน การทำความเข้าใจ แลกเปลี่ยน เป็นสิ่งสำคัญที่ได้เข้าใจ และเกิดสมดุลย์ในตัวเอง
ในการเสวนา “พุทธ-มุสลิม : ศาสนิกสัมพันธ์ สันติธรรม และการอยู่ร่วมกัน” โดย อ.บรรจง บินกาซัน ประธานโครงการอบรมผู้สนใจอิสลาม มูลนิธิสันติชน และ ดร.พระครูวาทีธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดแหลมพ้อ เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา เป็นตัวแทนของศาสนาพุทธและอิสลามในการทำความเข้าใจ
อ.บรรจง กล่าวว่า อิสลามคือสันติสุข ให้มนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า ความตายเป็นประตูเปิดให้วิญญาณไปสู่โลกที่แท้จริง ชะตากรรมของวิญญาณจึงอยู่กับการกระทำในโลกนี้ ศาสดาจึงถูกส่งมาเพื่อชี้แนะแนวทาง ซึ่งอิสลามตอบสนองทั้งโลกนี้และโลกหน้า
สำหรับในหลักพุทธศาสนานั้น ดร.พระครูวาทีธรรมวิภัช กล่าวว่า พระพุทธเจ้าเป็นผู้สร้างกฎ นำหลักให้ทุกคนได้ปฏิบัติอย่างเท่ากันว่า โลกมนุษย์เกิดขึ้นตามธรรมชาติ พระพุทธเจ้าเกิดขึ้นหลังมนุษย์ นำสิ่งที่มีประโยชน์มาใช้กับคนหมู่มาก หากทุกคนทำตามแบบอย่างของพระองค์ สันติสุขก็บังเกิด และหลักสูงสุดของพุทธคือ นิพพาน
“ในพื้นที่ที่วัดตั้งอยู่มีพี่น้องมุสลิมรายรอบ อาตมาเป็นพระธรรมทูตพิเศษ รู้จักพี่น้องมุสลิมเยอะ เขามาเที่ยวที่วัดกันบ่อย นึกถึงหลักที่ใช้ในการอยู่ร่วมกันเป็นเป้าหมายสูงสุด อย่าคิดถึงตัวเองก่อน ถ้าโลกนี้หนักต้องช่วยกันยก คนคนเดียวไม่สามารถสร้างความสมบูรณ์ได้ คนคือผู้สร้างกฎกติกาไม่ให้บางกลุ่มเข้าถึงสิ่งนั้น ทุกศาสดาสอนเหมือนกันหมด แต่คนมาตีความไม่เหมือนกัน ต้องดูที่เป้าหมายสูงสุดคือ ความสุข สงบของประเทศชาติและของสังคมโลก ทำอย่างไรให้ตัวเองรอด ครอบครัวรอด เป็นส่วนหนึ่งที่ขับเคลื่อนชุมชน ให้ประเทศชาติอยู่ได้ ทำหน้าที่ของตนเอง ขยายไปเรื่อยๆ เป็นประโยชน์แก่มวลรวม มีจิตสาธารณะ”
“เขาถามว่า มาพูดกับแขกทำไม ทั้งที่ความหมายของ แขก คือคนที่มาเยือน แขกไม่มี มีแต่พุทธ คริสต์ อิสลาม อาตมามาเพื่อสร้างความเข้าใจด้วยเป้าหมายเดียวกัน ไม่ต้องกลัวหรือมาดูถูกกัน มิตรภาพระหว่างศาสนา เกิดจากการเข้าใจและให้เกียรติกัน หลักธรรมส่งผลต่อเราและสังคม พุทธเน้นจิตเป็นที่ตั้ง ทุกอย่างสำเร็จด้วยใจ ชี้ให้เห็นว่าสัตว์ทุกตัวสามารถเกิดดับได้หลายครั้งถ้าไม่ได้นิพพาน สัตว์ประเสริฐที่สุดคือ มนุษย์ มีวิวัฒนาการด้วยตนเองและคนอื่น ชีวิตต้องคิดบวก ลบ คูณ หาร พระพุทธเจ้าใช้เวลา 14 ปีจึงจะรู้ว่าศาสตร์ที่ใช้อยู่นั้นเพื่อการกอบโกย จึงออกบวชเพื่อแสวงหาที่พึ่งทางจิตใจให้กับชาวโลกและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น”
ในปัจจุบันที่แต่ละศาสนารบราขัดแย้งกัน พระครูฯ บอกว่าเหมือนรถมีแต่คันเร่งไม่มีเบรก ตัดบางส่วนออกให้เกิดความเลวอย่างเดียว ต้องเอาพุทธศาสตร์มาใช้ทั้งศีล สมาธิ ปัญญา ใช้ในเชิงบวก ทุกอย่างเริ่มที่ใจ เป็นผู้นำ หัวหน้า ตัวกำกับสุดท้ายคือการบังคับใจ
“ซึ่งร่างกาย จิตใจ วิญญาณ แยกกัน คนเป็นมีจิตใจ ร่างกายและวิญญาณ คนตายไม่มีจิตใจ ไม่มีร่างกาย ไม่มีวิญญาณ วิญญาณทางพุทธ ต้องอาศัยกายกับจิต การเกิดเป็นมนุษย์ยากสุด ถ้าสัตว์เดรัจฉานมีวิวัฒนาการเหมือนมนุษย์ สัตว์จะเป็นเจ้าโลก มนุษย์กลายเป็นสัตว์ตัวเล็กๆ ถ้าอิสลามจะครองโลกต้องเก่ง ถ้าพุทธจะครองโลกก็เช่นกัน ถ้าเราเก่งเพราะด่าเขาคือคนชั่ว จงเลือกเอาส่วนดีที่เขามีอยู่ ใจครูต้องอยู่สูงกว่าศิษย์ คนดีจิตใจต้องสูงกว่าสัตว์ ใจต้องอยู่เหนืออารมณ์ คือหลักที่ทำให้มีความสุข เป็นหลักสากล ถ้าใจอยู่เหนืออำนาจกิเลสโลกก็ไม่วุ่นวาย”
“ความขัดแย้งมาจากมนุษย์ที่ยังเชื่อยุคดึกดำบรรพ์ เชื่อว่ามีเทพเจ้ารักษา จนมาถึงมีศาสดา ถึงยุควิทยาศาสตร์คือยุคพระพุทธเจ้า เกิดจากการบริโภควัตถุนิยมมากเกินไป ต้องเรียนรู้สาสนาของกันและกัน ถ้ามีคุณธรรมด้วยจะเป็นมนุษย์ที่อยู่ด้วยอำนาจใจ เพราะคนกลุ่มหนึ่งไม่เข้าใจศาสนา ยึดวัตถุ จึงเกิดความขัดแย้ง ธรรมะนับหมื่นนับแสนก็ไร้ค่าหากไม่ศึกษาและปฏิบัติ จงทำสิ่งที่รู้ให้เป็นสิ่งที่มี ทุกอย่างใช้หลักกาลามสูตร ต้องให้รู้พิสูจน์ด้วยตัวเอง ดีในเรื่องชั่วคือดับเบิ้ลชั่ว ชั่วในเรื่องดีคือดับเบิ้ลดี”
ด้าน อ.บรรจง ซึ่งเรียนรู้การอยู่ร่วมกันของเพื่อนต่างศาสนิกมาตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมในการไม่ก้าวก่าย ให้เกียรติกันและกัน จึงไม่มีปัญหาในการอยู่ร่วมกัน
“การมีมิตรภาพแลเพื่อนที่เข้าใจทำให้สามารถปฏิบัติตามศาสนาได้ ตอนทำงานบริษัท ช่วงจัดงานเลี้ยงมีการแชร์เงิน ผมก็ร่วมแชร์แต่กินอาหารไม่ได้ ผมสนใจประเด็นการสมีส่วนร่วม ต่อมาเขาให้เกียรติให้ผมสั่งอาหารเพื่อให้ผมสามารถกินได้ด้วย โดยเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความเข้าใจ ใช้เวลาและความอดทน พื้นฐานของมนุษย์มีคุณธรรมสากลที่ให้ศาสนิกอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ความสงบสุขต้องเกิดมาจากจิตใจ ถ้าไม่สงบต้องหาแหล่งยึดเหนี่ยว การศรัทธาในระเจ้าคือเชื่อว่าพระเจ้ามีอยู่และรู้จักพระเจ้าอย่างลึกซึ้ง”
“จากการกลัวเช่น กลัวไม่พอกิน ต้องแสวงหาและกอบโกย หากพระเจ้าคือผู้ประทานปัจจัย ไม่ทอดทิ้ง มีข้อพิสูจน์ เช่น ผู้หญิงตั้งครรภ์จึงจะสามารถมีน้ำนมได้ คือความมหัศจรรย์ ไม่มีวิทยาศาสตร์ที่สามารถทำน้ำนมแม่ได้ น้ำนมจะมารอเมื่อมีชีวิตมาปฏิสนธิในครรภ์ การกลัวความไม่ปลอดภัย หากไม่รู้จักพระเจ้าจะมีวัตถุบูชาต่างๆ มาคุ้มครองตัวเอง พระเจ้าคือผู้คุ้มครองที่ไม่มีใครมาทำอะไรได้ เมื่อใจสงบทุกอย่างจะสงบ การอดทน ละหมาดและขอดุอาอฺ คือ 3 อย่างที่ทำให้ทุกอย่างสำเร็จ”
ในเรื่องของความขัดแย้ง อ.บรรจง บอกว่า ด้วยคำสอนที่ถูกส่งมาในสมัยที่แตกต่างกัน เหมือนคำสอนพื้นฐานเรื่องพระเจ้า ความศรัทธา แตกต่างตรงความเข้าใจและการตีความ การนำไปใช้ จึงจำเป็นต้องศึกษาศาสนาอย่างถูกต้อง ในทางวิทยาศาสตร์ มนุษย์สามารถใช้สมองในเรื่องอะไรก็ได้ แต่ด้านจิตวิญญาณต้องมีศาสนาเป็นพื้นฐาน ถ้าชีวิตไม่สมดุลย์ก็ไม่สมบูรณ์ ศาสนาจะตอบสนองร่างกายและวิญญาณไปด้วยกัน เมื่อถามว่าอิสลามคืออะไร พุทธคืออะไร ก็ไม่เข้าใจถึงแก่นธรรม ไม่เข้าใจตัวเองก็ไม่เข้าใจของคนอื่น
“เมื่อเข้าใจจะเป็นความสวยงามของศาสนา อย่าขยายความขัดแย้ง ต้องศรัทธาในบรรดานบี ความยุติธรรมเป็นสากล เป็นคุณสมบัติของพระเจ้า ถ้าเข้าใจก็จะร่วมกันอย่างสงบ”
สวัสดีอิสลามมิได้มุ่งหวังเพียงแค่นี้ ยังมุ่งหวังให้ทุกคนทุกศาสนิกต่างเข้าใจในกันและกัน อยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้อย่างสันติ และมุ่งหวังไปยังโลกหน้าที่สันติเช่นเดียวกัน