หน้าแรก ข่าวในประเทศ ข่าวชายแดนใต้

ตำรวจหญิงมุสลิมดีใจราชการเปิดเสรีให้สวมฮิญาบทำงาน เผยความหวังภาคใต้สงบ

ว่าที่ร้อยตำรวจโทหญิงนัศริน ซาและ รองสารวัตรฝ่ายอำนวยการกองกำกับการสืบสวนสอบสวนศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.)
ตำรวจหญิงมุสลิมศิษย์เก่าม.แม่โจ้-รามคำแหงดีใจที่ได้ สวมฮีญาบทำงานชี้ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ต้องเป็นธรรมต่อประชาชนเผยมีความหวัง ให้ภาคใต้สงบ แนะสตรีดูแลสุขภาพ อาหารการกิน สวมบทบาททั้งเป็นแม่และภรรยาที่ดี

นสพ.สงขลา ทูเดย์ เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2559 ในคอลัมน์ “ผู้ญิ๊ง ผู้หญิง” ได้แนะนำให้รู้จักกับว่าที่ร้อยตำรวจโทหญิงนัศริน ซาและ รองสารวัตรฝ่ายอำนวยการกองกำกับการสืบสวนสอบสวนศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.)ช่วยราชการกองกำกับสืบสวนสอบสวน 2 ชุดปฏิบัติการณ์

ว่าที่ร้อยตำรวจโทหญิงนัศรินเรียนจบปริญญาตรีสาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้และจบปริญญาโทรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้ความเห็นว่า ในฐานะของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ งานในหน้าที่คือต้องให้ความเป็นธรรมต่อประชาชนโดยหน้าที่อยู่แล้ว ลักษณะปฏิบัติงานช่วยแปลภาษาจากผู้ต้องหาที่ถูกจับตามหมายจับ และรับผิดชอบหน้าที่ธุรการชุดงานด้านมวลชน แปลภาษาในภาษาอาเซียน

ทั้งนี้ในส่วนที่รับผิดชอบคืองานมวลชน ในงานมวลชนนี้สำคัญที่ต้องใช้ใจ เพราะใจ ที่มุ่งมั่นเพื่อให้เกิดความสันติสุขในสามจังหวัด และในความเป็นผู้หญิงงานมวลชนในหน้าที่จึงทำให้สังคมยอมรับมากขึ้น ผู้หญิงทุกวันนี้มีบทบาทต่อสังคมมากขึ้น

ว่าที่ร.ต.ท.หญิงนัศรินเปิดเผยว่าตนเป็นคนหนึ่งที่ ได้เรียกร้องให้ตำรวจหญิงมุสลีมะห์สวมฮีญาบได้ ตามหลักการศาสนาอิสลาม ที่ได้กำหนดให้ผู้หญิงต้องปกปิดร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้ายกเว้นใบหน้าและ ฝ่ามือ

จ.ส.ต.หญิงไอดา นรารุ่งเรือง สภ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เป็นคนแรกที่เรียกร้องให้ตำรวจหญิงมุสลิมสวมฮิญาบ จนมีหนังสืออนุโลมอย่างทุกวันนี้ ซึ่งเราได้ต่อยอดให้เกิดเป็นระเบียบให้กับทางหน่วยงานว่าที่ร.ต.ท.หญิงนัศรินกล่าว

ว่าที่ร.ต.ท.หญิงนัศรินกล่าวว่าปัจจุบัน ทั่วประเทศมีตำรวจหญิงมากขึ้นการสวมฮีญาบ เป็นหลักปฏิบัติที่ต้องยึดถืออย่างเคร่งครัด ศาสนาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน จึงรู้สึกดีใจที่ปัจจุบันรัฐบาลเปิดเสรีเรื่องศาสนา อย่างน้อยก็สามารถสร้างความเข้าใจกับคนในพื้นที่ สามารถสร้างศรัทธาให้คนในพื้นที่ได้ ทำให้เขารู้สึกอุ่นใจกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ที่ไม่ทิ้งวัฒนธรรมที่สวยงาม

ตำรวจหญิงรัศรินกล่าวอีกว่าขณะนี้ตำรวจมีนโยบายเข้าใจเข้าถึงพัฒนา ซึ่งผู้หญิงในวันนี้ไม่มีวันหมดโอกาสที่จะได้แสดง ศักยภาพของตนเอง เมื่อผู้หญิงได้สิทธิความเท่าเทียมกับผู้ชายแล้ว เราต้องรู้จักที่จะนำความสามารถนั้นมาพัฒนาบทบาท หน้าที่ อย่างถูกที่ ถูกทาง

ขณะเดียวกัน ผู้หญิงก็ควรรักษาคุณสมบัติที่พ่อแม่สั่งสอนขัดเกลาให้เราเป็นผู้หญิง นั่่น คือความละเอียดอ่อน อ่อนโยน และเรียนรู้เพื่อผสมผสานระหว่างความอ่อนโยน อดทนและเข้มแข็ง เมื่อนั้นผู้หญิงจะสามารถเป็นสาวทันสมัยและสร้างบทบาทใหม่ที่มีความสำคัญกับ สังคมได้

เธอมีคติประจำใจในการดำเนินชีวิต ทำดีที่สุดในหน้าที่ที่รับผิดชอบโดยมีจุดยืนที่มั่นคงในความเป็นตัวตนของตัวเอง

สำหรับการดูแลสุขภาพ ว่าที่ร.ต.ท.หญิงนัศรินกล่าวว่าต้องทำ จิตใจสงบกับทุกๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คิดบวกเข้าไว้ นำหลักการในความศรัทธาประจำใจมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ทุกอย่างได้จากภายในคือจิตใจ หากจิตใจเราคิดดี คิดบวก จะส่งผลถึงสุขภาพที่ดีได้

สำหรับเรื่องอาหารการกินเธอเล่าว่า ก็ กินอาหารไทยเป็นหลัก เพราะอาหารไทยเป็นอาหารที่เหมาะกับสภาพความเป็นอยู่ของบ้านเราอยู่แล้ว ดูสุขภาพควบคู่กับดูแลจิตใจ ซึ่งไม่ยากเลยเพียงเท่านี้ก็ทำให้ผู้หญิงทำงานอย่างเราดูดีได้ ทั้งนี้เวลาว่างจะให้ความสำคัญกับครอบครัวอยู่กับครอบครัว ให้ความอบอุ่นกับลูกๆทำกิจกรรมร่วมกัน สร้างความสุขให้เกิดขึ้นในครอบครัว

สำหรับมุมมองเกี่ยวกับผู้หญิงยุคใหม่แตกต่างจากผู้หญิงสมัยก่อนอย่างไร เธอกล่าวว่าแน่นอน โดยสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปทำผู้หญิงต้องปรับปรุงตัวเองให้ทันต่อโลก ไม่ว่าด้านการดำเนินชีวิต ความรับผิดชอบ จึงจำเป็นที่ผู้หญิงยุคใหม่ต้องเป็นผู้หญิงที่เก่งและทันสมัยเพื่อเคียงข้าง ผู้ชายสร้างความเจริญให้กับสังคม

อยากฝากผู้หญิงยุคใหม่ ถึงแม้เราจะเป็นผู้หญิงเก่งและทันยุค ทันสมัย แต่เราอย่าลืมบทบาทหลักที่สำคัญคือบทบาทความเป็นภรรยาที่ดี และบทบาทแม่ที่ดี อย่าลืมธรรมชาติของความเป็นผู้หญิงที่ถูกสร้างควบคู่กับความอ่อนโยน ความอ่อนหวาน ซึ่งแตกต่างจากผู้ชายใช้ให้เป็นประโยชน์กับธรรมชาติที่พระผู้เป็นเจ้าสร้างมา บทบาทที่ได้รับในหน้าที่การงานไม่จำเป็นต้องนำมาใช้กับชีวิตส่วนตัวว่าที่ร.ต.ท.หญิงนัศริน ทิ้งท้าย

 

ขอบคุณข่าวจาก : http://www.thaitribune.org/
http://songkhlatoday.com/