สายกิน สายเที่ยวต้องห้ามพลาด !! งานฉ่ำ ฟู้ดติวัล – Charm Foodtival เทศกาลอาหารถิ่นสุดยิ่งใหญ่เมืองสายบุรี 6-8 พฤศจิกายน 2563 ณ หาดวาสุกรี อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) และความร่วมมือจากคนในชุมชนอำเภอสายบุรี และจังหวัดปัตตานี จัดเทศกาลอาหารสุดยิ่งใหญ่ที่มีอาหารท้องถิ่น เอกลักษณ์ของพื้นที่อำเภอสายบุรี ภายในงานพบกับกิจกรรม Chef Table Zone ที่จะยกครัวมาปรุงอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่น และรังสรรค์เมนูพร้อมนำเสนอหน้าตาของอาหารในรูปแบใหม่ โดยเชฟมืออาชีพจากพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เชฟแอร์แห่งบ้านลูกเหรียง พูดคุยแลกเปลี่ยนใน หัวข้อ “วิกฤติโควิดกับผู้ประกอบการอาหาร” กับผู้ประกอบการอาหาร และกลุ่มส่งเสริมพัฒนานักธุรกิจรุ่นใหม่ชายแดนใต้ แบ่งปันประสบการณ์ด้นอาหาร กับเซฟแวน-เฉลิมพล จากรายการ Ktchen War Thailand และน้าบ้าฟ ภาณุ มณีวัฒนกุล เจ้าของร้านหนังสือ Rythm & Books หัวหิน นักเขียนสารคดี/ช่างภาพ ผู้เขียนหนังสือ “กาแฟของคนอาหรับและอาหารของคนอื่น”
ร่วมเป็นสักขีพยานในการแข่งขันทำอาหารที่มีวัตถุดิบหลักมาจาก “บูดู” เพื่อรังสรรค์และค้นหาอาหารสุดยอดจานพิเศษที่จะกลายมาเป็นมนู Local Signature ประจำพื้นถิ่น ชิม โชว์ แชะ Food and Craft Culture Exhibition จำหน่ายสินค้าและอาหาร รวมไปถึงงานคราฟสุดชิคจากผู้ประกอบการรุ่นใหม่ สุดพิเศษกับโชน Coastal Camp สำหรับชาวแคมป์ ที่มีการแชร์ความรู้ในการตั้งแคมป์ ขายสินค้าที่เกี่ยวกับการตั้งแคมป์อีกด้วย การแสดงดนตรีจากศิลปินในพื้นที่แบบ Social Distancing วันที่ 6 พฤศจิกายน พบกับ Budu Little วันที่ 7 วง Diary Jazz Band และปิดท้ายวันที่ 8 ไปกับเดอะบีด
ร่วมกันกระตุ้นศรษฐกิจและให้เกิดการกระจายรายได้เข้าสู่ชุมชน ธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจร้านอาหาร และชูคุณค่าความเป็นท้องถิ่นชายแดนใต้กลับมา จากความร่วมมือของทุกภาคส่วน เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
นางสาวนวพร ชัวชมเกตุ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)นราธิวาส กล่าวถึงภาพรวมของการท่องเที่ยวชายแดนใต้ในขณะนี้ว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่ที่มีนราธิวาสและยะลาติดเขตชายแดนมาเลเซีย มีนักท่องเที่ยวมาเลย์เข้ามาท่องเที่ยวกันในทุกช่องทางการเดินทาง หากเมื่อสถานการณ์โควิด 19 ที่ทำให้ต้องปิดด่านเข้าออกระหว่างประเทศในทุกด่าน นักท่องเที่ยวมาเลย์เดินทางเข้ามาไม่ได้และไม่รู้ว่าจะเปิดด่านได้เมื่อไหร่ จึงต้องมุ่งเน้นนักท่องเที่ยวในพื้นที่และในประเทศด้วยกันให้มาเที่ยว กระจายรายได้ในประเทศ
“เช่นยะลา เพิ่งเปิดตัวสกายวอร์ค ที่อัยเยอร์เวง เบตงไป มีกระแสตอบรับจากโลกโซเชี่ยลดีมาก นักท่องเที่ยวเข้ามายังเบตงเยอะมาก เราอยากให้มีการเชื่อมต่อการท่องเที่ยวมายังเบตง แล้วไปยังยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ครบวงจร แม้สามจังหวัดจะเป็นเมืองรอง แต่มีการรองรับนักท่องเที่ยวด้วยสนามบินทั้งหาดใหญ่ นราธิวาส และกำลังจะเปิดในเดือนธันวาคมที่เบตง เราจัดตารางการท่องเที่ยวที่มาลงเครื่องหาดใหญ่ แล้วไปเที่ยวต่อที่ปัตตานี ยะลา ขึ้นเครื่องกลับที่นรา หรือลงเครื่องที่นรา ไปยะลา ปัตตานี แล้วขึ้นเครื่องกลับที่หาดใหญ่ ททท.ส่งเสริมร่วมกับพันธมิตรนำเที่ยว นำนักท่องเที่ยวมาจากกทม. และจังหวัดอื่นๆ มาทุกปี โดยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย”
“การรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวจากอินฟลูเอนเซอร์ บล็อกเกอร์ต่างๆ มีอิทธิพลทำให้กลุ่มเจนวาย วัยรุ่น มาเที่ยวในพื้นที่ได้ดีมาก เป็นกระบอกเสียงให้นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่มาเที่ยวมากขึ้น ได้มาร่วมกิจกรรม สัมผัสวิถีชีวิตและวิถีชุมชน เป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่า ส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องการไม่ใช่แค่มาถ่ายภาพแล้วกลับไป”
“งานฉ่ำครั้งนี้ เป็นการส่งต่อเรื่องราวอาหารการกินของสามจังหวัดที่เป็นพื้นที่พหุวัฒนธรรมในทุกด้าน อาหารเป็นเรื่องรามวส่งใหนักท่องเที่ยวรู้จักพื้นที่ มาสัมผัสวิถีชาวแคมป์ของคนรุ่นใหม่ว่าแคมป์ริมทะเลต่างกับแคมป์บนภูอย่างไร การรังสรรค์เมนูใหม่ๆ จากทรัพยากรในถิ่น เป็นงานที่ควรมาสัมผัส” นางสาวนวพร ทิ้งท้ายถึงงานฉ่ำ