หน้าแรก การศึกษาและเทคโนโลยี การศึกษา

การเมืองคนรุ่นใหม่ลามถึงชายแดนใต้ ประธานเปอร์มัส ยืนยัน Flash Mob ต้องต่อเนื่องเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง

ปรากฎการณ์การเมืองชั่วโมงค่อนข้างจะดุเดือดไม่น้อยทั้งในสภาฯและนอกสภาฯ หลังจากมีการยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามความผิด มาตรา 72 สั่งยุบพรรค และตามมาตรา 92 เพิกถอนสิทธิกรรมการบริหาร 10 ปี หลังจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยคำร้องกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบมาตรา 72 พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 กรณีพรรคอนาคตใหม่ กู้ยืมเงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191.2 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ประเด็นดังกล่าวได้สร้างกระแส ความสังสัยและตั้งคำถามไม่น้อยจากภาคประชาชนที่มีความนิยมในอดีตพรรคอนาคตใหม่ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นคณะอนาคตใหม่ โดยเฉพาะจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนับสนุนการทำงานการเมืองของคณะอนาคตใหม่ จนมีการออกมาทำกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. โดยสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย ได้จัดกิจกรรม Flash Mob “ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม” และร่วมกันจุดเทียนทวงคืนความยุติธรรม “เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ” ที่ลานปรีดี ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ต่อมาวานนี้ (24 ก.พ.) นิสิต นักศึกษา หลายสถาบัน อาทิ จุฬาฯ ม.เกษตร ม.ขอนแก่น ม.มหิดล เริ่มเคลื่อนไหวแสดงพลัง โดยชูหลักการเรื่องการต้านความอยุติธรรม หนุนประชาธิปไตย ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นไปอย่างสันติ

ทั้งนี้การเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มนิสิต นักศึกษา ของรั้วสถาบันต่างๆ มีแนวโน้มที่เกิดขึ้นต่อเนื่องทั่วทุกภาคของประเทศไทย เฉกเช่นเดียวกับกลุ่มนิสิต นักศึกษาในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่ง นายซูกริฟฟี ลาเตะ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และประธาน“สหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียน และเยาวชน ปาตานี” หรือเปอร์มัส (PerMAS)หนึ่งในองค์กรที่ทำงานเคลื่อนไหวทางเมืองในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องให้สัมภาษณ์ประเด็นดังกล่าว ต้องยอมรับว่ากระแสยุบพรรคอนาคตใหม่เป็นกระแสที่ช่วยเร่งบรรยากาศการตื่นตัวทางการเมืองของเพื่อนนักศึกษา ซึ่งที่ผ่านมาก็มีมาเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่ชัดเจนมากนัก แต่กรณียุบพรรคอนาคตใหม่ซึ่งเป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่แสดงให้เห็นถึงทำงานการเมืองเพื่อสิทธิ เสรีภาพ ประชาธิปไตย จึงทำให้เป็นตัวเร่งอย่างดี

“หลายวันที่ผ่านมาเราก็เห็นการเคลื่อนไหวของเพื่อนๆนิสิต นักศึกษา ภาคต่างๆ และเราก็เห็นเพื่อนในพื้นที่ก็ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อยืนยันหลักการประชาธิปไตย แต่เรื่องที่อาจจะยากที่สุด คือ การรักษาความต่อเนื่องในการเคลื่อนไหว ข้อกังวลของเราตอนนี้ แฟรชม๊อบ จะไม่มีความต่อเนื่อง กลัวจะยืนระยะได้ไม่นาน แต่ถ้าเพื่อนนักศึกษาสามารถยืนระยะได้นั้น ก็จะเกิดขบวนนักศึกษาที่จะรวมตัวกัน ภาคประชาชนก็จะอยากมาร่วมกันมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความกดดันให้กับรัฐบาล สร้างการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้”

ซูกริฟฟี ยังบอกอีกว่าสำหรับการเคลื่อนไหวของเปอร์มัสในเรื่องนี้นั้น ก็มีการติดตามมาอย่างต่อเนื่อง มีการพูดคุยกับเพื่อนเครือข่ายนักศึกษาที่ต่างๆ มาโดยตลอด ซึ่งตอนนี้ก็มีเพื่อนในกลุ่มเปอร์มัสเองเข้าไปมีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวในฐานะปัจเจกนิสิต นักศึกษา ของสถาบันนั้นๆ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีการเคลื่อนไหวจากเปอร์มัส เพื่อยืนยันคุณค่าเรื่องประชาธิปไตยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสันติภาพปาตานี แต่จะเคลื่อนไหวอย่างไรนั้น ค่อยติดตามกันอีกที

ทั้งนี้การเคลื่อนไหวแบบ แฟลชม๊อบโดยกลุ่มนักศึกษาในพื้นที่ จชต. นั้น เคยจัดมาแล้วโดยองค์การนักศึกษา มอ.ปัตตานี และกำลังจะจัดอีกครั้งโดย สโมสรนักศึกษาคณะรัฐศาตร์ มอ.ปัตตานี ซึ่งได้นัดหมายบุคคลที่สนใจรวมตัวในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 16.30 น. ณ หน้าตึกกิจกรรมนักศึกษา โดยมีการประชาสัมพันธ์ผ่านเพจว่า “สอบเสร็จพร้อมเผด็จศึก ขอเชิญชาว มอ.ปัตตานีเเละผู้ยืนหยัดเพื่อความเป็นธรรม ร่วมขยี้รอบที่สอง กับ เเฟลชม็อบ #มอออตานีขยี้รอบที่สอง ออกมารวมตัวเพื่อส่งเสียง เรียกร้องประชาธิปไตยเเละสังคมที่เป็นธรรม โดยกิจกรรมจะเป็นการปราศรัยจากนักศึกษาที่สนใจ และร่วมเขียนข้อความไว้อาลัย

สำหรับองค์กร PerMAS หรือ “สหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียน และเยาวชน ปาตานี” นั้น มีความเป็นมาตั้งแต่เกิดไฟใต้ ปี 47 ซึ่งขณะนั้นได้เกิดการตื่นตัวของเยาวชน นักศึกษาในพื้นที่เพื่อมีบทบาทในการแก้ไขความขัดแย้งในพื้นที่ ต่อมาก็พัฒนามาเป็น องค์กรสหพันธ์นิสิตนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ใช้ชื่อย่อว่า (สนน.จชต.) ก่อตั้งขึ้นมาบนหลักการและเหตุผลเพื่อการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้มีบทบาทเป็นตัวเชื่อมประสานระหว่างองค์กรต่างๆ เป็นกระบอกเสียงนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่งเพื่อเป็นสื่อทางเลือกให้กับภาคสังคมได้ทำความเข้าใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้านก่อนยกระดับเครือข่ายต่อเนื่องจนมาเป็นองอ์กรเปอร์มัสในปัจจุบัน