Haaretz หนังสือพิมพ์รัฐอิสราเอล เปิดเผยถึงรายละเอียด ‘ข้อตกลงแห่งศตวรรษ’ ของโดนัลด์ ทรัมป์
ว่าจะผลักดันให้ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์หลายล้านคนโอนสัญชาติและเข้าไปตั้งรกรากอยู่ในประเทศอาหรับอื่น อาทิ เลบานอน ซีเรีย จอร์แดน อิรัก
ในระหว่างที่ประชาคมโลกจัดงาน ‘วันอัลกุดส์นานาชาติ’ เพื่อย้ำเตือนถึงสิทธิอันชอบธรรมของชาวปาเลสไตน์เหนือดินแดนที่ถูกยึดครอง ผู้นำทางการเมืองหลายชาติได้ให้คำเตือนถึงแง่มุมที่ลึกลับซับซ้อนของแผนการภายใต้ ‘ข้อตกลงแห่งศตวรรษ’ ของสหรัฐฯ
โดย Ali Larijani ประธานรัฐสภา สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน เปิดเผยว่าสิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวคือ การกำจัดปัญหาการส่งตัวผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์กว่า 6 ล้านคน กลับคืนสู่บ้านเกิดเมืองนอน ซึ่งการจะไปถึงเป้าหมายดังกล่าวนี้ สหรัฐจะให้ความช่วยเหลือและจัดเตรียมข้อตกลงทางเศรษฐกิจฉบับใหม่ให้แก่กลุ่มประเทศอาหรับในอ่าวเปอร์เซีย
หนังสือพิมพ์ Haaretz ของรัฐเถื่อนอิสราเอล เปิดเผยว่ารัฐบาลสหรัฐกำลังวางแผนกดดันให้ทางการเลบานอนยินยอมมอบสัญชาติแก่ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์เพื่อเข้าไปตั้งรกรากในประเทศ ทั้งนี้เพื่อคลายความตึงเครียดในประเด็นความชอบธรรมของชาวปาเลสไตน์ในการกลับคืนสู่ดินแดนที่ถูกอิสราเอลยึดครอง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งปาเลสไตน์-อิสราเอล
Haaretz เปิดเผยต่อว่า ปัจจุบัน UNRWA ได้ประเมินตัวเลขผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ไว้ที่ 450,000 คน ในขณะที่บางรายงานระบุว่ามีจำนวนที่ต่ำกว่า ทั้งนี้รายงานดังกล่าวถูกระบุว่ามีจำนวนต่ำกว่าความเป็นจริง เนื่องจากถูกสหรัฐกดดันให้สร้างตัวเลขผลสำรวจผู้ลี้ภัยให้ต่ำ เพื่อทางการเลบานอนจะได้เปิดรับผู้ลี้ภัยที่เพิ่มมากขึ้นได้ โดยทางการสหรัฐเตรียมที่จะปรับแผนการในการให้ความช่วยเหลือเลบานอนให้รอดพ้นจากวิกฤติทางเศรษฐกิจที่ประเทศต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะกับหนี้สินที่มีมากกว่า 8.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นการตอบแทน
Haaretz ยังระบุว่า นอกจากเลบานอนแล้ว จอร์แดนยังเป็นอีกประเทศหนึ่งที่จะถูกสหรัฐบังคับให้เปิดประเทศ รับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ไว้จำนวนหลายแสนหรืออาจจะนับล้านคน โดยอ้างอิงถึงงานเขียนของนักข่าวสืบสวน Vicky Ward ในหนังสือ Kushner Inc. : Greed. Ambition. Corruption. ที่เปิดเผยแผนการของคณะทำงานโดนัลด์ ทรัมป์ ในการให้จอร์แดนจัดเตรียมพื้นที่ในเขตแดนตนเองแก่ชาวปาเลสไตน์ เพื่อแลกกับการได้ครอบครองดินแดนบางส่วนจากประเทศซาอุดิอาราเบีย ขณะที่ในส่วนของซาอุฯ จะได้ครอบครองเกาะ Sanafir และ Tiran จากอียิปต์ เป็นการตอบแทน ซึ่ง Haaretz ระบุว่าแผนการสับเปลี่ยนดินแดนในภูมิภาคตะวันออกกลางดังกล่าวนี้ของคณะทำงานทรัมป์เป็นสูตรที่สุดวิเศษ
จากรายงานของ Ward ยังระบุต่อว่า อียิปต์ถูกเสนอให้ยกดินแดนตลอดชายฝั่ง Sinai ระหว่าง Gaza กับ El-Arish เพื่อให้ประชากรที่หนาแน่นจาก Gaza อพยพเข้าไปยังดินแดนดังกล่าวได้ ซึ่งอิสราเอลจะมอบดินแดนในตะวันตกของ Negev ในขนาดพื้นที่เท่ากันแก่อียิปต์เป็นการตอบแทน รวมไปถึงโครงการก่อสร้างจำนวนมากที่จะสร้างกำไรอย่างมหาศาล ที่อิสราเอลจะอนุมัติให้แก่อียิปต์ อาทิ โครงการอุโมงค์ใต้ทะเล ระหว่างอียิปต์-ซาอุฯ และยังถูกสัญญาว่าจะได้รับเงินอัดฉีดอีกจำนวน 6.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังติดหล่มอยู่ในขณะนี้
นอกจากนี้แผนการดังกล่าวยังครอบคลุมไปถึงการกดดันให้ ชาติอาหรับอื่นๆ ที่มีชาวปาเลสไตน์ลี้ภัยอยู่ในประเทศ เช่น ซีเรีย อิรัก มอบสัญชาติให้ เพื่อแลกกับมาตรการความช่วยเหลือต่างๆ เป็นการตอบแทนอีกด้วย
โดยคณะทำงานของโดนัลด์ ทรัมป์ จะเปิดเผยส่วนแบ่งทางเศรษฐกิจของ ‘ข้อตกลงแห่งศตวรรษ’ ในระหว่างการประชุมที่กรุงมานามา ประเทศบะห์เรน ในระหว่างวันที่ 25-26 มิถุนายนนี้ ซึ่งทางการซาอุและยูเออี เป็นชาติมุสลิมแรกที่รับปากจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมประชุมเช่นเดียวกับรัฐเถื่อนอิสราเอลที่จะส่ง Moshe Kahlon รมว.คลังเข้าร่วม ในขณะที่ชาวปาเลสไตน์ได้เรียกร้องให้ชาติมุสลิมบอยค็อตการประชุมดังกล่าวเพราะถือเป็นการรับรองการยึดครองดินแดนของรัฐเถื่อนอิสราเอล
อ้างอิง: globalresearch
IsraelLebanonPalestinianrefugees