คณะผู้แทนประเทศสมาชิกโอไอซีที่เดินทางเยือนจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ระหว่างวันพุธที่ 15 ก.พ.60 ถึงวันศุกร์ที่ 17 ก.พ.60 มี 5 ประเทศด้วยกัน ประกอบด้วย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน, เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรบาห์เรน, อัครราชทูต อินโดนีเซีย ณ กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย, กงสุลใหญ่สาธารณรัฐอิสลามปากีสถานประจำซาอุดีอาระเบีย และ เอกอัครราชทูตตุรกีประจำโอไอซี
สำหรับภารกิจของคณะผู้แทนประเทศสมาชิกโอไอซี คือการติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ซึ่งโอไอซีให้ความสนใจมาอย่างต่อเนื่อง โดยกิจกรรมสำคัญจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ มีการลงพื้นที่จังหวัดปัตตานีเพื่อรับฟังการชี้แจงการแก้ไขปัญหาจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รวมทั้งพบปะประชาชน เยี่ยมสถานศึกษา และตรวจเยี่ยมศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ที่ทำหน้าที่เก็บพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในคดีความมั่นคง รวมถึงตรวจเยี่ยมศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ซึ่งทั้งสองหน่วยงานตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดยะลา
สำหรับ โอไอซี(Organisation of lslamic Cooperation : OIC) เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของโลกมุสลิม และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหประชาชาติ มีบทบาทอย่างสูงในการติดตามคุ้มครองคนมุสลิมในประเทศที่ประชากรมุสลิมเป็นชนกลุ่มน้อย โดยประเทศไทยเป็น 1 ในประเทศผู้สังเกตการณ์ของโอไอซี
วันที่ 15 ก.พ.60 คณะผู้แทน OIC เยี่ยมชมกิจการของ สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา และเยี่ยมชมวิถีชุมชน บริเวณตลาดนัดหน้า มอ.ปัตตานี โดยคณะผู้แทน OIC ได้กล่าวแสดงความประทับใจในวิถีชุมชน การดำเนินชีวิตเป็นแบบปกติสุข ไม่มีลักษณะที่บ่งบอกว่าเป็นพื้นที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ ซึ่งทางคณะฯ จะนำข้อมูลและสิ่งที่ได้พบเห็น กลับไปแจ้งให้ประเทศสมาชิก OIC ทราบต่อไป
วันที่ 16 ก.พ.60 คณะผู้แทน OIC เยี่ยมชมการปฏิบัติงานของ ศพฐ.๑๐ โดยมีประเด็นพูดคุยที่สำคัญ คือ การใช้วัตถุพยานประกอบการพิจารณาคดี เช่น ดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ ผลตรวจอาวุธ/กระสุน เพิ่มเติมจากการใช้พยานบุคคล มีระบบในการดำเนินงานที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมทั้งมีการสนับสนุนข้อมูลให้กับ ศนว.ยธ. และแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อความถูกต้องและทันสมัย
การเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของ ศพฐ.๑๐ ของ คณะผู้แทน OIC ในครั้งนี้ มีความเข้าใจในขั้นตอนการตรวจพิสูจน์หลักฐาน และพอใจในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ของไทยว่ามีความเป็นมาตรฐานและเชื่อถือได้ พร้อมกับชมเชยเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีความพยายามในการปฏิบัติงานเป็นอย่างยิ่ง และได้กล่าวชื่นชมหัวหน้าชุดพิสูจน์หลักฐานที่เป็นผู้หญิงอีกด้วย
หลังจากนั้นเดินทางไปยัง ศอ.บต. พบปะหารือกับ เลขาธิการ ศอ.บต. พูดคุยในประเด็น การพัฒนาพื้นที่สามเหลี่ยมเศรษฐกิจ, การสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง
ในช่วงบ่ายเยี่ยมชมกิจการของ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี ซึ่งได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ จชต. และเดินทางไปเยี่ยมชมชุมชนสองวิถีบ้านทรายขาว การใช้ชีวิตความเป็นอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ในสังคมพหุวัฒนธรรมบนพื้นฐานความแตกต่างทางด้านศาสนา
วันที่ 17 ก.พ.60 คณะผู้แทน OIC เยี่ยมชมโรงเรียนทวิภาษา โรงเรียนบ้านประจัน ที่มุ่งส่งเสริมการศึกษาการเรียนการสอนแบบทวิภาษาไทย – มาลายู เนื่องจากการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีคุณภาพ และพบปะหารือกับคณะกรรมการอิสลามประจำ จชต.
คณะผู้แทน OIC ได้ชื่นชมการดำเนินการของรัฐบาลไทย ในการแก้ไขปัญหา จชต. ด้วยความจริงใจ โปร่งใสและเปิดกว้าง ได้แสดงความประทับใจต่อสิ่งที่ได้พบเห็น เช่น การพัฒนาในด้านต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ การอยู่ร่วมกันของประชาชนภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม โดยไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา
ที่สำคัญ คณะผู้แทน OIC ได้รับทราบถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ จชต.ได้ลดลง รวมถึงได้รับทราบข้อมูลการดำเนินนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ เช่น สามเหลี่ยมเศรษฐกิจเมืองต้นแบบมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งจะอำนวยผลประโยชน์ให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังได้รับทราบถึงการพัฒนาด้านการศึกษา โดยเฉพาะอิสลามศึกษาและการเรียนการสอนแบบทวิภาษาไทย – มาลายู เพื่อพัฒนาเยาวชนมุสลิมซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ในพื้นที่ รวมถึงได้รับทราบถึงสิทธิและเสรีภาพในการทำกิจกรรมทางศาสนาของชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ด้วย ในโอกาสดังกล่าว คณะประทับใจการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของชาวไทยพุทธและมุสลิม ซึ่งสอดคล้องกับหลักการของศาสนาอิสลาม ที่ไม่สนับสนุนความรุนแรง
อีกทั้ง คณะผู้แทน OIC มีความเข้าใจในบริบทและภารกิจของ กอ.รมน.ภาค ๔ สน. ว่าเป็นหน่วยงานที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างสันติสุข ควบคู่กับพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงความรับผิดชอบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยยึดหลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนไปพร้อมๆ กัน
พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.รมน.ภาค 4 ได้กล่าวถึงกรณีที่ตัวแทนองค์การความร่วมมืออิสลาม หรือโอไอซี ลงมาติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ทางโอไอซีบอกว่าไม่สนับสนุนความรุนแรง และเห็นว่าที่ผ่านมารัฐบาลเดินหน้าการแก้ไขปัญหามาถูกทางแล้วคือให้ประชาชนมีรายได้และอาชีพ มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ และเกิดความสงบสุขขึ้น เพราะปัจจุบันประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อของใช้สอยมากมาย รวมทั้งไปสถานบันเทิงต่างๆ และร้านอาหาร ทำให้เศรษฐกิจเฟื่องฟูทุกอย่าง ซึ่งจะเห็นได้ว่าทุกอย่างเริ่มดีขึ้น และสถานการณ์ความรุนแรงเบาลง
ที่มา : http://www.southernreports.com